ตอนที่ 10 ถ้ากินขนมซอมบี้จะหายป่วยหรือเปล่า (๑•́₋•̩̥̀๑)

1340 Words
​ ตอนที่ 10 ถ้ากินขนมซอมบี้จะหายป่วยหรือเปล่า (๑•́₋•̩̥̀๑) หอยทากน้อยติดอยู่บนเกาะ ความหวังเดียวในตอนนี้คือตั๊กแตนยักษ์ แต่มันไม่ได้เก่งเรื่องหาร่องรอย กว่าจะตามหาหอยทากน้อยเจอคงใช้เวลาหลายวัน “ในเมื่อเราติดอยู่ที่นี่ ระหว่างนี้เราสำรวจเกาะนี้กันเถอะ” หอยทากน้อยกระโดดขึ้นไปบนตำแหน่งประจำ ซอมบี้เลิกทำหน้าหงอยเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นเบาะรองนั่งที่ดี ร่างโงนเงนเดินตามทิศทางที่หอยทากน้อยบอก เกาะนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก บนเกาะมีสัตว์วิวัฒนาการไม่เยอะ เมื่อเดินมาไม่ไกลก็เจอกับปูตัวใหญ่ มันกำลังปีนขึ้นต้นมะพร้าวที่สูงมาก หอยทากน้อยละความสนใจเมื่อเห็นกองทัพผึ้ง โชคดีที่พวกมันนิสัยดี ไม่อย่างนั้นร่างเล็ก ๆ คงต้องอุ้มซอมบี้หนีพวกมัน หลังจากเดินมาหลายชั่วโมงก็เจอถ้ำหินขนาดไม่ใหญ่มาก ซอมบี้นั่งอึนขณะที่หอยทากน้อยสำรวจรอบ ๆ เขาตัดสินใจเอาถ้ำแห่งนี้เป็นที่พักพิง ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดแล้ว หอยทากน้อยเอาขนมออกมากินโดยไม่ลืมแบ่งซอมบี้ไปหนึ่งชิ้น แต่อีกฝ่ายไม่รับแถมยังทำหน้าเอ๋อ “ไม่กินเหรอ อร่อยน้าาา แต่ถ้าไม่อยากกินเราก็ไม่บังคับ” หอยทากน้อยมองขนมในมือแววตาเป็นประกาย ซอมบี้ส่ายหน้าไม่ได้สนใจขนม ทำให้ร่างเล็กยิ้มกว้างกัดขนมอย่างมีความสุข ซอมบี้มองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มีอย่างที่ไหนให้ขนมทั้งที่แววตาเหมือนจะร้องไห้ “อ่าาา อิ่มจังเลย” หอยทากน้อยลูบท้องเล็ก ๆ ดวงตากลมโตมองหาที่นอน ร่างเล็กหยิบใบไม้ด้านนอกมาปูทำเป็นที่นอน “นายไม่นอนเหรอ” หอยทากน้อยตบพื้นที่ข้าง ๆ ซอมบี้ยังคงทำหน้านิ่ง เมื่อเห็นแบบนั้นหอยทากน้อยก็ไม่สนใจ ทิ้งตัวลงนอนอย่างมีความสุข ไม่นานภายในถ้ำก็ตกอยู่ในความเงียบ ดวงตาไร้แววของซอมบี้มองร่างเล็กด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด มันไม่ใช่อาการเฉยเมยเหมือนตอนเจอกับสัตว์วิวัฒนาการตัวอื่น ๆ มันไม่ใช่อาการเกลียดชังคับแค้นเหมือนตอนเจอมนุษย์ มือขาวซีดจับที่หน้าอกตัวเอง ทั้งที่มันนิ่งสงบ แต่มีความรู้สึกเคยชินบางอย่าง ดวงตาสีขุ่นเลื่อนมองหินสีดำ ความร้อนยังคงแผ่เข้ามาเรื่อย ๆ ร่างซีดรู้สึกทรมานจนเปลือกตาเริ่มหนัก ร่างซีดโงนเงนนอนข้าง ๆ ร่างเล็กกระจิ๋วก่อนที่สติจะดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งความมืด เสียงคลื่นทะเลส่งเสียงไพเราะ หอยทากน้อยออกมาเดินเล่น น่าแปลกที่วันนี้ซอมบี้ตื่นช้า ทั้งที่ปกติพอหอยทากน้อยตื่นก็เห็นซอมบี้นั่งมองตาแป๋วอยู่แล้ว ร่างเล็กเดินเข้าไปในป่าหวังว่าจะเจอของอร่อย และก็เป็นอย่างที่หอยทากน้อยคิด ในป่าที่เต็มไปด้วยพืชไม้เลื้อยมีต้นผลไม้เล็ก ๆ สีม่วง รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ อร่อยจนดวงตากลมโตเป็นประกาย สองมือเล็ก ๆ หอบพวกมันกลับมาที่ถ้ำ “ทำไมยังไม่ตื่นล่ะ” หอยทากน้อยเอียงคอ แก้มพองขยับเคี้ยวผลไม้แสนอร่อย ดวงตากลมโตมองร่างหลับใหลของซอมบี้อย่างไม่เข้าใจ หรือเพราะซอมบี้ถูกน้ำเมื่อวานเลยป่วย!? ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มองร่างแน่นิ่งของซอมบี้ก่อนจะเลื่อนสายตามองขนมที่วางอยู่ไม่ไกล “ถ้ากินขนมจะหายป่วยไหมนะ” ดวงหน้าเล็กขบคิดอย่างจริงจัง เขามั่นใจว่าถ้าเกิดตัวเองป่วยขอแค่ได้กินขนมก็จะหายป่วยทันที! นิ้วเล็กจิ้มไปที่แก้มสีซีดของซอมบี้ อุณหภูมิร่างกายเย็นเฉียบจนหอยทากน้อยกังวล ร่างเล็กขยับขึ้นไปนอนหมอบอยู่บนอกของซอมบี้ ปากเล็กอ้าหาวกว้างก่อนที่ดวงตาจะค่อย ๆ ปิดลง ออร่าจากหินสีดำถูกดูดเข้าไปหาร่างซีดอย่างต่อเนื่อง เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ บรรยากาศเย็นสบายของหน้าหนาวทำให้ร่างเล็กนอนหลับ สัญชาตญาณบอกว่าถึงเวลาจำศีลแล้ว… ในห้วงแห่งความฝันหอยทากน้อยรู้สึกแปลกประหลาด ไม่ว่าจะขยับตัวเท่าไหร่ก็ขยับไม่ได้ ทัศนวิสัยรอบข้างดูแปลกตา มันดูสูงขึ้น? “นายอ่านนิยายอีกแล้วนะ ชอบมากเหรอ” หอยทากน้อยขยับมองคนที่มาใหม่เป็นมนุษย์ผู้ชายตัวสูงใบหน้าหล่อเหลา อีกคนนั่งข้าง ๆ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “มันสนุกนี่นา นายไม่ลองอ่านบ้างเหรอ” หอยทากน้อยไม่ได้พูด แต่เสียงมันออกมาจากร่างเขา “ไม่ละ อย่าอ่านนานเกินไปนะ” มือใหญ่ลูบหัวทุยเบา ๆ คนบนเตียงพยักหน้าให้ หอยทากน้อยมองภาพพวกนั้นอย่างมึนงง แต่ละวันเขามักเห็นมนุษย์ร่างเล็กนั่งอ่านหนังสือโดยมีอีกคนนั่งอยู่ไม่ไกล วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ หอยทากน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงฝันถึงมนุษย์สองคนนี้ ภาพในห้วงความฝันค่อย ๆ มืดลง หอยทากน้อยตกอยู่ในความมืดชั่วครู่ก่อนจะพบแสงสว่างอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นเขาก็เห็นซอมบี้กำลังนั่งจ้องอยู่ จมูกแทบจะชนหน้า “ซอมบี้!? ตื่นแล้วเหรอ?” หอยทากน้อยพูดอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองสำรวจ ซอมบี้ตรงหน้าเหมือนสีผิวจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย จากที่ซีดตอนนี้มันดูติดน้ำตาลอ่อน ๆ ผมที่ยุ่งเหยิงยังคงยุ่งเหมือนเดิม แม้ว่าใบหน้าของซอมบี้จะราบเรียบเหมือนเดิม แต่ความจริงเขากำลังมีความสุข ตื่นแล้ว? คำพูดนี้เขาควรเป็นฝ่ายพูดกับร่างเล็กตรงหน้า มือใหญ่ช้อนร่างเล็กยกขึ้นมาใกล้ เลื่อนสายตาสำรวจร่างเล็กเมื่อเห็นว่าปกติดีก็รู้สึกเบาใจ หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาก็เห็นหอยทากน้อยนอนอยู่บนอก เขารอแล้วรอเล่าหอยทากน้อยก็ไม่ตื่น วันเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ในที่สุดร่างเล็กก็ตื่น “อะ!? ได้ยินเสียงบินของตั๊กแตน” หอยทากน้อยกระโดดลงจากฝ่ามือของซอมบี้วิ่งออกไปนอกถ้ำ เมื่อเดินมาถึงชายหาดก็เจอตั๊กแตนยักษ์ มันกำลังบินมาอย่างช้า ๆ หอยทากน้อยส่งเสียงร้องชูมือไปมาอย่างดีใจ “เราอยู่นี่” ไม่นานนักตั๊กแตนยักษ์ก็บินลงมาบนหาดทราย ซอมบี้เดินตามออกมาพร้อมกับสัมภาระ หอยทากน้อยเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าซอมบี้เดินตรง! ใช่แล้ว ซอมบี้เดินตรงไม่โงนเงนแล้ว! ไม่คิดว่าซอมบี้ไม่สบายพอหายจะเดินเก่งขึ้นขนาดนี้ ไม่น่าเป็นห่วงในตอนแรกเลย ไม่คิดว่าหลับไปแป๊บเดียวจะดีขึ้นขนาดนี้ นั่นคือความคิดของหอยทากน้อยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองจำศีลไปนานถึง 1 เดือน ส่วนซอมบี้นั้นตื่นก่อนหอยทากน้อย 1 อาทิตย์ ตอนนี้ซอมบี้วิวัฒนาการสูงขึ้น “ขอบใจมากนะที่หาเราเจอ” หอยทากน้อยกอดขายักษ์อย่างดีใจ ตั๊กแตนเพื่อนรักต้องพยายามมากแน่ ๆ หอยทากน้อยตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะดูแลเพื่อนตัวใหญ่แสนดีให้ดีที่สุด “ซอมบี้ไปกันเถอะ ได้เวลากลับบ้านแล้ว” หอยทากน้อยพูดขึ้น ซอมบี้ร่างใหญ่ปีนขึ้นหลังตั๊กแตนเองโดยไม่ต้องให้หอยทากน้อยช่วย ทำให้ร่างเล็กเช็ดน้ำตาอย่างมีความสุข ในที่สุดลูกชายเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว! ซอมบี้… เขาไม่ได้อยากเป็นลูกชาย ใช่แล้ว หลังจากวิวัฒนาการซอมบี้สามารถเข้าใจความนึกคิดของมนุษย์และสัตว์วิวัฒนาการ #### ซับน้ำตา เจ็บแผลผ่าคลอดจังเลยค่ะในที่สุดลูกเราก็เป็นฝาเป็นฝั่ง แค่ก!! ยังๆ ​ ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD