บทนำ
แก้วน้ำที่สะท้อนให้เห็นสีเหลืองแกมน้ำตาลของแอลกอฮอล์อยู่ภายในถูกมือหนากำไว้แน่น คนที่กำคล้ายกับเอาอารมณ์มาลงที่แก้วทั้งหมด ก่อนจะค่อยๆ คลายมือออกช้าๆ เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าถ้าออกแรงมากกว่านี้แก้วจะต้องแตกคามือแน่ๆ
“เฮ้อ!” ลมหายใจร้อนถูกถอนออกมาจากคนที่ใบหน้าเริ่มแดงก่ำแล้วกระดกเหล้าลงอีกหนึ่งอึกจนหมดแก้ว ทว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หาได้ทำให้ชนาล้มทั้งยืนได้ทันที
ถ้าหากเป็นสามปีก่อนเขาคงไม่มีโอกาสได้มาดื่มเหล้าดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้แน่ๆ เพราะจะมีเสียงเล็กแหลมของใครบางคนคอยก่นด่าตลอดจนเขารู้สึกสำนึกผิด แต่ว่าตอนนี้เธอคนนั้นคงไม่มาสนใจไยดีเขาแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เธอได้เข้าวิวาห์กับพี่ชายของเขาไปแล้ว แถมตอนนี้ยังมีลูกน้อยตัวเล็กๆ ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตคู่พวกเขาอีกด้วย
“เอามาอีก” ชนาพูดห้วนๆ กับพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่าน พนักงานชายพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะไปจัดการตามหน้าที่ของตน
ชนากวาดสายตามองผู้คนภายในผับอย่างเหม่อลอย แสงสีที่สาดส่อง ความครึกครื้นในยามค่ำคืนไม่เห็นจะช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด ตรงกันข้ามภาพของเธอคนนั้นในวันวานยังคอยผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขาอยู่เรื่อยๆ
‘แกจะกินให้ตายไปเลยใช่มั้ย!’ ดารินพูดขึ้น
‘นิดเดียวเองดาริน แกจะเอาอะไรนักหนากับฉัน’ ชนาแย้ง
‘ได้! งั้นฉันจะไม่ยุ่งกับชีวิตแกอีก ตามสบายอยากทำอะไรก็ทำเลยนะ’ คนพูดทำแก้มป่องงอนๆ แล้วเดินจากไป
‘เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน’
เพียงแค่เสียงเล็กๆ ที่คอยตวาดใส่มันก็ทำให้เขาวางแก้วเหล้าแล้วกลับบ้านในทันที เสียงที่เคยมีอิทธิพลต่อเขามันยังคงดังกึกก้องอยู่ในหัวตลอด ภาพความทรงจำที่เคยมีเธอยังคงฝังรากลึกยากจะถอนมันออกไปได้
แม้แต่คำพูดสุดท้ายก่อนที่เข้าจะประสบอุบัติเหตุ เขาก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้พูดมัน
ฉันไม่มีสิทธิ์…ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวแกอีกแล้วดาริน...
ใบหน้าหล่อเหลาก้มงุดมองชุดที่ตัวเองสวมใส่อยู่ ชุดสูทสีขาวสะอาดติดโบว์อยู่ที่คอ กางเกงขายาวบวกกับรองเท้าหนัง ทรงผมที่ถูกเซตขึ้นให้ดูสุภาพ ทั้งหมดนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเพิ่งไปร่วมงานแต่งมาหมาดๆ งานแต่งของพี่ชายที่แสนดีกับเพื่อนสาวที่เขารักสุดหัวใจ มันน่ายินดีใช่ไหม ในตอนแรกเขาก็คิดว่าอย่างนั้น แต่พอได้เห็นหนูนาลูกสาวของพวกเขาแล้ว ชนาก็ไม่อาจยินดีได้อีกต่อไป ใบหน้าเด็กน้อยเหมือนมีใบหน้าของหญิงที่ตนรักกับพี่ชายผสมอยู่ มันทำให้เขาหวนนึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา ทั้งที่คิดว่าเวลาสามปีมันช่วยเยียวยาให้เลือนรางได้แล้ว แต่ความจริงแล้วมันกลับยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เสื่อมคลาย
“สา เอาไปเสิร์ฟให้พี่หน่อย”
“ค่ะพี่กาย” สาริศาพยักหน้าให้กับกัมพลลูกชายติดพ่อเลี้ยงของเธอ ซึ่งเขาเองเป็นคนชักชวนให้เธอมาทำงานที่นี่เพราะเห็นว่าเธอเพิ่งเรียนจบมัธยมปลายแล้วแต่ยังว่างงานอยู่ ไม่ต้องแปลกใจว่าฐานะทางบ้านจะเป็นอย่างไร เพราะสาริศาหมดโอกาสเรียนต่อเพราะมารดาไม่มีเงินส่งเสีย หญิงสาวยอมรับในความจริงข้อนี้ดีจึงตั้งอกตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างตัว
ร่างบางก้าวฉับๆ ไปยังที่หมายพร้อมกับถือถาดเครื่องดื่มเอาไว้ในมือแน่น ก้นงามงอนส่ายไปมาในทุกจังหวะการก้าวย่างเดิน สาริศาจัดว่าเป็นผู้หญิงที่มีตูดมีนมตามสเปคผู้ชาย แถมยังมีผิวขาวน้ำผึ้งที่ดูสุขภาพดี ปากนิดจมูกหน่อยกำลังน่าเชยชม
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ก็มีมือปริศนาจับมาที่ก้นของเธอ พอหญิงสาวรีบหันขวับไปมองแขกผู้ชายที่นั่งกันอยู่สามถึงสี่คน แต่ก็ไม่มีใครแสดงท่าทีพิรุธให้เธอเห็น ฉะนั้นหญิงสาวจำเป็นต้องยอมให้โดนจับก้นฟรีอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ คิ้วบางย่นเข้าหากันก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มดังเดิมเมื่อต้องนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ลูกค้า
“เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยขณะวางถาดลงลงกับโต๊ะ ก่อนจะย้ายเครื่องดื่มบนถาดมาวางบนโต๊ะให้แขกอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาหวานชำเลืองมองชายหนุ่มตรงหน้าที่แต่งตัวดูดีแล้วอดนึกชื่นชมความหล่อเหลาของอีกฝ่ายไม่ได้
เมื่อชนารู้สึกตัวว่ากำลังถูกมองสองสายตาก็สบประสานกันทันที ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ไม่อาจปกปิดใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวได้เลย เธอไม่แม้แต่แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางเลยสักนิด ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้ารูปไข่ที่มีไรผมบางๆ ปรกลงมา ชวนให้มือหนาอยากจะปัดออกให้เหลือเกิน
“ว้าย!” สาริศาร้องเสียงดังด้วยความตกใจหลังจากที่เธอถูกแขกดึงให้ไปนั่งอยู่บนตัก
ชนาแสยะยิ้มชอบใจเมื่อเห็นท่าทางเลิ่กลั่กของคนบนตัก ความนุ่มนิ่มไม่ว่าจะแตะตรงไหนก็เจอเนื้อเจอหนังบวกกับกลิ่นกายหอมๆ นั่นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชม จมูกโด่งเป็นสันจรดลงที่ต้นแขนเล็กก่อนจะพรมจูบจนร่างบางสั่นระริก
“อย่าค่ะ” สาริศาร้องห้ามขณะพยายามจะลุกหนี ทว่ามือหนาที่รั้งเอวคอดไว้อยู่นั้นไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวหนีไปได้ หนำซ้ำเจ้าตัวยังไล้ขึ้นมาจนสัมผัสถึงเนินอกอวบที่ถูกเก็บไว้ให้เข้ารูปภายใต้บราด้านใน ชนาอดจินตนาการไม่ได้เลยว่าถ้าหากไร้ซึ่งอาภรณ์ความแตกสาวของเจ้าหล่อนคงชวนมองจนไม่อาจละสายตาแน่ๆ
สาริศาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด หารู้ไม่ว่ายิ่งเธอดิ้นอยู่บนตักเขามากเท่าไหร่มันก็เหมือนกับช่วยปลุกอะไรบางอย่างในกายของชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นมา บางอย่างภายใต้กางเกงนั้น…
“พี่คะ หนูไม่รู้จักพื่ อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” ด้วยความที่เป็นคนอ่อนหวานจะให้ตะโกนใส่แขกมันก็ใช่ที่ สาริศาจึงเกลี้ยกล่อมดีๆ เพื่อเลี่ยงปัญหาเพราะเธอก็เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ ถ้าหากมีเรื่องขึ้นมาอายุงานเธออาจจะจบแค่หนึ่งอาทิตย์นี้ก็เป็นได้
เด็กสาววัยสิบเก้าหมาดๆ กระสับกระส่ายด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับ มือหนาของชายหนุ่มที่กำลังซุกซนชวนให้ร่างบางพลั้งเผลอบิดกายตามด้วยความกระสัน ทว่าความอายของสาริศามีมากกว่า เพราะแขกในร้านกำลังเริ่มมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน
ชนาที่กำลังเคลิบเคลิ้มรีบเรียกสติตัวเองกลับมา เขาเพ่งมองหญิงสาวตรงหน้าให้ดีๆ ว่าคนที่เขากำลังคิดถึงกับผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกันหรือไม่ พอแน่ชัดในคำตอบจึงรีบผลักร่างบางออกในทันที
“โทษที” ชนาทุบหัวตัวเองแรงๆ ก่อนจะมองดวงตาหวานที่เคลือบด้วยหยดน้ำตานั้น เธอมองเขาไม่ถึงวินาทีก่อนจะเดินแกมวิ่งออกไปไม่แม้แต่จะหยิบกระทั่งถาดที่นำมาเสิร์ฟในตอนแรก
“เป็นบ้าอะไรวะชนา” ร่างสูงลุกออกจากโซฟาแล้วรีบมุ่งตรงไปยังห้องน้ำกะจะเอาน้ำสาดหน้าตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติ ดวงตาคมจ้องมองตัวเองผ่านกระจกที่มีหยดน้ำกระเด็นไปเกาะแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ สองแขนแกร่งค้ำกับเคาน์เตอร์อยู่อย่างนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงบทสนทนาหนึ่งดังแว่วเข้ามา
“น้องมึงตูดแม่งนุ่มดีว่ะ”
“อย่าบอกนะว่ามึงแต๊ะอั๋งน้องกูแล้ว” กัมพลเอ่ยถาม
“เออ ลองเทสของไงว่าคุ้มมั้ย”
“มึงไม่จำเป็นต้องเทสหรอก ถ้าแม่งไม่ดีจริงกูไม่กล้าเอามาแลกหนี้เยอะแบบนี้แน่ ถ้าพ่อกูไม่ห้ามป่านนี้กูเอามันไปนานแล้ว”
ไม่มีบทสนทนาใดๆ ต่อเมื่อแขกผู้มาใหม่เห็นว่ามีคนมองผ่านกระจกอยู่ ชนาถอนหายใจกับความเลวของพี่ชายที่กล้าเอาน้องสาวของตัวเองมาแลกกับเงิน อดสงสารผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงๆ แต่ก็นะมันไม่ได้เกี่ยวกับเขา ฉะนั้นเขาจึงเลือกเดินออกมาเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
ร่างสูงกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะกวาดสายตาหาผู้หญิงคนเมื่อครู่ ความรู้สึกตอนสัมผัสเนื้อเนียนของเธอยังติดอยู่ในใจ ความไร้เดียงสาของหญิงสาวเวลาถูกสัมผัสนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ายังไม่เคยมีชายคนใดได้เธอไปครอบครอง
จากที่กำลังดื่มด่ำกับความขมของเหล้าอยู่จู่ๆ ก็มีเสียงทะเลาะวิวาทดังแว่วขึ้น ชนาถือแก้วเหล้าค้างไว้ในมือแล้วมองไปยังต้นตอของเสียง เขาได้พบกับเด็กสาวที่เขาลากเธอมานั่งบนตักเมื่อครู่ แถมตอนนี้มีผู้ชายสองคนประกบข้างเธอพร้อมกับลากเธอไปที่ไหนสักแห่ง แถมเจ้าตัวก็โวยวายเหมือนไม่เต็มใจ
“พี่กายปล่อยหนูนะ!” ร่างเล็กพยายามปัดป้องเมื่อโดนจับแขนทั้งสองข้างไว้ โดยข้างซ้ายถูกจับโดยพี่ชายของเธอ ส่วนข้างขวาเธอไม่เคยรู้จักมักคุ้นกับเขาเลย
“อย่าเยอะนะสา คนมองเต็มแล้ว” กัมพลบีบแขนสาริศาแรงๆ แล้วบอกเธอเสียงแข็งขณะเร่งฝีเท้าเพื่อไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน
“ช่วยด้วย อุ๊บ!” ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาได้เมื่อเธอถูกฝ่ามือหนาของกัมพลปิดปากเอาไว้ ชายหนุ่มพยักหน้าให้เพื่อนของตนเป็นสัญญาณว่าต้องรีบช่วยกันนำเด็กไปส่งเสี่ยให้ถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ตาเสี่ยแก่ๆ จะเปลี่ยนใจยกเลิกสัญญาว่าจะยกหนี้ทั้งหมดแลกกับเวอร์จิ้นของสาริศา
ร่างเล็กดิ้นอย่างไรก็ไม่เป็นผล แค่แรงผู้ชายคนเดียวเธอก็สู้ไม่ไหวอยู่แล้ว แต่นี่พวกเขามากันถึงสองคน มีหรือผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะสู้ไหวได้ สาริศาจึงได้แต่จำทนเดินไปตามแรงลากของพวกเขา คนในร้านต่างก็เงียบกริบเพราะรู้ดีว่าชายสองคนนี้เป็นสมุนของเสี่ยเจ้าของบ่อนขนาดใหญ่ เลยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะร้องทัก ทุกคนได้แต่มองสถานการณ์ให้ผ่านไปเงียบๆ เพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว
แต่ผิดกับชนา สายตาคมกริบกำลังจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่วางตา บทสนทนาที่เขาได้ยินในห้องน้ำยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด เขารู้ดีว่าจุดจบของเด็กสาวคนนี้ก็คือบนเตียงแน่นอน เขารู้ดี...
อึก!
ชายหนุ่มกลืนเหล้าลงคอในจังหวะที่สายตาแสนเศร้าของเด็กไร้เดียงสาสบมองมาที่เขาพอดิบพอดี เหมือนกับว่าเธอกำลังเว้าวอนให้คนแปลกหน้าอย่างเขาไปช่วยเธอให้หลุดพ้น แววตาอันใสซื่อของเธอนั้นเขาไม่อยากจะนึก หากผ่านคืนวันนี้ไปความบริสุทธิ์ของเธอคงถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี
ใบหน้าหล่อเหลารีบเบือนหน้าหนีเมื่อสาริศาจ้องเขาไม่เลิก แค่ปัญหาของตัวเขาเองมันก็มากพออยู่แล้ว เขายังไม่อยากจะหาเรื่องใส่ตัวในตอนนี้ แถมแถวนี้ก็ไม่ใช่ถิ่นของเขา คงไม่ดีแน่ถ้าหากไปเหยียบเท้าใครจนเรื่องมันมาถึงตัวเอง
ไม่ต้องไปยุ่งนะชนา! เขาย้ำกับตัวเองในใจก่อนจะกระดกเหล้าตามเข้าไปรวดเดียวจนหมดแก้ว ชายหนุ่มวางแก้วลงที่โต๊ะแรงๆ ทำให้เกิดเสียงดังกังวานขึ้น ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มทำงานตามหน้าที่ของมัน และในจังหวะนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็นถาดเสิร์ฟเครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ไม่ยุ่ง! ไม่ยุ่ง! ไม่ยุ่งไงโว้ย!!!” ร่างสูงผุดลุกขึ้นทันควันก่อนจะตรงดิ่งไปยังยังคนชั่วที่กล้าทำเรื่องเลวๆ กับน้องสาวของตัวเองได้ลงคอ ทั้งที่ตอนแรกเขากะจะนั่งอยู่เฉยๆ แท้ๆ แต่ความไร้เดียงสาของเด็กผู้หญิงคนนั้นบวกกับความเลวของพี่ชายที่มันกล้าทำร้ายน้องสาวตัวเองได้ลงคอ แถมตอนนี้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ได้เดือดพล่านอยู่ในกาย ทั้งหมดนั้นไม่อาจทำให้ชนาทนดูได้อีกต่อไป
“พวกมึงทำระยำอะไรกันวะ!” ชนาตะคอกออกไปด้วยความโกรธ ใบหน้าหล่อเหลาในตอนนี้กลายเป็นถมึงทึงด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นผสม