เข้าทางฮองเฮา #3

883 Words
จางอ้ายเหรินประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้นั่งใกล้ฮองเฮาเช่นนี้ นางเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเตี้ยข้าง ๆ ฮองเฮาก่อนจะชะเง้อมองสิ่งที่อยู่ในหม้อนั้นอย่างสนใจ “ดีขึ้นมากแล้วเพคะ ต้องขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเมตตาหม่อมฉัน นั่นอะไรหรือเพคะ” “โอสถบำรุงน่ะ เจิ้งไท่เฟยส่งมาให้ เห็นว่าจะได้บำรุงธาตุทำให้มีลูกง่าย ฮ่องเต้ทรงเปรยว่าอยากจะมีองค์รัชทายาทแล้ว เจิ้งไท่เฟยจึงสั่งให้คนนำมาให้” ฮองเฮาเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “นี่โอสถบำรุงจริงหรือเพคะ” ฮองเฮามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ขณะที่จางอ้ายเหรินพยายามครุ่นคิดว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นอะไร เพราะรู้สึกว่าคุ้นเคยนัก ทว่าคิดไม่ออกว่าเคยได้กลิ่นจากที่ใดมาก่อน จึงได้แต่ปล่อยผ่านแล้วเปลี่ยนเรื่อง “เอ่อ ที่หม่อมฉันมารบกวนในวันนี้ก็เพราะอยากมาขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเมตตา เลยตั้งใจทำขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ มาถวายเพคะ” จางอ้ายเหรินเอื้อมมือไปรับกล่องขนมที่ตนทำมาจากฉีฉี่ ก่อนจะนำขึ้นวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้าง ๆ ฮองเฮา เมื่อเปิดฝาออกก็เห็นขนมสีขาวอมเหลืองพร้อมกลิ่นหอมอบอวลชวนน้ำลายสอ “ช่างน่ากินนัก นี่ขนมอะไร” “ขนมอวี้หลันเพคะ หม่อมฉันคิดสูตรเอง ดอกอวี้หลันป่ามีสรรพคุณเป็นโอสถบำรุงร่างกาย หม่อมฉันจึงขอให้บ่าวไปซื้อมาจากในเมือง เพื่อจะได้ทำขนมมาถวายฮองเฮาเพคะ” “อืม ถ้าอย่างนั้นขอเราชิมสักหน่อย” ดวงหน้าคมแย้มริมฝีปากออก เผยให้เห็นฟันขาวเรียงตัวสวย ก่อนจะหยิบขนมรูปดอกไม้ตรงหน้าขึ้นกัดชิมด้วยท่าทางสงบ “อร่อยจริง ๆ ด้วย” “หากฮองเฮาโปรด หม่อมฉันยินดีทำมาถวายทุกวันเลยเพคะ” สำเร็จ!! ขนมเชื่อมความสัมพันธ์กับฮองเฮา โชคดีนักที่นางได้ดอกอวี้หลันป่ามาด้วยความบังเอิญ จึงถือโอกาสทำขนมนี้มาเอาใจฮองเฮาเสียเลย ‘ข้านี่ฉลาดไม่เบา’ จางอ้ายเหรินเอ่ยชมตัวเองในใจก่อนจะเริ่มแปลกใจที่กลิ่นโอสถเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยทักออกไป เพราะกลัวว่าจะเป็นการหักหาญน้ำใจเจิ้งไท่เฟย ในวันนั้นที่อยู่บนเรือถึงจะไม่ได้เห็นหน้า แต่แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าไท่เฟยเฒ่าผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยสักนิด ถ้อยวาจาที่พูดกับฮ่องเต้ฟังดูกดข่มอยู่ในที ถึงแม้จางอ้ายเหรินเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้เพียงแค่สองวัน แต่ก็ได้พบเจอกับคนที่รับมือได้ยากมาแล้วทั้งนั้น จึงต้องอยู่ให้เป็น พยายามยืนข้าง ๆ ฮองเฮาเข้าไว้ แล้วชีวิตจะปลอดภัยมากขึ้น ส่วนเรื่องฮ่องเต้เจ้าสำราญผู้นั้น...ค่อยคิดหาทางออกอีกที เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นบนเรือเกิดขึ้นอีก “ชินอ๋อง แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปยุ่งกับกุ้ยเฟยอีก ลืมนางไปเสีย หากได้เป็นฮ่องเต้เมื่อไหร่แม่จะหาฮองเฮาที่ดีกว่านี้ สวยกว่านี้ ชาติตระกูลดีกว่านี้มาให้” เจิ้งไท่เฟยดุลูกชายเสียงดังลั่น หลังทราบข่าวว่าเขาขัดคำสั่งไปยืนคุยกับหลิวเยว่ซินสองต่อสอง “เจ้าจะเอาผู้หญิงคนเดียวมาทำให้การใหญ่ของเราล่มหรืออย่างไร!” เสียงดุด่านี้มีเพียงนางกำนัลถิงที่ยืนฟังอยู่ ชินอ๋องหันไปราวกับจะไล่แต่ผู้เป็นแม่กลับห้ามเอาไว้ “ถิงถิงเป็นคนของแม่ เจ้ากล้าไล่หรือ” “แต่ ท่านแม่ไม่ไว้หน้าลูกเลย แล้วอย่างนี้บ่าวไพร่ที่ไหนจะยำเกรง” “บ่าวไพร่ย่อมยำเกรงแน่ หากเจ้าไม่ไปเที่ยวสนิทสนมกับเมียผู้อื่น เจอหน้ากันครั้งก่อนหยางมู่เฉินก็เตือนแม่มาทีหนึ่งแล้ว คราวนี้ฮ่องเต้คงไม่ปล่อยให้เราได้มีโอกาสเหมือนครั้งก่อนง่าย ๆ แน่” เจิ้งไท่เฟยมีสีหน้าจริงจังมากขึ้นเมื่อคิดถึงการใหญ่ที่กำลังจะทำในภายภาคหน้า “ทั้งที่ก่อนหน้านี้เกือบจะจัดการสนมตระกูลหลิวได้อยู่แล้ว หากไม่ใช่เจ้าที่เข้ามาขวาง คงต้องมีมลทินไปด้วย ขัดใจข้าเสียจริง” หยางอู่เฉินแอบทอดถอนใจออกมาด้วยความหนักใจ ถึงแม้ในใจลึก ๆ จะแอบเคืองขุ่นที่หลิวเยว่ซินแต่งเข้าไปเป็นสนมของน้องชายต่างมารดา ทว่าความรักที่ตนมีให้แก่นางนั้นกลับเปี่ยมล้น หากวันนั้นเขาไปช่วยไม่ทัน เกรงว่าหญิงเดียวในใจคงจะถูกโจรป่าทำร้ายให้ต้องแปดเปื้อนไปชั่วชีวิตแล้ว “ท่านแม่ ลูกขอให้ล้มเลิกแผนกำจัดหลิวเยว่ซินได้หรือไม่ นางไม่รู้เรื่องอะไรด้วย” “จะรู้หรือไม่รู้ก็ต้องตายอยู่ดี เจ้าอย่าได้ห่วง ครั้งนี้แม่จะเลือกวิธีให้นางตายแบบไม่ทรมานให้ ส่วนหน้าที่เดียวของเจ้ามีเพียงการเตรียมความพร้อมขึ้นรับตำแหน่งฮ่องเต้เพียงเท่านั้น เข้าใจหรือไม่” “ลูกเข้าใจแล้ว เสด็จแม่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD