เสียงรถของเฮียอาวุธดังเข้ามาในบ้าน ฉันรีบลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างด้วยความเป็นห่วง ที่ฉันห่วงเพราะคิดว่าเขาน่าจะเมา
แต่ภาพที่ฉันเห็น เขากำลังจู๋จีอีอ๋อกับผู้หญิงที่มาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นสวยเธอสวยมากสวยเซ็กซี่ตามสไตล์ของผู้หญิงของเฮียอาวุธ
ถ้าเอามาเปรียบเทียบกับฉัน คงเอามาเปรียบเทียบไม่ได้เพราะฉันไม่มีอะไรที่เปรียบได้กับผู้หญิงคนนั้นเลย ฉันดูได้ไปเลยแหละค่ะ
เสียงหัวเราะคิกคักของทั้งสองดังลั่นบ้านเขาคงจะมีความสุข ซึ่งมันแตกต่างจากฉัน ฉันเดินไปนอนที่เตียงอย่างหมดแรง
รู้สึกเจ็บปวดแต่ก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้ ได้แต่ข่มอารมณ์และความเจ็บปวดของตัวเองแล้วหลับตานอน
บางทีฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงทนอะไรแบบนี้ ทำไมฉันต้องมาทนเป็นคนหน้าโง่เป็นผู้หญิงที่ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อหน้าของเขา ทำไมฉันถึงต้องมาทนดูภาพที่ทำให้ฉันเจ็บปวดราวกับมีเข็มนับพันทิ่มแทงหัวใจ
ตอนเช้าของอีกวัน วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารไว้รอเขา เพราะเขาต้องไปทำงานแต่เช้าส่วนฉันก็ไปเรียนแต่เช้าเช่นกัน
"คุณแสนดีไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวจะไปเรียนสาย ที่เหลือเดี๋ยวอ้อมทำเอง" อ้อมเอ่ยบอกฉันขณะที่ช่วยฉันทำขนมพร้อมกับทำอาหารไปด้วย
"ค่ะ ฉันทำอาหารเสร็จเรียบร้อยส่วนขนมอ้อมก็ช่วยเตรียมไว้ให้ฉันด้วยแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแต่งตัวจะรีบมาช่วยนะคะ"
"ค่ะเดี๋ยวอ้อมจัดการเองคุณแสนดีไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ"
"ขอบใจจ้ะ" ฉันยิ้มให้อ้อมแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องของตัวเองก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำชำระร่างกาย พอสายน้ำเย็นๆชโลมร่างกายฉันก็รู้สึกสดชื่น ทำให้ฉันรู้สึกดีคลายความทุกข์ความอึดอัดในหัวใจ
พออาบน้ำเสร็จฉันก็มาแต่งตัว ฉันอยู่ในชุดนักศึกษาคงไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะว่าชุดมันเหมือนอะไรมันก็เหมือนคุณป้านั่นแหละ กระโปรงคลุมเข่ายาวจนเกือบถึงข้อเท้า เสื้อนักศึกษาก็เป็นเสื้อตัวใหญ่ๆไม่ได้รัดรูปร่างกายของฉันเลย แต่ฉันก็ชอบชุดแบบนี้นะคะมันใส่สบายไม่ต้องอึดอัด
ผมถูกมัดเป็นหางม้าอย่างเรียบร้อย ฉันทาแป้งเด็กธรรมดา ใบหน้าสวยหวานมีเลือดฝาด เป็นไปตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้แต่งแต้มอะไรมากมาย
ฉันหยิบแว่นตาอันนึงขึ้นมาสวมใส่ ฉันต้องใส่มันเวลาไปเรียน และหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแค่นี้ฉันก็พร้อมออกจากบ้านไปเรียนแล้ว
เมื่อฉันแต่งตัวเสร็จฉันก็รีบวิ่งออกจากห้องพร้อมกับข้าวของเครื่องเรียนของฉันแล้วตรงลงมาข้างล่าง ป่านนี้เฮียอาวุธก็คงจะตื่นแล้ว
มันก็คงถึงเวลาที่ฉันต้องปั้นหน้ายิ้มรับกับสิ่งที่เฮียอาวุธขอแล้ว เขาพาผู้หญิงคนเมื่อคืนมานั่งทานข้าวกับฉันด้วย เธอหันมามองฉันด้วยสายตารังเกียจหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้ได้ แต่ที่รู้ๆเธอมองเหยียดฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยแหละ
"อ้าวแต่งตัวเสร็จแล้วก็มาทานข้าวสิ มัวยืนอยู่ทำไมเดี๋ยวก็ไปมหาลัยสายหรอก" เฮียอาวุธเอ่ยพร้อมกับจ้องมองฉันด้วยสายตาที่ยากเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่
"ค่ะ" ฉันพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้น ดูแล้วเธอน่าจะมีอายุมากกว่าฉันเพราะหน้าตาของเขาเริ่มเข้าสู่วัยคุณป้าแล้ว ฉันคงต้องยกมือไหว้เขาละมั้ง (ที่จริงเธอก็ไม่ได้แก่อะไรหรอกค่ะฉันแค่รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเท่านั้น)
"นี่แยมแฟนของเฮีย" เฮียอาวุธแนะนำฉันรู้สึกหน้าชามาก นัยน์ตาของฉันฉันระริกก่อนจะปั้นหน้ายิ้มให้เขา
ในใจของฉันจะเจ็บมาก เจ็บจนอยากร้องไห้ออกมา เขาพูดเต็มปากเต็มคำว่าแฟนเขา ฉันเจ็บนะแต่ฉันก็ควรจะชินมากกว่า ควรจะชินเหมือนที่พยายามชินเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา
ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วหันไปหาคุณแยมก่อนจะยิ้มให้เธอ
"สวัสดีค่ะคุณแยม" ฉันยกมือไหว้เขาเพราะคิดว่าเขาน่าจะอายุเยอะกว่าฉัน
"เฮียนี่เมียเฮียกำลังมองแยมเป็นคนมีอายุอยู่นะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงห้วนมองฉันอย่างไม่พอใจก่อนจะหันไปมองหน้าเฮียอาวุธ
"ก็แสนดีอายุน้อยกว่าเธอแสนดีไหว้เธอก็ถูกแล้วนี่"
"แต่ ..."
"มันถูกแล้ว!"
"สวัสดีจ้ะ" เธอกระแทกน้ำเสียงใส่ฉันอย่างไม่เป็นมิตร ก็อย่างว่าแหละเธอเป็นแฟนของเฮียอาวุธหนิ เขามาแต่งงานกับฉัน ฉันเป็นภรรยาของเฮียอาวุธ มันก็คงเป็นธรรมดาที่เธอจะไม่พอใจ
"เรียกแย้มว่าพี่ก็พอ ไม่ต้องเรียกคงเรียกคุณอะไรหรอก" คุณอาวุธเอ่ย
"ค่ะ" ฉันพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทานอาหารไปอย่างเงียบๆ แต่ในความรู้สึกข้างในของฉันสิ มันก็ต้องเป็นธรรมดาที่ฉันจะต้องเจ็บ ทำไมฉันถึงไม่ชินกับความรู้สึกพวกนี้ก็ไม่รู้ ทั้งที่ฉันควรจะชินกับมันได้แล้ว
ถึงฉันจะเป็นเมียแต่งเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเมียของเขาที่สามารถใช้เงินของเขาได้ มีเงินมากมายใช้ปรนเปรอชีวิตได้ แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้เลย ตอนนี้ฉันกล้ำกลืนฝืนทน มีแต่ความทุกข์อยู่ในหัวใจ
ฉันได้แต่เงียบ และเงียบต่อไป เพราะฉันไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา ไม่มีสิทธิ์ในตัวของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยฉันก็ช่วยป้าน้อยและอ้อมเก็บโต๊ะก่อนที่จะไปเรียน อ้อมจัดการเอาขนมใส่กล่องอะไรให้ฉันเรียบร้อย ปกติเฮียอาวุธจะต้องไปส่งฉันที่มหาลัย แต่วันนี้เขาคงไม่ได้ไปส่งฉัน
"วันนี้เธอต้องไปเรียนเองนะ วันนี้เฮียจะต้องพาแยมไปขนของ"
"แสนดีจะไปยังไงล่ะคะแสนดีไม่มีรถ" ฉันกระแทกเสียงใส่ยังอดไม่ได้ เขาให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนอื่นแต่ไม่เคยให้ความสำคัญกับฉันเลย
"รถเมล์ไงยะ หรือไม่ก็ไปแท็กซี่ แค่นี้ก็คิดไม่ได้ยังโง่" คุณแยมพูดขึ้น
"เอาตามที่แยมบอก เธอไปรถเมล์ ส่วนเฮียจะรีบไปขนของให้แยม เฮียไปล่ะ"
เฮียอาวุธพูดจบก็ควงแฟนของเขาขึ้นรถไป ฉันได้แต่มองตามพร้อมกับร้องไห้ออกมา ฉันเหมือนส่วนเกินในชีวิตของเขาเป็นภรรยาที่เขาไม่ต้องการ เป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตา
รถของเฮียอาวุธออกไปโดยไม่แยแสฉันสักนิดฉันค่อยๆเดินออกจากบ้านเพื่อเดินไปหน้าปากซอยคงต้องไปแท็กซี่จริงๆเพราะฉันขับรถไม่เป็น อีกอย่างฉันก็ไม่มีรถด้วย