“ฝันดีนะครับ” เขาบอกลาเธอก่อนจะเดินกลับบ้านไป ในขณะที่ธิดา มองตามร่างสูงไปด้วยหัวใจพองโต ธีรภัทรโทร. มาปลุกเธอตอนตีห้ากว่าๆ เกือบหกโมงเช้า เพื่อชวนเธอไปออกกำลังกาย
“ไม่ต้องวิ่งหนักๆ หรอกครับ แค่เราเดินเร็วๆ ให้เหงื่อออก ได้ขยับร่างกายก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งแล้วนะครับ ยิ่งถ้าเราน้ำหนักมาก เราก็ไม่ควรวิ่งหนักๆ นะครับ เพราะจะทำให้เข่าของเราใช้งานหนัก ช่วงนี้เน้นเดินเร็วและว่ายน้ำดีกว่าครับ สำคัญที่สุดคือต้องคุมอาหาร กินให้อิ่มแต่กินของไม่อ้วนและมีประโยชน์ครับ”
“ค่ะพี่ธี” เธอยิ้มให้พี่ชายข้างบ้าน นอกจากคำพูดน่ารักและให้กำลังใจแล้วเขายังชวนเธอทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกัน จากคนที่ตัดสินใจลดน้ำหนักและล้มเหลวหลายรอบก็กลับมามุ่งมั่นอีกครั้ง
“เป้าหมายมีไว้พุ่งชนครับ คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ เขายังผลิตเครื่องบิน ผลิตยานอวกาศได้เลยครับ” ธีรภัทรวางมือบนศีรษะของเธอ ก่อนจะโยกไปมา
“ขอบคุณค่ะ” มืออบอุ่นของเขาที่สัมผัสลงมาบนศีรษะทำให้เธอรู้สึกฟินเหลือกำลัง
กิจกรรมในช่วงเช้าคือการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารกับพี่ชายข้างบ้าน เธอรับอาหารคลีนไปขายที่มหาวิทยาลัยด้วย เพื่อนๆ ที่ได้ชิมอาหารฝีมือของธีรภัทรติดใจหันมาสั่งเป็นประจำ ทำให้เธอมีลูกค้าประจำทุกวัน
หลังกลับจากเรียนเธอก็จะไปช่วยเขาไปซื้อของมาเตรียมไว้ปรุงในวันรุ่งขึ้น กิจวัตรประจำวันของเธอกับเขาที่ต้องทำร่วมกันมีหลายอย่าง มันทำให้เธอคลายจากความเหงาที่คิดว่าต้องมาอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวไปได้มาก
“คืนนี้การบ้านเยอะเลยค่ะพี่ธี”
“นอนคนเดียวเหงาไหม” ธีรภัทรเอ่ยถามน้ำเสียงนุ่มนวลตามนิสัย
“ค่ะ ก็เหงานิดหน่อยค่ะ” เธอบอกเขาเสียงนุ่ม ธีรภัทรขยับมือมาโยกศีรษะของเธอไปมา
“มานอนค้างบ้านพี่ไหม”
“คะ?” เธอไม่แน่ใจว่าเขาชวนจริงๆ หรือชวนเล่นๆ
“ชวนมานอนที่บ้านครับ จะได้ไม่เหงา มีการบ้านมากนี่นะ เดี๋ยวพี่ช่วย”
เขาบอกเธอ มองเธอนิ่งๆ ด้วยสายตาอบอุ่น
“เกรงใจพี่ธีจังค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เราน่ะต้องตื่นมาช่วยพี่เตรียมอาหารคลีนส่งให้ลูกค้าน่ะรู้ไหม หุ้นส่วนคนเก่งของพี่” เขาโยกศีรษะของเธอไปมาเบาๆ ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาหา
“วันนี้ทำการบ้านวิชาอะไรครับ” เสียงนุ่มที่เอ่ยถามทำให้เธอกะพริบตาปริบๆ หลุดจากภวังค์ความวาบหวามในหัวใจ
“เอ่อ... ภาษาอังกฤษค่ะ แล้วก็อีกหลายวิชาเลยค่ะ” คนตอบบิดไปบิดมาเล็กน้อยขณะที่เขาถอยห่าง ถึงจะอ้วนก็ยังได้ใกล้ชิดพี่ชายสุดหล่อ แถมยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันอีก เธอก็ย่อมหวั่นไหวเป็นธรรมดา
ธิดารู้สึกว่าเวลาอยู่ด้วยกัน เธอไม่ได้คิดถึงปมด้อยเรื่องที่ใครๆ ก็ชอบล้อว่าเธออ้วนเลย ธีรภัทรทำให้เธอเลิกคิดเรื่องนั้นไปเสียสนิท เขาเป็นคนมีจิตวิทยาสูงมาก มีวิธีการพูดให้เธอคิดบวก และการกระทำของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เขาแสดงออกถึงความเอื้อเอ็นดูต่อเธออย่างเหลือล้น
เขาจัดห้องรับแขกเล็กๆ ให้เธอนอน เธอหลับไปแล้วในขณะที่เขาเดินออกมาตรวจดูความเรียบร้อยของประตูหน้าต่าง ธีรภัทรเปิดประตูเข้าไปในห้องของคู่หมั้นอย่างเบามือ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง สายตาของเขาอ่อนโยนและเอ็นดู ดึงผ้าห่มผืนหนามาห่มให้จนถึงคอ ดึงหนังสือที่เธออ่านค้างเอาไว้ออกไป แล้วจัดการปิดโคมไฟที่หัวเตียงเสีย
ธิดาลืมตาตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงของเขาแล้ว เธอเป็นคนประสาทสัมผัสไว แล้วสิ่งที่เขาทำก็ทำเอาเธออมยิ้ม ซุกหน้าเข้ากับหมอนอย่างมีความสุข
กิจกรรมในย่ำรุ่งคือเธอต้องลุกมาช่วยเขาแพ็กอาหารคลีนตามออร์เดอร์ของลูกค้า ส่วนการออกกำลังกาย เขาก็ชวนเธอยืดเส้นยืดสายก่อนอาบน้ำ
เธอรับประทานอาหารเช้าแสนอร่อย อิ่มแต่ไม่อด มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนแต่ไม่อ้วน
อาหารของธีรภัทรเน้นผัก อกไก่ ไข่ขาว นมพร่องมันเนย น้ำเต้าหู้หวานน้อยที่เขาลงมือทำเองและผลไม้ปลอดสารพิษที่พี่ชายคนโตของเขาส่งมาให้รับประทานบ่อยๆ
พี่น้องบ้านนี้น่ารัก พี่น้องของธีรภัทรรักใคร่กลมเกลียวกัน ไม่มีใครกล้ามายุ่งมารังแก พี่ชายคนโตของเขาชื่อหิรัญ ค่อนข้างดุเข้มแต่รักน้อง เขาทำไร่อยู่แถวภาคเหนือของประเทศ เธอพอรับรู้ข้อมูลของครอบครัวเขามาก
กิจวัตรประจำวันเป็นแบบนี้ทุกวัน พอตอนเย็นก็กลับมาออกกำลังกาย อาบน้ำ ทำการบ้านและนอน
เธอได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ และกินอาหารที่ธีรภัทรทำทุกวัน วันไหนรีบ เขาก็จัดอาหารใส่กล่องให้เธอรับประทานในรถตอนไปเรียน
“อาหารเช้าสำคัญ ไม่ควรอด” เขาบอกเธอเสียงนุ่มขณะที่เหลือบมามองคนที่กินอาหารแสนอร่อยอยู่ในรถ
“ตอนเย็นพี่มารับนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอไหว้เขา คู่หมั้นคู่หมายของเธอ ใส่ใจ ดูแล และน่ารัก
“ดา...” เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้เธอหันไปมอง หลังจากที่ธีรภัทรขับรถออกไปแล้ว
“จ้า... เรียกเสียเสียงดังเลย” ธิดายิ้มให้เพื่อน แต่อีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อนสนิทของเธอหรอกนะ เป็นแค่เพื่อนร่วมห้อง
“ไปทำอะไรมาจ๊ะ เดี๋ยวนี้เธอดูผิดหูผิดตาไปเยอะมาก”
“ผิดหูผิดตา” คนพูดก้มมองตัวเอง แล้วทำหน้างง
“ใช่จ้ะ กินยาที่ไหนเหรอถึงได้ผอมลง บอกบ้างสิ”
“กินยาอะไร เราไม่ได้กินยา แค่ออกกำลังกาย กินอาหารคลีนและนอนให้พอ”
“จริงเหรอ” พาฝันทำหน้าไม่เชื่อ คิดว่าคนตรงหน้าต้องกินยาลดน้ำหนักแน่ๆ
“จริงสิ นี่เรายังทำอาหารคลีนมาส่งขายเลย”
“อ้อ...เหรอจ๊ะ” พาฝันทำหน้าไม่เชื่อเหมือนเดิม แต่ก็พยักหน้าให้
“สนใจสั่งซื้ออาหารคลีนของเราไหม” คนอยากขายของรีบบอก แต่อีกฝ่ายรีบส่ายหน้าไปมาในทันที
“ไม่เอาหรอกจ้ะ เราไม่อยากกิน” พาฝันส่ายหน้าไปมา
“เรากินทุกวัน ดีกว่ายาลดน้ำหนักหรืออาหารเสริมผิวใสของเธออีกนะพาฝัน” นิรตีพูดแทรกขึ้นมา คนที่หน้าซีดในคราแรกมีสีหน้าดีขึ้นมาในทันที
“นี่เธอ มาว่าอาหารเสริมของฉันได้ยังไง เขาก็กินกันทั่วบ้านทั่วเมือง”
พาฝันรีบพูด หน้าตึงในทันที
“เหรอ... ฉันคนหนึ่งไม่กิน”
“ไม่กินก็อย่ามาพูดมากสิ” พาฝันทำเสียงเขียวใส่ นิรตีทำสีหน้ายียวนกลับ
“รตีไม่เอานะ เดี๋ยวมีเรื่องกัน” ธิดารีบปรามเพื่อน
“ไปกันเถอะจ๊ะดา อยู่แถวนี้เดี๋ยวหมาขี้เรื้อนรุมกันเอา”
“เอ๊ะ! นังรตี แกว่าใคร”
“ใครอยากรับก็รับไปสิ” คนพูดสะบัดหน้าใส่ก่อนจะดึงมือเพื่อนรักให้เดินตาม
“รตีไม่น่าไปว่าเขาเลย เดี๋ยวก็มีเรื่องกันหรอก”
“ถึงไม่ว่านังหน้าวอกนั่นก็ไม่ชอบเราอยู่แล้ว อย่าไปยอมจ้า ของแบบนี้มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน นังนั่นคงเห็นเธอผอมลง กลัวเธอจะขายอาหารเสริมหรือยาลดน้ำหนักแข่งกับมัน วันก่อนมันยังเอาครีมหน้าใสมาขายในมหาลัย อยู่เลย คนก็หลงเชื่อซื้อมาทากันจัง ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งหน้าใสกิ๊ก คอยดูเถอะ หยุดใช้ครีมไปหน้าพังจะหาว่าไม่เตือน”
“เหรอจ๊ะ”
“แต่จริงๆ เธอก็ผอมลงนะดา ผอมลงผิดหูผิดตาเลย แต่ไม่ได้ผอมแบบโทรม ผอมแบบกระชับไปทั้งตัวไม่เหี่ยวแบบคนลดน้ำหนักเยอะๆ นะ ชั่งน้ำหนักครั้งล่าสุดวันไหนเหรอ” นิรตีเอ่ยถามสีหน้าอยากรู้ปนชื่นชมอยู่มาก เธอรู้ว่าเพื่อนหันมากินอาหารคลีนและออกกำลังกายทุกวัน เพราะคู่หมั้น อย่างธีรภัทรคอยช่วยเหลือ
“สามเดือนแล้วจ้ะ พี่ธีไม่ให้ชั่งน้ำหนัก พี่ธีบอกว่าสามเดือนค่อยชั่งสักที ชั่งทุกวันถ้าเห็นว่าน้ำหนักไม่ลด จะไม่มีแรงออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์”
“งั้นเราไปชั่งน้ำหนักกัน”
“ก็ดีเหมือนกันนะ ดาลืมเรื่องน้ำหนักไปเลย” คนพูดทำท่าตื่นเต้น รีบเดินไปหน้า7-11 ที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย
“ไม่กล้าดูเลยรตี” คนที่ขึ้นไปยืนชั่งน้ำหนักหลับตาไม่กล้าดู หลังจากหยอดเหรียญหนึ่งบาทเข้าไปในช่องแล้ว