บทที่ 4

898 Words
คืนต่อมา..ที่โรงเหล้า สงกรานต์กำลังขึ้นร้องเพลง เขาแอบมองมาที่โต๊ะตัวประจำของเพื่อน แต่วันนี้กลับเป็นคนกลุ่มอื่นที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เขายังร้องเพลงต่อไป และสาวๆ ก็ยังกรี๊ดอยู่ไม่มีขาดหาย ร้องไปได้ครึ่งค่อนคืน นักร้องคนอื่นก็สับเปลี่ยนกันขึ้นมาทั้งหญิงและชาย แดนเซอร์ก็ทำหน้าที่ของพวกเธอไป "ไม่รู้ว่าวันนี้หนุ่มฮอตของเราจะใจลอยไปถึงไหนนะครับ" มีการหยอดมุกกันบ้าง "ไม่ได้ใจลอยสักหน่อยครับ แค่มองให้ทั่วถึง เพราะวันนี้มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจะมองใครดี" คำหวานนี้ได้ออกจากปากของสงกรานต์ และมันก็เป็นจุดขาย แค่เขาพูดออกมาแค่นี้ ทิปก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา "แหวะ..กูจะอ้วก" มันคือเสียงของไอ้ชาติหัวหน้ากลุ่มวัยรุ่นเมื่อวาน วันนี้มันก็ไม่ยอมแพ้ สายตาของมันพยายามมองหาสาวผมสีบลอนด์ แต่หายังไงก็ไม่เจอ จนถึงเวลาปิดร้าน.. "เมื่อวานนี้จะรีบไปไหนนักหนา ไม่รอแนนเลย" "พอดีว่ามีเรื่องนิดหน่อย แล้วทำไมตอนเย็นแนนไม่ไปเอารถที่บ้านเราล่ะ" "จะให้นั่งอะไรไปเอา" ที่แนนมาที่ทำงานได้ ก็เพราะณัฐมาส่ง..ณัฐเป็นน้องชายแท้ๆ ของแนน คืนนี้สงกรานต์ก็เลยต้องได้มาส่งแนนที่บ้าน..ที่ต้องได้ส่งแนนก่อน ก็เพราะถ้าแนนไปเอารถที่บ้านของเขา..ยังไงสงกรานต์ก็ต้องได้กลับมาส่งเพราะมันดึกมากแล้ว "เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะขับรถคันนั้นมาให้ที่บ้านแล้วกัน" "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวแนนจะให้น้องพาไปเอา" เรามารู้จักแนนกันบ้าง แนนเป็นเพื่อนของสงกรานต์ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกัน แนนพยายามที่จะไปทุกที่ที่มีสงกรานต์อยู่ ไม่เว้นแม้แต่โรงเหล้านั้น ที่จริงแนนเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบร้องเพลง เพราะเสียงไม่ค่อยดี แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น แนนไปเรียนร้องเพลงจากหลายๆ ที่ จนมีทักษะในการร้องเพลง พอส่งแนนเสร็จสงกรานต์ก็รีบขับรถกลับมาที่บ้าน ชายหนุ่มมองเข้าไปดูในบ้านของเพื่อน วันนี้เขาแปลกใจยิ่งนัก ทำไมเธอดูเงียบจัง เงียบจนผิดปกติ เช้าวันต่อมา.. "ทำไมตื่นเช้าจังเลยล่ะลูก" "เช้าที่ไหนครับแม่สามโมงกว่าแล้ว" "ก็สำหรับลูกมันยังเช้าอยู่ไง" ระหว่างที่แม่กับลูกกำลังคุยกันอยู่นั้น ชม้อยแม่ของเพื่อนก็ ได้กลับมาจากตลาดพอดี "ไปซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย" น้อยกับชม้อยอายุใกล้เคียงกัน แต่ทั้งสองก็พูดคุยเหมือนเพื่อน "ไปซื้อยามาให้ไอ้เพื่อนมัน" "เหรอ" น้อยไม่ได้ถามอะไรต่อ พอได้ยินว่าไปซื้อยามาให้เพื่อน ก็พูดตัดบทสนทนาแค่นั้น สงกรานต์หันขวับมองหน้าแม่ในทันที ธรรมดาต้องมีประโยคที่ยาวกว่านี้ ต้องถามไหมว่าเป็นอะไรถึงต้องกินยา "ฉันเอายาไปให้มันก่อนนะ" แล้วชม้อยก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้สงกรานต์ได้แต่มองตาม "เราเป็นอะไร" น้อยสงสัยเพราะไม่เคยเห็นลูกชายมองเข้าไปแบบนั้น "ผมแค่สงสัยทำไมแม่ไม่ถามต่อ" "ถามอะไร" "ก็ถามเรื่องยานั่นไง" "จะถามทำไม..แม่รู้อยู่ว่ายาอะไร" "แล้วมันยาอะไรล่ะแม่" "ลูกอยากจะรู้ไปทำไม" "ไม่อยากรู้แล้วก็ได้" สงกรานต์พูดตัดบทแล้วกำลังจะเดินกลับเข้าบ้าน..แต่ก็มีมอเตอร์ไซค์ขับมาจอดที่หน้าบ้านของเขาก่อน "แนน.. มาเอารถเหรอลูก" "สวัสดีค่ะแม่" แนนกับแม่ของสงกรานต์รู้จักมักคุ้นกันดี "อะไรวะอยากจะได้ยาแก้ปวดท้องเมนส์.. ก็ซื้อมาให้แล้วนี่ไง" ชม้อยถือซองยานั้นเดินกลับออกมาพร้อมกับบ่นพึมพำไปด้วย "มีอะไรล่ะชม้อย" "ก็อีนังเพื่อนน่ะสิ มันบอกไม่ใช่ยาอันนี้" "แล้วจะทำยังไงล่ะ" "ก็ต้องได้กลับไปเปลี่ยนยาอีกน่ะสิ ฉันต้องได้รีบไปธุระด้วย ใครจะมาเป็นทาสมันนักหนา" "สงกรานต์..สนใจแนนหน่อยสิ" แนนพูดอะไรไปตั้งหลายอย่างแล้ว แต่สงกรานต์ไม่ได้ตั้งใจฟังแนนพูดเลย "เมื่อกี้แนนพูดว่าอะไรนะ" เพราะเขามัวแต่สนใจที่ผู้ใหญ่คุยกันมากกว่า "ก็เรื่องเย็นนี้แหละ" "ถ้าชม้อยมีธุระก็ไปทำก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะดูทางนี้ให้ ว่างแล้วค่อยเอายามาส่งเพื่อนก็ได้" "สงกรานต์!.." "แนนพูดอะไรนะ" ตอนนี้คำพูดของแนนไม่เข้าหูเขาเลยด้วยซ้ำ "เย็นนี้ไปรับแนนที่บ้านด้วย" พอจบคำพูดแนนก็เดินหน้าบึ้งตึง ไปเอารถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้วขับออกไป "สงกรานต์จะไปไหนลูก" พอแนนไปแล้ว น้อยก็เห็นลูกชายเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ "ผมจะไปซื้อยา..ปวดหัว" "ยาพาราบ้านเราก็มีนะลูก" "แม่เป็นเภสัชหรือไงถึงจะจัดยาให้ผม" ว่าแล้วสงกรานต์ก็ขับรถออกไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD