สองเสืออากาศ

1210 Words
        “ เรืออากาศโทภูผา ดำรงค์ธรรม และเรืออากาศโทเก่งกล้า เกริกไกร พวกเราภูมิใจในตัวคุณทั้งสองที่สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า คุณเหมาะสมทุกอย่าง ทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ที่เหมาะสมจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นนักบินประจำฝูงบินขับไล่ F16 แห่งกองทัพอากาศ จงทะยานสู่ท้องฟ้าแล้วปกป้องผืนแผ่นดินและปวงชน ให้สมกับเป็นเสืออากาศแห่งกองทัพไทย ”             “ ครับผม ”             สองเสืออากาศแห่งกองทัพไทยยืนตรงนิ่ง ยกมือวันทยหัตถ์แข็งขัน รูปร่างฉกรรจ์สูงใหญ่ผึ่งผายแน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามที่สวมเครื่องแบบอันทรงเกียรติแห่งกองทัพอากาศสีฟ้าเข้ม ยิ่งส่งให้ทั้งคู่ดูสง่างาม         เสียงเพลงมาร์ชกองทัพอากาศที่ออกจากปากเหล่าทหารหาญแห่งทัพอากาศไทยผู้เป็นรุ่นน้องเบื้องล่าง ยิ่งส่งให้ใจชายชาติทหารฮึกเหิมภาคภูมิ         เสร็จพิธีแต่งตั้งเสืออากาศแห่งฝูงบินขับไล่ เมื่อผู้บังคับบัญชากลับไปแล้ว เหล่านักบินรุ่นน้องต่างวิ่งกรูเข้ามาหา         “ โอ้โฮ พี่ภู พี่เก่ง โคตรเจ๋งเลยว่ะพี่ เจ๋งโคตร ๆ ”         “ ฝูงบินขับไล่เลยนะพี่ ที่สำคัญ F16 ปีหนึ่งไม่ถึงห้าคน พี่เราได้สองคน พระเจ้า ”         “ ที่สำคัญ พี่ภูเราได้คะแนนอันดับหนึ่งด้วยครับ สุดยอดค้าบโผม ” เสียงจ้อกแจ้กจอแจด้วยความภูมิใจในรุ่นพี่ราวกับนกกระจอกแตกรัง         “ พี่ภูสอนผมมั่งนะ ผมอยากขับ F16 บ้าง พี่นี่มันอัจฉริยะจริง ๆ ว่ะ ผมนับถือ ”         “ เฮ้ย ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็ตั้งใจฝึกมาก ๆ ฟิตร่างกายให้พร้อมเดี๋ยวก็ได้เองแหละ ” ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคายหล่อเหลา ส่งยิ้มละมุนมาให้รุ่นน้องพร้อมตอบอย่างถ่อมตัว         เรืออากาศโทภูผา ดำรงค์ธรรม หรือพี่ภูของน้อง ๆ นายทหารหนุ่มหล่อประจำกองทัพอากาศผู้เก่งกล้า เขามีชาติกำเนิดมาจากไหนไม่มีใครรู้ เพราะเขาเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้านอ้อมกอด ที่แม่ครูไปเจอเขาอยู่บนสะพานลอยในช่วงอายุราวเจ็ดแปดขวบ เด็กชายผอมกะหร่องผิวขาวซีด มีร่องรอยถูกทุบตีเขียวช้ำหลายที่ แม่ครูพาเขาไปโรงพยาบาล เขามีอาการตื่นกลัวและเจ็บปวดทรมานจากการอยากยา พวกมันบังคับให้เขาขอทานและวิ่งส่งยาเสพติดตามที่ต่าง ๆ โดยฉีดยาเสพติดเข้าเส้นให้เพื่อเป็นการบังคับให้เสพติด เพื่อพวกมันจะได้ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าครูจะถามชื่อเสียงเรียงนามหรือที่มาของครอบครัว เด็กชายก็เอาแต่ส่ายหน้าอย่างเดียว         ทางโรงพยาบาลรักษาบำบัดเขาอยู่ประมาณหนึ่งเดือนก็ดีขึ้น แม่ครูพาเขามาอยู่ที่บ้านอ้อมกอด แต่เขายังคงตื่นกลัวผู้คน ไม่ยอมพูดจากับใคร หลายครั้งที่เขาเอาแต่ซุกตัวอยู่ในที่แคบ ๆ น้ำตาไหลอาบแก้มเงียบ ๆ ดูน่าสงสารและอ่อนแอเหลือเกิน แม่ครูจึงตั้งชื่อเขาว่า ภูผา เพื่อเขาจะได้แข็งแกร่งราวกับภูเขา และใช้นามสกุลดำรงค์ธรรมเช่นเดียวกับแม่ครู เพื่อเขาจะได้มีธรรมในใจเสมอ         กว่าภูผาจะปรับตัวให้เข้ากับสังคมแวดล้อมรอบตัวได้ก็กินเวลากว่าสามเดือน เด็กชายเริ่มกล้าพูดจากับเพื่อนพี่น้องที่อยู่ในบ้านอ้อมกอดรอบตัว เริ่มซึมซับความอบอุ่นและเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ เขาได้รับประทานอาหารเพียงพอ มีที่พักพิงหลับนอน ได้รับการศึกษาอบรมที่ดี จากเด็กชายผอมกะหร่องแววตาเศร้าสร้อยหวาดกลัว เขาเริ่มมีเนื้อมีหนังกลายเป็นเด็กชายภูผาที่เข้มแข็งชอบเล่นกีฬาและตั้งใจเรียน         ภูผาเป็นคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจสูง ทำอะไรทำจริง ไม่เคยวอกแวก เขาจึงมักเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอในทุกด้าน ทั้งการเรียน การกีฬา ไม่ว่าจะจับต้องสิ่งใดก็ต้องทำให้ดีที่สุด เขาเติบโตมาอย่างคนอยู่ในกรอบ ไม่เคยประพฤตินอกลู่นอกทางให้แม่ครูต้องเสียใจเลยสักครั้ง จนกระทั่งสามารถสอบเข้านายเรืออากาศได้ตามความต้องการที่มีอยู่ในใจว่า เขาจะต้องทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ปกป้องผืนแผ่นดินและประชาชนทั้งปวงให้พ้นจากโพยภัย โดยเฉพาะยาเสพติดที่เขาเคยเจอมาแล้ว และรู้ว่าพิษสงของมันร้ายกาจเพียงใด เขาไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องมาตกนรกทั้งเป็นแบบเขา         สมอง ความพากเพียร ความมุ่งมั่นเป็นเลิศ อีกอย่างที่ไม่เป็นสองรองใครคือรูปร่างหน้าตา ภูผาผิวขาวเนียนละเอียด ไม่เหมือนกับเด็กเร่ร่อนทั่วไป รูปร่างสูงใหญ่ถึงเมตรแปดสิบห้า ร่างกายแน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามเพราะเขาเล่นกีฬาเสมอและหมั่นฟิตร่างกายเพื่อให้แข็งแรง อบายมุขและสิ่งใดที่ไม่ดีต่อสุขภาพเขาไม่เคยแตะ เพราะเขาระลึกอยู่เสมอว่าภาระหน้าที่ของการปกป้องประเทศชาตินั้นอันดับแรก ต้องมีร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง จะเป็นปัจจัยเบื้องต้นในการส่งผลให้ทุกอย่างมีศักยภาพสูงสุด ปีนี้เขาอายุย่างเข้าสามสิบปีแล้ว แต่ก็ยังดูหน้าอ่อนกว่าวัยคล้ายกับเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น         ความที่คุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำให้มีผู้หญิงมารุมสนใจเขาอยู่เสมอ แต่สุดท้ายก็ต้องล่าถอยออกไปทุกรายเพราะความเฉยชาและปิดตัวเองของเขา เมื่อใครถามเขามักจะตอบว่า         “ ชีวิตผมเกิดมาเพื่อประเทศชาติ ไม่ควรมีเรื่องอื่นมาทำให้ไขว้เขว ”         แต่ก็มีสาวสวยนางหนึ่งที่ได้เข้ามาใกล้ชิดเขามากกว่าใคร เธอคือ เกวลิน หรือเกว ลูกสาวคนเดียวของ พลอากาศเอกปราการ วิเศษสรรค์ ผู้บังคับบัญชาของเขา นายพลปราการรักและเอ็นดูในตัวภูผามาก จึงหมายมั่นไว้ให้ลูกสาวคนเดียวของท่าน เธอสวย เปรี้ยว เฉี่ยว มาดมั่น และเอาแต่ใจ ถูกส่งให้ไปเรียนต่อเมืองนอกจึงยิ่งมั่นใจในตัวเอง         เมื่อเธอได้พบภูผา ชายหนุ่มหน้าตาดีหุ่นเพอร์เฟค หล่อล่ำแน่นตึงไปทั้งตัว ประกอบกับบุคลิกที่สุภาพเงียบขรึม แถมเป็นนักบินอนาคตไกล เธอก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กกำพร้าก็ตามที เกวลินหาโอกาสทอดสะพานให้ชายหนุ่มอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังไม่เคยล่วงเกินและสุภาพกับเธอทุกอย่าง ทำให้เธอยิ่งหลงใหลในตัวเขา ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่ลำบากใจสุด ๆ จะพูดจาอะไรออกไปตรง ๆ ก็ให้เกรงใจท่านนายพลปราการผู้บังคับบัญชาเสียเหลือเกิน         “ พี่เก่งก็เจ๋งว่ะ สุด ๆ เป็นเพื่อนรักกัน แถมยังเก่งเหมือนกันอีก ” หนึ่งในรุ่นน้องยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก         “ อ้าว แน่นอนอยู่แล้ว เอ็งต้องรู้ด้วยว่านี่ใคร พี่หนุ่มหล่อล่ำเพอร์เฟคนามว่า เก่งกล้า ฉกาจฉกรรจ์ ณ สุพรรณบุรี ในโลกนี้หาใครมิมีเทียบเทียม ” ท้ายเสียงร้องลิเกเสียอย่างนั้น เรียกเอาเสียงหัวเราะครึกครื้นให้ดังขึ้นในวงสนทนา  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD