บทที่ 8

1245 Words
‘อีกแล้วกู แพ้ภัยตัวเองอีกแล้ว’ ธิปรกบ่นงึมงำในใจยอมนั่งลงตามความต้องการของหญิงสาว รดายิ้มหวานดีใจก่อนจะเริ่มเล่านิทานให้เด็กๆ และคนตัวใหญ่ฟัง “เด็กๆ คะตั้งใจฟังนะ พี่รดาจะเล่าเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรให้ฟัง” “เย้ๆ เล่าเลยๆ เราอยากฟังแล้ว” เด็กๆ ต่างก็ปรบมือตะโกนร้องอย่างดีใจ เมื่อรดาเริ่มเล่านิทานทุกคนต่างก็เงียบกริบตั้งอกตั้งใจฟัง จากที่ตั้งใจว่าจะนั่งฟังแค่นาทีสองนาทีแล้วกลับไปทำงานที่ไร่ต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มก็นั่งฟังเพลินจนรดาเล่านิทานเป็นเรื่องที่สองแล้ว หญิงสาวเล่าได้เป็นธรรมชาติและสนุกสนานมากทำให้คนฟัง ฟังแล้วไม่รู้จักเบื่อ เขาจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะขณะที่เล่านิทานแล้วอยากจะประทับจุมพิตนัก... อยากจะรู้ว่าริมฝีปากสีสดที่อยู่ล่อตาล่อใจจะหวานล้ำปานใด พ่อเลี้ยงหนุ่มตกใจกับความคิดเถื่อนๆ ของตนเองก่อนจะถลึงพรวดลุกขึ้นแล้วเดินดุ่มๆ ไปที่รถโดยไม่ฟังเสียงใคร รดาเห็นท่าทางของพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ขมวดคิ้วอย่างงงๆ ก่อนจะปล่อยหัวเราะคิกเอ่ยพึมพำออกมาคนเดียว “ผีเข้าผีออกแบบนี้เดี๋ยวหาหมอผีมาปราบเสียหรอก” ธิปรกทำหน้าบึ้งตึงเดินกระแทกเท้ามาที่รถ กำลังจะเข้าไปในรถก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นรถกระบะขนคนงานสี่ห้าคันวิ่งมาแต่ไกล เขายกนาฬิกาเรืองแพงมองเวลาเพิ่งห้าโมงครึ่งเอง ทำไมวันนี้คนงานเลิกงานเร็วผิดปกติ พ่อเลี้ยงหนุ่มนึกแปลกใจคนเดียวรอจนกระทั่งคนงานกลุ่มแรกลงจากรถกระบะเขาก็เอ่ยถามรามที่ลงมาจากรถพร้อมกับคนงาน “ไอ้ราม! ทำไมวันนี้พวกมึงเลิกงานเร็วจังวะ ไม่ทำโอทีต่อหรือไง” รามกับชาญเดินลงมาจากรถพร้อมๆ กันแต่หยุดยืนห่างจากบาทาของพ่อเลี้ยงไกลลิบแล้วพากันตะโกนตอบ “ไอ้พวกนี้มันของดโอทีตลอดไปครับ” “ทำไมวะ” ธิปรกเอ่ยถามอย่างงงๆ เพราะปกติคนงานมักจะชอบทำโอทีหลังเลิกงานไม่เคยมีใครของดทำโอทีสักคน รามมองไปที่รดาซึ่งกำลังเดินกะเผลกๆ มาที่พ่อเลี้ยงก่อนจะตะโกนตอบเหมือนเดิม “ไอ้พวกนี้มันอยากมาดูละครตอนหัวค่ำที่คุณรดาแสดงครับ” รดาหยุดเล่านิทานแล้วบอกให้เด็กๆ ลูกคนงานในไร่กลับบ้านจากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่เคียงข้างพ่อเลี้ยง เธอหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำตอบของหัวหน้าคนงาน พ่อเลี้ยงธิปรกส่ายหน้าอย่างระอาในความบ้าเห่อดาราแล้วหันมาถลึงตาใส่ตัวต้นเหตุก่อนจะหันไปตวาดลูกน้องเสียงดัง “แล้วทำไมมึงต้องตะโกนคุยด้วยวะไอ้ราม เดินมาใกล้ๆ กูสิ” “ไม่ได้ครับ ไกลๆ แบบนี้ดีแล้ว ถ้าขืนเข้าไปใกล้เดี๋ยวได้รับประทานรองเท้าหนังแทนข้าวมื้อเย็น” รามยังตะโกนตอบเหมือนเดิมแล้วยื่นส้มสายน้ำผึ้งลูกใหญ่ๆ ในถุงพลาสติกให้ชาญก่อนจะกระซิบกระซาบเบาๆ อย่างรู้กัน “ไอ้ชาญมึงเอาส้มไปให้คุณรดาแล้วรีบโกยตีนหมานะมึงไม่งั้นกูไม่รับรองความปลอดภัย” “พี่รามก็เอาไปให้เองสิครับ” ชาญทำหน้าเหยเกมองหน้าพ่อเลี้ยงที่กำลังตีหน้ายักษ์ใส่ก็กลื่นน้ำลายเอื้อกใหญ่ด้วยความหวาดเสียว “ก็มึงเสือกเป็นต้นคิด มึงก็เอาไปให้เองสิวะ เร็วๆ!” รามด่าลูกน้องเบาๆ พ่อเลี้ยงธิปรกแอบยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของลูกน้องรู้ว่าเรื่องที่กำลังกระซิบกระซาบกันคงไม่พ้นเรื่องที่เกี่ยวกับหญิงสาวแสนสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ ตน “พวกมึงจะกระซิบคุยกันอีกนานไหม” ธิปรกแกล้งตวาดถามลูกน้อง ชาญเดินลากขาช้าๆ มาใกล้รดาแล้วยื่นถุงส้มใบใหญ่ให้ก่อนจะเอ่ยเบาๆ แบบเขินอาย “ผมเก็บส้มสดๆ จากไร่มาฝากครับ” รดาอมยิ้มยื่นมือไปรับส้มแล้วเอ่ยขอบคุณเสียงหวานจนชาญแทบจะตัวลอย “ขอบคุณชาญมากนะคะ วันหลังพารดาไปเก็บส้มด้วยสิ” ชาญยิ้มกว้างหน้าบานเป็นจานกระด้ง แต่พอหันไปสบตาดุๆ คมกริบของพ่อเลี้ยงที่กำลังจ้องมองมาก็หุบยิ้มทันที พอพ่อเลี้ยงขยับตัว เขาก็โกยแนบแบบไม่คิดชีวิตแต่ก็ไม่ลืมที่หันมาตะโกนตอบรดา “เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกผมมารับไปเก็บส้มด้วยกันนะครับ” รดาหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขำ เธอหยิบส้มมาแกะลูกหนึ่งแล้วยื่นให้พ่อเลี้ยงที่ยังตีหน้ายักษ์ใส่เธออยู่ “พ่อเลี้ยงกินส้มหวานๆ ไหมคะ เผื่อว่าอารมณ์จะดีขึ้นเลิกทำหน้าบึ้งได้เสียที” พ่อเลี้ยงธิปรกทำตาเขียวปัดใส่หญิงสาวแล้วเอ่ยต่อว่าเสียงห้วน “เพราะเธอทีเดียวที่ทำให้ไร่ธิปรกปั่นป่วนไปหมด” “รดาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” หญิงสาวเถียงกลับยิ้มๆ พลางยื่นกลีบส้มไปใกล้ๆ ริมฝีปากหนาของพ่อเลี้ยงหนุ่ม “ส้มค่ะ หวานชื่นใจ” พ่อเลี้ยงธิปรกอ้าปากรับส้มอย่างเสียไม่ได้ เมื่อมองใบหน้าหวานนัยน์ตากลมโตที่กำลังเต้นระริกขบขำก็ได้แต่ทำเสียงฮึ่มๆ ในลำคอแล้วกระโดดขึ้นไปบนรถแลนด์โรเวอร์ รดาแอบหัวเราะขำแกล้งคนตัวใหญ่ขี้โมโหก็สนุกเหมือนกัน เธอยิ้มกว้างจนตาหยีเดินไปเคาะกระจกรถหนักๆ แล้วบุ้ยปากทำไม้ทำมือให้พ่อเลี้ยงเอากระจกรถลง พ่อเลี้ยงทำสีหน้ารำคาญกดกระจกรถลงก่อนจะเอ่ยถาม “อะไรอีก? ยุ่งจริง!” “รดาขอกลับเรือนกล้วยไม้ด้วยค่ะ” รดาเอ่ยบอกเสียงนุ่มหวาน “อยากกลับก็ขึ้นมาสิ” “เจ็บขาปืนขึ้นรถไม่ไหว” รดาทำหน้าตายกะพริบตาปริบๆ ดูน่าสงสารขณะเอ่ยบอก “ยุ่ง!” ธิปรกสบถเสียงดังแต่ก็ยอมลงจากรถเดินอ้อมมาทางหญิงสาวจากนั้นก็จับเอวบางคอดกิ่วไว้แล้วยกวืดเดียวรดาก็นั่งแหมะอยู่หน้ารถ เขาอ้อมกลับมาขึ้นรถแล้วปิดประตูรถกระแทกโดยแรงเป็นการประชดหญิงสาวที่นั่งยิ้มกริ่มเป็นทองไม่ร้อน เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มขับรถมาถึงเรือนกล้วยไม้แทนที่รดาจะลงจากรถกลับนั่งเฉยแกล้งรอให้อีกฝ่ายมาเปิดประตูรถให้ ธิปรกลงจากรถก็เดินตรงดิ่งขึ้นเรือนกล้วยไม้แต่พอหันหลังมองไปที่รถเห็นรดายังนั่งอยู่ที่เดิมก็ส่ายหน้าอย่างระอาเดินดุ่มๆ กลับมากระชากประตูเปิดออกโดยแรง จากนั้นเขาก็แกล้งโค้งคำนับแล้วผายมือออกไปข้างหน้าอย่างล้อเลียน “เชิญครับคุณผู้หญิงคนสวย” รดาหัวเราะคิกด้วยความขบขำเขยิบตัวลงจากรถได้ก็เชิดหน้าขึ้นอย่างสง่างามแล้วเอ่ยขอบคุณกลั้วหัวเราะ “ขอบคุณมากค่ะ วันนี้ไม่มีทิปให้ ขอแปะโป้งไว้ก่อนนะคะ” รดาเอ่ยเสร็จก็พยายามเดินเชิดสง่างามอย่างกับนางแบบขึ้นไปบนเรือนกล้วยไม้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD