ปาลิตาลืมตาขึ้นมาอีกทีท้องฟ้านอกหน้าต่างก็เปลี่ยนเป็นสีแดง พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าทดแทนด้วยความมืดมิด หล่อนพยายามลุกขึ้นนั่งหลายครั้งแต่ก็เวียนหัว ลุกไม่ไหว ต้องนอนนิ่งมองเฟอร์นิเจอร์หรูหราในห้องนอน ทุกชิ้นต่างมีราคาแพงทั้งนั้น แพงจนหล่อนนึกเกลียดชัง เพราะไม่เคยต้องการอะไรพวกนี้ ชีวิตจนๆ แต่สงบสุขสิ คือสิ่งที่หล่อนต้องการและเฝ้ารอคอยมาตลอด ชีวิตเรียบง่ายที่ไม่มีเขาคนนั้นมาคอยทำร้ายจิตใจ
ปาลิตาหายใจเข้าออกค่อนข้างลึก แรง ใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจนหมด หล่อนอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัว และแต่งหน้าอ่อนๆ กลบรอยช้ำบริเวณใต้ตา ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนลงไปยังชั้นล่างของบ้านไม้สักหลังใหญ่ มิน่าล่ะ มืดแล้วถึงไม่มีใครขึ้นไปเรียกหล่อน มีแขกมาบ้านนี่เอง ดูจากลักษณะท่าทางของชายสูงวัยแล้วจะเป็นคนรวย คงไม่แคล้วเป็นคุณทรงพล ลูกชาย ลูกสาว ปาลิตาส่งยิ้มไปให้คุณเปรมเมื่อท่านมองมาเห็นตนเองพอดี
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอหนูปริม มานั่งด้วยกันสิลูก ลุงจะแนะนำแขกของเราให้รู้จัก” คุณเปรมเรียกหล่อนให้เดินเข้ามาในโซนรับแขก มานั่งลงโซฟาข้างท่าน ก่อนจะเริ่มต้นแนะนำ สองฝ่ายไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเพราะท่านเองก็เพิ่งสนิทกับคุณทรงพลช่วงสองสามปีนี้เอง
“นี่คือคุณทรงพล เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ส่วนนี่หนูอิงธารา ส่วนนี่ต้นตระกูล ลูกสาวลูกชายของท่าน รู้จักกันไว้นะจ๊ะ อีกไม่นานบ้านเรากับบ้านคุณทรงพลก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว”
คนฟังนิ่งไป ทว่าสามารถกลับมาเป็นปกติได้ในวินาทีถัดมา พนมมือไหว้ทุกคนสวยงาม “สวัสดีค่ะ ดิฉันปาลิตา ปริมค่ะ”
“ผมต้นตระกูลครับ เรียกว่าพี่ต้นเฉยๆ ก็ได้ สวัสดีครับน้องปริม ได้ยินชื่อตั้งนานเพิ่งเคยเจอตัวจริงครั้งแรก สวยกว่าในรูปอีกนะครับ” ต้นตระกูลออกตัวแรงมากกว่าใคร เอ่ยคำทักทายต่อปาลิตาจนหนวดใครบางคนกระดิก มุมปากกระตุก ส่งเสียงหึหึในลำคอ หมั่นไส้ไอ้หมอหน้าอ่อน ริอ่านมาส่งตาหวานให้เมียเขา
“คุณลุงเองก็เล่าเรื่องพี่ต้นให้ปริมฟังบ่อยๆ เหมือนกันค่ะ ดีใจที่ได้เจอกันนะคะ” ปาลิตายิ้มหวานส่งไปให้คุณหมอหนุ่ม
“หนุ่มสาวสมัยนี้ใช้สายตาจีบกันแล้วเหรอ ระยิบระยับเชียวนะเจ้าต้น” คุณทรงพลแซวบุตรชายที่มีอาชีพเป็นศัลยแพทย์ หัวเราะเสียงร่าเริง ไม่ได้รังเกียจปาลิตาที่เป็นเด็กกำพร้า ดีซะอีก ถ้าลูกชายจะได้คบกับผู้หญิงการศึกษาดี กิริยามารยาทก็น่ารักน่ามองแบบปาลิตา ได้ยินคำชมจากคุณเปรมมาก็นาน เพิ่งได้เจอตัวจริงครั้งแรก สวยมาก สมแล้วที่เป็นลูกสาวปาหนัน อดีตคนรักของคุณเปรม
“แหม คุณพ่อพูดตรงๆ แบบนี้น้องปริมก็เขินพี่ต้นพอดี” อิงธาราหยอกเย้าขบขัน ชวนให้ทุกคนยกเว้นเมืองเหนือหัวเราะ
“หนูปริมเรียนจบแล้วคงได้กลับมาอยู่บ้าน ว่างๆ ก็มาเที่ยวบ้านลุงบ้างนะ เดี๋ยวจะให้พี่ต้นคอยดูแลคอยพาเที่ยวแถวนั้น ลุงมีบ้านที่เชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพ” ไม่ได้อวดรวย เพราะรวยจริง
“ขอบคุณมากค่ะ แต่ปริมไม่อยากรบกวนเวลาของพี่ต้น” เห็นเขาแว้บๆ หลายครั้งแต่ไม่เคยแนะนำตัวกัน เขาเพิ่มเพื่อนเข้ามาในเฟซบุ๊ก ปกติหล่อนแค่ใช้แชทกับเพื่อนแล้วก็แชร์เพลงจากแอพสีเขียวเพื่อเอาวีไอพีเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร ก็เลยไม่อยากรับเขา
“รบกวนอะไรกันล่ะจ๊ะหนูปริม ไม่ใช่หรอก”
“จริงครับ ไม่รบกวนเลย ไว้มาเชียงใหม่ก็แวะมาพี่ได้นะครับ” ต้นตระกูลกระตือรือร้นเปิดโอกาสให้ตัวเอง เขาทำงานโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ นานๆ ทีจะได้กลับบ้านที่เชียงราย แต่ถ้าปาลิตาเปิดโอกาสให้จีบก็จะแวะมาหาบ่อยๆ
“ปลายเดือนจะต้องคุยงานกับลูกค้าที่เชียงใหม่ ลุงว่าจะให้หนูปริมเป็นคนติดต่อเอง พอดีเลย ถ้างั้นลุงฝากน้องด้วยนะต้น” คุณเปรมเชียร์เด็กทั้งสองตามคุณทรงพล ส่วนปาลิตานั้นทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ รู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับหมอต้นเลยแม้แต่ปลายเล็บ
“ได้ครับคุณลุง ผมจะดูแลน้องปริมให้เอง”
คนนี้ชง คนนี้ตี คนนี้ยุ ไอ้คนต้นเรื่องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนยัยคนเป้าหมายก็นั่งเงียบ นึกว่าเก็บปากไว้ครางใต้ร่างเขาอย่างเดียว เมืองเหนือนั่งฟังอยู่พักใหญ่ชักจะหงุดหงิด หัวเสีย และเบื่อมากจึงกระแอมกระไอขัด หมั่นไส้ไอ้หน้าอ่อน มันเป็นเพื่อนรุ่นน้อง แอบกระซิบบอกดีไหมว่าคนที่มันกำลังจีบน่ะ เป็นเมียเขา
“จะไหวเหรอครับพ่อ น้องปริมยังไม่เคยคุยงาน ถ้าจะให้ติดต่องานกับคู่ค้าโดยตรง แววพังมาแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นนะครับ”
“ยากอะไรล่ะ ถ้าลูกไม่ว่างก็ให้ผู้จัดการไร่ไปกับน้องสิ” คุณเปรมขมวดคิ้วเอ็ดเจ้าลูกชาย พูดอะไรไม่ดูเวล่ำเวลา
“โอเคครับ ถ้างั้นผมจะบอกคุณศักดิ์ชัยให้เตรียมเอกสาร กับข้อเสนอไว้ เพราะช่วงนี้งานในไร่ยุ่งมาก คงไม่ได้ไปด้วยตัวเอง”
ลูกค้ารายนี้เป็นรายย่อย เขาไม่ต้องดูแลกำกับงานด้วยตัวเอง สามารถส่งคนสนิทไปเจรจาแทนได้ เว้นการเจรจาซื้อขายสินค้าหลักล้านเท่านั้นที่เมืองเหนือจะออกโรงด้วยตัวเอง
คุณเปรมชักชวนทุกคนร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ แม่บ้านจัดเตรียมไว้เต็มโต๊ะหลากหลายเมนู ตลอดอาหารมื้อนั้น เมืองเหนือคอยเทคแคร์อิงธาราพอๆ กับต้นตระกูลคอยเทคแคร์ปาลิตา
ภาพตรงหน้าช่างถูกใจคุณเปรมกับคุณทรงพลยิ่งนัก
หลังมื้ออาหารคุณเปรมวานให้ปาลิตา พาต้นตระกูลออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ฟ้ามืดมองไม่เห็นอะไรแล้ว แต่กระนั้นท่านก็ยังสั่ง
ปาลิตาไม่อยากค้าน ไม่อยากขัดจึงชวนนายแพทย์หนุ่มสุดหล่อออกมาเดินเล่นสวนดอกไม้หลังบ้าน
ไม่ไกลนักมีนายยอดกับลุงบุญเติมกำลังนั่งเล่นหมากรุกบนแคร่ไม้ติดกับชานระเบียง ส่งเสียงเอะอะโวยวายตามประสาคนเสียเปรียบ ก็ถือว่าดีหน่อยที่ไม่ได้อยู่กับเขาสองต่อสอง