บุลิศโปรยเสน่ห์

1211 Words
ตอนที่ 9 ด้วยเขารู้สึกสะดุดตาและคุ้นเคยเป็นอย่างมากกับรถแบบมินิคันสีส้มแป๊ด ทำให้เขาตะลึงและดีใจจนยิ้มออกมา ก็ให้ใจหวนไปคิดถึงใครบางคนที่ชอบสีส้มมากที่สุด ชำเลืองมองดูคันที่จอดอยู่ตรงกันข้ามกับเขา ทำให้บุลิศขอตัวเดินเข้าไปสำรวจที่กท.รถซึ่งเขาจำได้ ใช่แน่นอน รอยยิ้มจึงคลี่บางๆ เพราะรู้ว่าเมี่ยงเมรัยมาที่นี่ด้วยนี่เป็นรถของหล่อนแล้วข้างในล่ะหล่อนจะอยู่ส่วนไหนของศูนย์การค้าแห่งนี้ล่ะ..เพราะมันออกกว้างขวางและมีหลายชั้นแบ่งแยกเป็นแผนกต่างๆด้วย เขาคิดว่า..ลองตามหล่อนดีกว่า และเขาคิดว่าหล่อนเป็นสุภาพสตรีต้องเป็นแผนกเลดี้แน่ในเวลานี้แต่ใบหน้าของบุลิศรู้สึกเขินจนเกิดความอาย ที่ชายหนุ่มทั้งแท่งอย่างเขาต้องมาเดินสำรวจดูข้าวของอะไรที่เป็นแผนกขายของสำหรับผู้หญิง เขากำลังจะถามตัวเองด้วยว่า เอาสมองส่วนไหนมาคิดวะบุลิศ ดันอุตริมาที่แผนกผู้หญิง.. เดี๋ยวเขาจะหาว่าโรคจิตรูปหล่อแต่จิตทราม ไม่ดีนัก และเขาไม่ปรารถนา อยากโดนให้ร้ายด้วยข้อหาแบบนี้หรือเปล่า.. ไม่หรอก แต่บุลิศคิดแล้วก็ตัดสินใจทำ จนเขาได้เดินมาถึงบริเวณชุดเสื้อผ้าลูกไม้ของสตรีกับกระโปรงยาววางแขวนอวดโชว์อย่างสวยงามกับหุ่นตัวบอบบาง ซึ่งหากว่าสายตาของเขาพยายามชำเลืองมองจ้อง เพื่อกวาดหา เผื่อมองเห็นหล่อน เมี่ยง.. เมี่ยงเมรัย แต่ว่าพอเดินสักพักก็เหมือนจะไร้วี่แวว ดูเหมือนมองดูทั่วบริเวณนั้นแล้วไม่พบเจอร่างระหงของหล่อนเลย แต่เขาไม่ละทิ้งความพยายาม แต่เขาเองนั้นต้องก้มหน้างุดซ่อนสีหน้ามองลงพื้นกระเบื้องอย่างเดียว ไม่กล้าเงยขึ้น เพราะมีสายตาหลายคู่จับจ้องตรงมาที่ร่างของเขา บุลิศกลัวถูกมองในแง่ที่ไม่ดีด้วย อาจจะคิดว่าเขาจิตทราม หรือวิปริต ไม่ก็รักชอบป่าไม้เดียวกันแต่ไอ้เรื่องแบบนี้ ใครจะมารู้และเข้าใจเท่าบุลิศ แน่นอนไม่มีคำตอบหรอก ไม่มีใครรู้ใจเขา ดวงหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเข้มระเรื่อ พาตัวเองมาหยุดที่บริเวณกว้าง โซนนั้นใกล้กับเสื้อผ้าของบุรุษ แต่หากว่าใกล้กับบันไดเลื่อน ..ซึ่งบุลิศถือวิสาสะพาตัวเองพิงกายกับขอบสูงของเหล็กโครเมียมที่กั้นเพื่อผ่อนลมหายใจอีกครั้ง แล้วดวงตาของเขาก็เบิกกว้างคิ้วเข้มดกดำสนิทนั้น จ้องมองไปที่หญิงสาวร่างระหงในชุดลูกไม้สีครีมเป็นกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนตัดกับผิวขาวของหล่อนช่วยส่งให้ร่างระหงงามเด่นดุจนางพญา “เมี่ยงเมรัย” บุลิศเองจ้องร่างนั้นแล้วแทบจะตะโกนออกไปทันที โดยไม่คิดอะไรมาก เขายืนอยู่ที่ชั้นสี่ หากแต่เมี่ยงเมรัยกำลังลงลิฟต์ที่ชั้นสาม ร่างระหงของหล่อนไหวมาตามทาง เขาเห็นในมือของหญิงสาวถือถุงกระดาษที่มีสัญลักษณ์เครื่องหมายของสถานที่แห่งนี้นั่นหมายความว่าหล่อนกำลังจะกลับลงไป ลงไปชั้นล่างสุดหรือเปล่า.. กลับบ้าน..ฝีเท้าเร็วเท่าความคิดนักน่ารำคาญใจเหมือนกันที่สถานที่หรูหราแห่งนี้ไม่มีลิฟต์แก้วสำหรับลัดตัดและลงโดยรวดเร็ว เอ๊ะ หรือว่า อาจจะมีแต่อยู่ทางด้านอื่นเพราะสถานที่หรูๆอย่างนี้นานๆชายหนุ่มถึงจะมาสักครั้ง เขาจึงไม่ได้จดจำอะไรเลย แต่สิ่งที่สนใจคือฝีเท้าของเขารีบก้าวยาวลงลิฟต์ชั้นนี้ก่อน เพื่อก้าวตามให้ทันเมี่ยงเมรัย เขากำลังก้าวลงจากชั้นสี่แล้ว สอดสายตาจ้องมอง นั่นไง เห็นร่างระหงของหล่อนกำลังจะมุ่งหน้าตรงไปยังลิฟต์ของลานจอดรถ บุลิศเดินตามมาอย่างเร็ว จนหายใจหอบขึ้นมาด้วยรู้สึกเหนื่อย นึกว่าจะทันหล่อน แต่ถึงอย่างไร.. เขาก็กรูเพื่อที่จะลงลิฟต์ให้ได้ทันท่วงทีกับหล่อน เวลานี้บุลิศไม่ได้นึกคิดสิ่งใด แค่เขารู้ว่าหล่อนอยู่รอบๆบริเวณนี้ แต่นี่หล่อนไปที่ลานจอดรถแล้ว เมื่อได้ข้าวของเป็นที่น่าพึงพอใจ หรือบางทีบางทีนะเขาคิดว่า เมี่ยงเมรัยอาจจะกลับไปที่บ้านเลยก็ได้แค่ไม่ใช่เช่นนั้นเพราะเมี่ยงเมรัยโทร.หาสุลิษา เพื่อนสาวอีกคนซึ่งมีปลายทางมุ่งมาที่ศูนย์การค้าชื่อดังแห่งนี้เหมือนกันข้าวของที่หล่อนซื้อยังแนบอยู่กับตัวที่ถืออยู่ดูพะรุงพะรังเป็นชุดกระโปร่งผ้าลูกไม้แบบทันสมัยที่หล่อนชอบและเป็นสีครีมชมพู จึงนำไปเก็บไว้ที่รถเสียก่อนแล้วกลับเข้ามาตามเดิมที่ร้านบะหมี่โซบะตามที่นัดกันไว้แล้วเมื่อหล่อนนั่งฆ่าเวลาด้วยการทานน้ำส้มเพื่อรอเพื่อนสาว ประมาณห้านาทีเพื่อนสาวก็คงมาถึงอันที่จริงเมี่ยงเมรัยคิดว่าจะกลับบ้านด้วยซ้ำพอดีสุลิษาโทร.เข้ามา ดีเหมือนกันที่ได้เจอสุลิษาเพราะหล่อนเองหล่อนก็ไม่ได้พบเจอกับเพื่อนรักนานพอดูล่ะหากเมื่อเพื่อนรักประสงค์จะมาที่นี่หล่อนก็อยู่รอเพื่อน เพื่อพบและคุยกัน อีกอย่างเพราะหล่อนไม่ต้องรีบกลับไปบ้านก็ได้ บ้านก็ไม่ได้หนีหายไปไหนสักหน่อยซึ่งในสถานที่แห่งนี้โซนร้านอาหารที่เรียงรายหลากหลายห้องตามแต่สไตล์เช่นร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น จีน อิตาลี เรียกว่า นานาชาติ หล่อนเป็นคนไม่ชอบทานฟาสต์ฟู๊ดเพราะแค่ชื่อของมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกแย่ หล่อนต้องควบคุมอาหารและร่างกายด้วยการหมั่นออกกำลังกายนอกจากนั้นยังทานแต่นมพร่องมันเนยที่โคเลสเตอรอลต่ำกับนมเปรี้ยวแล้วก็น้ำผัก ดูมันเหมือนหมดหนทางเสียแล้วที่บุลิศจะตามหาหล่อนจนพบ แต่เขาจะไม่ย่อท้อ เขาเดินตรงไปที่รถของหล่อนจอดอยู่ หากปรากฏว่ารถไม่ได้เคลื่อนไปที่ไหน ยังจอดอยู่ที่เดิมทำให้เขาใจชื้นอยู่บ้างวาบยิ้มที่มุมปากอมสีชมพูแดงก็อย่างน้อยหล่อนที่หล่อนยังไม่มาอาจยังมาไม่ถึงงั้นเขาอาจจะยืนรออยู่ที่นี่สักครู่หรือสักหน่อยก็ได้ เพราะหล่อนต้องกลับมาที่รถแน่ บอกตามตรงบุลิศอยากเจอหน้าหล่อนนัก ถ้าได้เจอเขาคงรู้สึกดีขึ้น และเก็บไปนอนฝันถึงหล่อน แค่เป็นคนที่เรารัก เขาก็อยากให้อยู่ใกล้ๆตัวเสมอ นั่นล่ะ แต่เอ๊ะ รู้สึกฉุกใจคิด สักพักก็นานพอสมควร แต่รู้สึกว่า เมี่ยงชักไปนานเสียจนผิดสังเกต ทนยืนรอก็นานแล้ว เขาไม่เห็นร่างของหล่อนก้าวออกมา หรือว่าจะไปทำธุระทางอื่น เขารู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD