ทดสอบความอดทน

1389 Words
แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด แขกของบ้านยังนอนคดคู้กายอยู่บนโซฟา ข้างล่างเป็นผ้าที่ใช้คลุมตัวของเธอหล่นอยู่ พวกคนงานคงเห็นว่าอากาศเริ่มเย็นลงเลยหาผ้ามาคลุมให้ แต่เธอคงถีบมันลงไป มันถึงได้อยู่ในสภาพแบบนั้น “นอนเหมือนเป็นบ้านตัวเองงั้นแหละ” “จะให้ปลุกไหมคะ” แม่บ้านถามด้วยท่าทางนอบน้อม พนาส่ายหน้าเป็นคำตอบ เดินเข้าไปอุ้มร่างคนหลับขึ้นแนบอกอีกครั้ง ทันทีที่เขาทำแบบนั้น คนในอ้อมกอดก็ซุกหน้าเข้าหาอกอย่างรวดเร็ว ความร้อนจากลมหายใจเป่ารดผิวเนื้อภายใต้เสื้อชั้นดี ร้อนจี๋และรู้สึกจักจี้นิดๆ “เดี๋ยวผมจัดการเอง ห้องรับรองทำความสะอาดแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” พนาอุ้มร่างเย้ายวนขึ้นมานอนในห้องรับรองแขก ที่อยู่ติดกับห้องนอนของตัวเอง ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเธอไว้ เดินไปเปิดแอร์ในระดับที่เย็นกว่านั้นนิดหน่อย เสร็จแล้วก็ปล่อยให้เธอนอนอยู่แบบนั้น ไม่คิดจะกลับเข้ามาในห้องนั้นอีกเลย เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมาทีหลัง กลางดึกสงัด มัลลิกาลืมตาตื่น หลังจากนอนหลับจนเต็มอิ่ม รอบตัวมืดและเงียบสนิท ทำให้เกิดความสงสัย สมองคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่นานก็เข้าใจสถานการณ์ที่ตัวเองเผชิญอยู่ ต้องเหนื่อยขนาดไหนถึงได้หลับเป็นตายขนาดนี้ แล้วเธอไว้ใจคนๆนั้นขนาดนี้เลยเหรอ ถึงกล้าหลับในรถเขาได้ แล้วที่นี่มันที่ไหน ร่างสูงกว่า165 เซนติเมตร เดินฝ่าความมืดมิดเพื่อหาแสงสว่าง ใช้มือค่อยๆคลำตามส่วนที่คิดว่าเป็นพนังห้อง สองเท้าปัดป่ายเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรขวางทางเดินไหม การเดินในห้องมืดๆ เป็นอะไรที่เธอไม่ชอบเลย “อ๊ะ อะไรเนี่ย?” มัลลิการู้สึกแปลกๆ เมื่อมือของตัวเองสัมผัสโดยอะไรสักอย่างที่นุ่มแต่แข็ง เหมือนโซฟาและเหมือนเนื้อตัวของมนุษย์ “คนไง” “พนา?” “อืม อย่าเลื่อนลงต่ำกว่านั้นนะเดียร์” “อ๊ะ อะไรเล่า ทำไมไม่เปิดไฟ” มัลลิกาหน้าร้อนฉ่า โชคดีที่มันยังมืดอยู่ ถ้าไฟสว่างเขาต้องเห็นแน่ๆว่าเธอหน้าแดง พรึ่บ! ไฟในห้องสว่างอย่างรวดเร็ว มัลลิกาหลับตาลง ก่อนจะค่อยๆขยับเปลือกตาให้ชินกับแสง มองคนตรงหน้าที่สวมใส่ชุดนอนตาขวาง เปิดไฟตั้งแต่แรกก็จบแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องลูบคลำอะไรบนร่างกายของเขาให้เสียมือ “ที่นี่ที่ไหน บ้านคุณเหรอ” “อือ หิวไหม” “ฉันอยากอาบน้ำ” รู้สึกเหนียวตัวมาก อยากอาบน้ำจะแย่ แต่นี่ไม่ใช่บ้านตัวเอง จำเป็นต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านซะก่อน “เดี๋ยวจะลงไปเอาเสื้อผ้าขึ้นมาให้” “อาหารด้วยนะ ฉันหิว” “ผมไม่ใช่คนใช้ของคุณ” ใบหน้าหล่อเหลาตึงขึ้น เมื่อคนตัวเล็กเอาแต่ออกคำสั่ง “ก็นี่ไม่ใช่บ้านฉัน จะให้ฉันทำทุกอย่างด้วยตัวเองหรือไง” มัลลิกากอดอกมอง ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย แต่เธอไม่ใช่คนประเภทที่พูดจาดีๆ มันเลยสื่อออกไปแบบนั้นมั้ง “เอาแต่ใจ” มัลลิกาอมยิ้ม มองคนที่เดินฟึดฟัดจากไปอย่างอารมณ์ดี คำนี้เคยได้ยินเขาพูดอยู่บ่อยๆ ได้ยินอีกทีรู้สึกดีไม่น้อย ยิ่งมันทำให้ใบหน้าของเขาตึงขึ้นได้ เธอยิ่งอารมณ์ดี มัลลิกาใช้ห้องน้ำราวกับตัวเองเป็นเจ้าของมัน ลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ในขณะที่ปากพึมพำเนื้อเพลงสากลปีล่าสุด เสียงหวานที่ดังออกมาจากประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิท ทำให้คนที่ก้าวเข้ามาหน้าตึงหนัก “ทดสอบความอดทนกันสินะ” พนาพึมพำเสียงเบา มองเข้าไปในห้องน้ำแบบกระจกใส ที่คนข้างในไม่ยอมดึงม่านมาปิดส่วนอาบน้ำไว้ เขาชอบการดีไซน์ของมัน แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว เพราะมันทำให้เขาเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น ร่างเย้ายวนชวนหลงใหลยืนอยู่ในห้องน้ำ ไม่รู้ทำอะไรอยู่ เพราะเขาเห็นเป็นเงาตามส่วนโค้งส่วนเว้าเท่านั้น เธอคงจะอาบน้ำเสร็จแล้ว แม้เสียงเพลงจะยังคงดังอย่างต่อเนื่องก็ตาม ~My bad habits lead to late nights endin' alone พนาจำได้ทันทีว่าเพลงที่เธอร้องเป็นเพลงอะไรและเพลงของใคร เพราะเขาเองก็รู้สึกชอบและเปิดฟังบ่อยๆในช่วงนี้ เพลง bad Habits ของ Ed Sheeran บ่งบอกสิ่งที่เขาเป็นและรู้สึกกับเธอในตอนนี้ได้ดี ก๊อกๆ! “เสร็จหรือยัง” เคาะกระจกสองที เอ่ยถามคนข้างในที่ทำตัวราวกับไม่รู้ว่าห้องอาบน้ำนี้เป็นห้องแบบกระจก เธออาจจะรีบร้อนจนไม่ได้มอง หรือไม่ก็คิดอะไรจนไม่ได้ดูรอบตัวเลย “ยัง” “เสร็จแล้วก็ออกมาเดียร์ ไม่หนาวเหรอ” “ยังไม่เสร็จสักหน่อย” “ยังไม่เสร็จแล้วยืนทำอะไรอยู่” “กรี๊ด! ไอ้บ้า คุณแอบดูฉันเหรอ” มัลลิกาทรุดกายลงนั่งบนพื้น เมื่อมองออกไปด้านนอกห้องแล้วเห็นพนังเป็นกระจก แม้จะเป็นแบบฝ้าที่ไม่น่าเห็นข้างในชัดเจน แต่เธอมั่นใจว่ามันต้องเห็นข้างในได้แน่ๆ แล้วเมื่อกี้เธอกำลังยืนโพสต์ท่าอยู่ และยืนแบบที่ไม่ได้สวมอะไรเลยด้วย เขา…. เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย! “ออกมา” พนาถอนใจอย่างเบื่อหน่าย ดึกมากแล้ว เขาควรได้กลับไปนอนบนเตียงสักที ถ้าเธอมัวแต่หาเรื่องทะเลาะอยู่แบบนี้ เช้า เขาก็คงไม่ได้นอน “ฉัน….ฉันโป๊อยู่นะ คุณหยิบผ้าเช็ดตัวให้ทีสิ” มัลลิกาพูดเสียงเบาลง อยู่ดีๆก็รู้สึกราวกับสาวที่เพิ่งแต่งงานกับสามี คิดอะไรก็ไม่รู้ ขนลุกขนพองชะมัด เธอไม่ได้คิดจะจริงจังกับเขาถึงขั้นนั้นสักหน่อย “เรื่องมาก” “อะ ไอ้นี่นิ” บอกเลยว่าเขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอหลุดคำพูดไม่ดีด้วยเยอะที่สุด เขามันคนอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวพูดดี เดี๋ยวดุ จนเธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นคนยังไงกันแน่ “เปิดประตูสิ” พูดพร้อมกับมองผ้าเช็ดตัวในมือ คงมีแค่เธอคนเดียวนี่แหละที่เขายอมทำตาม ทั้งที่กำลังหงุดหงิด “ห้ามแอบดูนะ” “โอ้ยเดียร์! เคยเห็นหมดแล้ว ร่างกายคนเรามันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปง่ายๆหรอก” พรึ่บ! ประตูกระจกถูกเปิดออกกว้าง มัลลิกายืนหน้าตึงทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่า ดึงผ้าเช็ดตัวในมือหนามาพันรอบตัวอย่างรวดเร็ว หันหลังให้คนที่ยืนมองตาค้าง “เปลี่ยนไปใช่ไหมล่ะไอ้บ้าเอ้ย!” พูดจบก็เตะลมไปที มาว่าเธอไม่เปลี่ยนไปได้ไง หน้าอกหน้าใจเธอใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเยอะมากเลยนะเว้ย อกไข่ดาวที่เขาเคยค่อนขอดตอนคบกัน ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว “คิดจะทดสอบความอดทนกันหรือไงวะ!” ถ้าพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมาเห็นเขาตอนนี้ คงหมดความน่าเชื่อถือแน่ หมดกันภาพคนดีที่สั่งสมมา ยอมรับเลยว่าเธอเป็นคนเดียวจริงๆ ที่ทำให้อารมณ์เขาสวิงขึ้นลงได้ขนาดนี้ “อดทนอะไรล่ะ เคยเห็นหมดแล้วนี่ น่าจะชินได้แล้วนะ” พูดจบก็หันกลับมา เบะปากขึ้นสูง ก่อนจะเดินเบียดไหล่กว้างออกไปให้พ้นทาง เดินไปคว้านมือหาเสื้อผ้าในถุง เมื่อได้ชุดที่ถูกใจก็เดินตัวปลิวเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ลืมส่งสายตาดุๆมาให้ คนที่ยืนหน้าตึงอยู่ว่าห้ามแอบดูเธออีก ไม่งั้นเธอจะออกมาควักลูกตาเขาออกจากกัน “ถ้าแอบดูนะ ตายแน่” ทำมือเหมือนจะจิ้มตาคนตัวโต ก่อนจะปิดประตูลง ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ เมื่อหวนคิดถึงสิ่งที่ทำเมื่อครู่ แค่คำดูถูกของเขาทำไมถึงทำให้เธอโมโหและน้อยใจได้มากขนาดนี้ก็ไม่รู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD