ตอนที่ 10/1

1527 Words
เมื่อสะใภ้ใหญ่ กลับมาถึงบ้านก็เข้าครัวไปทำกับข้าวเหมือนทุกวัน พอเห็นสำรับวางอยู่บนโต๊ะ มีฝาครอบ จึงเปิดดู แม่อู๋ เดินเข้ามาพอดี " อันนั้นเป็นสำรับที่สะใภ้รองทำไว้ให้พ่อกับแม่ สะใภ้ใหญ่ ก็ทำเฉพาะกินกับตาใหญ่นะ ไม่ต้องทำอาหารเผื่อ พ่อกับแม่และเล่อเล่อหรอก " พูดจบก็เดินไปยกสำรับไปไว้ที่โต๊ะกินข้าว ต่างหาก " ค่ะแม่" สะใภ้ใหญ่ตอบเสียงเบา และมีความไม่พอใจสะใภ้รองที่ไม่เผื่อแผ่ให้เธอและสามี จือรั่ว ไม่ได้สนใจว่าใครจะรู้สึกอะไร เพราะไม่เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว พอสามีออกไปจากห้อง เธอก็เดิน ออกมาดู ข้างบ้านที่พ่ออู๋ บอกว่าจะแบ่งให้ครอบครัวเธอสร้างบ้าน เธอกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะเอา วัสดุก่อสร้างออกมาจากมิติ มาสร้างบ้านเธอได้เรื่องนี้เธอต้องตัดสินใจให้ดีเพราะเกี่ยวพันกับชีวิตของเธอเอง เธอกำลังตัดสินใจว่าจะบอกเรื่องมิติกับสามีดีไหม จือรั่ว มันมั่นใจว่าสามีจะไม่มีทางทำร้านเธอ เพราะจากที่สัมผัสตัวตนของอี้เฉิน เขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่มีสักครั้งที่จะทำให้เธอระคายใจ ทั้งยังไม่เคยทำลุ่มล่าม ออกจะให้เกียรติเธอด้วยซ้ำ " เป็นไงเป็นกันถ้าให้ไปลงชื่อเข้าคิวซื้ออิฐ ปูนทราย ปีหน้ายังไม่รู้ว่าจะได้สร้างบ้านไหม " เธอยืนพูดคนอยู่คนเดียว เบา ๆ ตรงข้างบ้านแล้วจึงเดินเลาะไปหลังบ้าน เห็นสามีกำลังตักน้ำจากบ่อใส่ถังน้ำ หิ้วไปใส่ตามตุ่มน้ำใช้ ในห้องน้ำ ห้องครัว และหน้าบ้าน พออี้เฉิน มองเห็นภรรยาเดินเล่นอยู่ข้างบ้าน มาหลังบ้าน ก็หันไปยิ้มให้ " รั่วเอ๋อ เดินเล่นหรือครับ หิวหรือยังครับ เหลือแค่ในห้องน้ำ ก็เสร็จแล้วครับ " " ยังไม่หิวหรอกค่ะ พี่ไม่ต้องรีบหรอก ฉันแค่เดินดูที่ ๆ เราจะปลูกบ้านเฉย ๆ ค่ะ " " ครับ ถ้าได้ทะเบียนบ้านผมจะไปทำเรื่องจองคิวซื้อ อิฐ ปูน เลยครับ อีกวันสองวันคงได้โฉนด แล้วครับ" อี้เฉินบอกเสร็จก็หิ้วน้ำไป จือรั่วเดินย้อนเข้ามาในบ้าน เห็นพี่สะใภ้ใหญ่ กำลังผัดอะไรอยู่ในครัว จึงเดินเลี่ยงจะไปเข้าห้องตัวเอง " สบายจริง ๆ เป็นลูกสะใภ้ มาจากเมืองหลวงใคร ๆ ก็เอาใจ งานในนาก็ไม่ต้องทำ วัน ๆ นอนอยู่บ้านคอยประจบ พ่อแม่ สามี แค่นี้ก็สบายแล้ว" สะใภ้ใหญ่พูดลอย ๆ เพื่อให้จื่อรั่ว ได้ยิน จือรั่ว ได้ยินแต่ไม่ใช่เฉพาะ จือรั่วที่ได้ยินแต่ เล่อเล่อ และ แม่อู๋ ยืนอยู่ด้วยแต่พอดีเป็นมุมอับทำให้พี่สะใภ้มองไม่เห็น " สะใภ้ใหญ่ ทุกวันนี้เธอลำบากมากเลยหรือ " แม่อู๋ " คุณแม่ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ " " ถ้าเธอไม่คิดแล้วจะพูด ออกมาได้ยังไงฉันก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ใจร้ายกดขี่ลูกสะใภ้ สักคนนะ และที่สำคัญ ตารองกับสะใภ้รอง เขาแยกบ้าน แยกครัวกับบ้านใหญ่แล้ว สะใภ้รอง จะลงนา หรือไม่ลงนามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านใหญ่เลยสักนิด " " มีอะไรกันครับแม่ อาหรง " พี่ชายใหญ่ " จะเรื่องอะไรก็เรื่องปากของเมียลูกนั่นแหล่ะ อยู่ไม่สุข ชอบแขวะน้องสะใภ้ ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา นี่แม่เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วนะว่าที่สะใภ้รองตกบันได เป็นความตั้งใจของเมียลูก หรือเปล่า" " แม่ครับ เดี๋ยวผมจะคุยกับอาหรงเอง แม่อย่าโมโหไปเลยครับ " " เล่อเล่อ พาคุณแม่ไปกินข้าวเถอะจ้ะ แม่คะ อย่าโมโหเลยค่ะ " จือรั่ว แม่อู๋เห็นลูกสะใภ้ พูดแบบนั้นก็ใจเย็นลงจึงได้เดินไปที่โต๊ะเพื่อกินข้าว " เล่อเล่อ ไปเรียกพ่อมากินข้าว "แม่อู๋ " ค่ะ" จือรั่ว ยิ้มให้แม่อู๋ และพูดให้แกใจเย็นลงแล้วจึงเดินกลับห้อง พอดีกับที่อี้เฉิน อาบน้ำเสร็จพอดี " เมื่อกี้มีอะไรกันครับ พี่ได้ยินเสียงแม่ แว่ว ๆ" " ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ " " ครับ เราไปกินข้าวเถอะ พี่หิวแล้ว " " ค่ะ " พอกินข้าวเสร็จ จือรั่ว เก็บสำรับออกไปล้างเสร็จก็เตรียมของไปอาบน้ำ โดยอี้เฉินไปนั่งรอ ด้านนอกด้วย จนเสร็จเรียบร้อยจึงได้เข้าห้องนอนกัน " พี่ไม่ต้องเฝ้าฉันขนาดนั้นก็ได้ ค่ะ" " พี่ยังไม่วางใจ ครับ บอกตรง ๆ พี่กลัว กลัวจะเสีย เธอไป " " พี่เฉิน ฉันมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้พี่ฟัง แต่ฉันเชื่อใจพี่ได้ใช่ไหม " " ครับ รั่วเอ๋อ มั่นใจละเชื่อใจพี่ได้แน่นอน พี่จะไม่ถามอะไร หากรั่วเอ๋อ ไม่สบายใจก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ครับ " " ฉันเชื่อใจพี่ค่ะ ถึงเราจะรู้จักกันไม่นาน แต่ฉันสัมผัส ได้ถึงความจริงใจของพี่ เรื่องที่จะเล่ามันอาจดูเหลือ แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ" " พี่รอฟังอยู่ครับ " " ฉันไม่ใช้ หลิน จือรั่ว คนนั้นค่ะ " "....." อี้เฉิน " ฉันคือ หลิว จือรั่ว ความจริงคือฉัน มาจากอนาคต อีก 50 ปีข้างหน้าค่ะ ครอบครัวฉันอยู่ประเทศไทย แต่ ป๊า เป็นคนปักกิ่ง ที่หนีไปตั้งรกรากที่เมืองไทยและแต่งงานกับแม่ ก็น่าจะช่วงปีที่แล้วที่ป๊าลงเรือไป แต่อากงกับอาม่า ยังอยู่ที่ปักกิ่งค่ะ พวกฉันมาปักกิ่งบ่อยเพราะต้องมาไหว้ อากงอาม่า ที่บ้านทำธุรกิจ เกี่ยวกับรถยนต์ ทั้งนำเข้ามาประกอบ และผลิต อะไหล่รถยนต์ ส่งออก ตัวฉันเป็นลูกสาวคนเดียว แต่มีพี่ชาย 2 คน และน้องชาย 1 คน พี่ชายคนโต กับฉันบริหารในบริษัท แทนป๊า พี่รองหลิว เป็นตำรวจ แต่ตอนนี้คงไปช่วยพี่ใหญ่ เพราะฉันมาอยู่นี่ ส่วนตี๋เล็ก ตอนฉันมา เขาอยู่ที่ปักกิ่ง ตอนนี้คงกำลังนั่งร้องให้ อยู่ข้างหลุมฝังศพ ฉัน เพราะฉันไม่ได้บอกเขาตรง ๆ ฉันสงสารน้อง เราสนิทกันมาก กว่าพี่น้องคนอื่นเพราะ โตมาพร้อม ๆ กัน ก่อนจะมานี่ ฉันมาเที่ยวอันหยาง ค่ะ พอฉันมาถึงก็เข้าพัก โรงแรมในตัวเมือง อันหยาง คืนแรกฉันก็ฝันเห็น หลินจือรั่ว ตอนเธอเดินทางมาที่ มาเป็นยุวชนเด็ก เธอมาด้วยความโกรธ ที่พ่อแม่ตัดสินใจส่งเธอมา คุณเชื่อไหมเธอไม่เคยส่งจดหมายแจ้งทางบ้านเลยว่าได้มาอยู่ที่นี่ จนวันที่จะแต่งงาน นั่นแหล่ะค่ะ พอวันที่2 ฉันไปไหว้เทพเจ้า ที่ศาลในวัด เมืองอันหยาง ฉันเจอคุณป้าท่านหนึ่ง มาคุยกับฉันและให้กำไรหยกฉันมา แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ อะไร คืนที่สองฉันฝันเห็น จือรั่วตอนโต และฝันเห็นคุณ แต่ในฝันฉันมีความรู้สึกของ จือรั่วทุกอย่าง เหมือนจะตอนคุณเข้าไปช่วย จือรั่ว ตอนเป็นลม และขอรับผิดชอบแต่งงาน นั่นแหล่ะค่ะ และฉันก็ฝันอีก ตอนที่แม่หลินมา และวันแต่งงานของจือรั่ว และดูพิธีการแต่งงานต่าง ๆ จนถึงที่จือรั่วตกบันใด นั่นแหล่ะค่ะ " " แสดงว่า จือรั่ว ตายไปแล้ว และคุณก็มาอยู่ในร่างของ เธอ " " ใช่ค่ะ แต่ฉันไม่ได้มาแย่งร่างของเธอนะคะ เพราะคุณป้าที่ให้กำไรหยกมิติฉัน และเป็นคนพาฉันมา ที่นี่บอกว่ามันเป็นเวลาของแต่ละคน ฝืนลิขิตไม่ได้ค่ะ ก่อนมา ท่านยังให้เวลาฉันกลับไปบอกลาคนที่บ้านและเตรียมของใส่มิติมามิติ มีพื้นที่ ประมาณ 10 หมู่ ฉันเตรียมของมาเยอะมากเต็มพื้นที่ แต่ก็จำไม่ค่อยได้หรอกว่ามีอะไรบ้างเพราะทุกคนที่บ้านช่วยฉันจัด แม่จัดเรื่องอาหารการกินเพิ่ม ป๊าให้พวกหยกของมีค่า เงินหยวนเก่า คูปองทุกชนิด พี่ชายหาบ้าน รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ปืน ส่วนเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน ฉันลืมบอกว่าอีกอาชีพหนึ่งของฉันคือ ดีไซน์เนอร์ เครื่องแต่งกาย หรือเรียกอีกอย่างคือออกแบบเสื้อผ้าค่ะ เพื่อนฉันก็ตัดเสื้อผ้ายุคนี้ มาให้เยอะแยะมีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย และส่วนตัวสมบัติฉันก็เยอะมากพอควร จึงเตรียมของเองไว้เยอะเหมือนกัน มิติของฉันเข้าไปไม่ได้ แต่เรียกออกมาได้ และเก็บของได้ แค่นั้น ตอนที่ฉันมาถึงที่นี่ ก็เจอกับจือรั่ว เธอบอกฝากพ่อแม่ และทุกคนด้วย เธอหมดเวลาแล้ว และฉันก็ตื่นมา ตอนที่อยู่โรงพยาบาลนั่นแหล่ค่ะ " มีต่อตอน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD