บทที่ 1 ซุปเปอร์สตาร์
แชะ แชะ แชะ แชะ
“สวยมากจ้า นั่นแหละเชิดหน้าขึ้นหน่อยอุ๊ยสวยมากจ้า”
เสียงชัดเตอร์ของกล้องราคาหลายแสนดังรัวๆพร้อมกับคำชมไม่ขาดปาก “เช็ดลิปสติกออกหน่อย”
หลังมือเล็กยกขึ้นมาถูปากตัวเองหนึ่งทีก่อนจะโพสต์ท่าโชว์ใบหน้าเรียวสวย
“โอเค๊ ฉันจะไปลงรูปว่าเธอกำลังป่วยและรักษาตัวอยู่ อยู่นิ่งๆอย่าก่อเรื่องพักผ่อนไปนะจ้ะ” เมื่อได้รูปที่ต้องการแล้วจึงหันไปกำชับคนที่มองมาตาแป๋ว
“โอเค รีบมานะ”
คลืด...คลืด...
เสียงสั่นจากโทรศัพท์ดึงคนที่กำลังจมอยู่กับความคิดให้หันไปมอง โทรศัพท์ยี่ห้อดังถูกจับขึ้นมองว่าใครโทรมาก่อนที่ยกขึ้นแนบหู
‘ข่าวนั่นไม่จริงใช่ไหม!’
“ถ้าจริงล่ะ”
‘ค่อยโล่งใจหน่อย เอาเลยเอาให้เต็มที่’
“เฮอะ! แปลกคนจริง”
‘มันคือความสุขของแก อยากทำอะไรก็ทำเลยเดมแกช้ำเลือดช้ำหนองมาเกินพอแล้ว’
“ได้ข่าวว่ากำลังเสพสุขกันสบายใจเฉิบหลังจากที่ฉันแกล้งโง่ต่อหน้า”
‘ฉันยอมใจแกนะ เป็นฉันทนไม่ไหวหรอก’
มือเล็กมองโทรศัพท์ในมือสายที่พึ่งถูกตัดไปและสิ่งที่ได้รับรู้เริ่มวกวนมาอยู่ในความคิด อดีตผัวคนแรกของเธอกำลังเสพสุขอยู่กับเพื่อนรักนานนับสิบปี
คอนโด
“อย่าออกไปไหน กินข้าวแล้วรีบพักผ่อน ฉันต้องไปประชุมเรื่องค่ายอาสา” เหมือนสีซอให้ควายแต่มีความสวยประจักษ์ตาฟัง “ได้ยินแล้วใช่ไหม!”
“ได้ยินน่า ไม่ไปไหนหรอกนักข่าวเยอะขนาดนั้น” เสียงเล็กตอบปัดๆก่อนจะทิ้งกายลงบนโซฟาตัวนุ่ม ในหัวสมองกำลังขบคิดอย่างหนัก
เธอจะทำยังไงดีนะให้สองคนนั้นเจ็บที่สุด
“นี่โฆษณาที่เราต้องไปร่วมแคมเปญในครั้งนี้ ศึกษาไว้หน่อยก็ดีนะ ถึงเธอจะมือโปรแต่งานออกมาดีนั่นแหละคือสุดยอดดารา” ไม่วายยังหันมาสั่งงานเธออีก ทั้งที่ไม่ได้แก่แต่บ่นเก่งยิ่งกว่าแม่ก็คนที่เธอเรียกว่า ‘ผู้จัดการ’ นี่แหละ
“เข้าใจแล้วน่า ไปสักที” หมอนใบโปรดรูปหัวใจสีชมพูอ่อนลอยตามร่างผู้จัดการคนโปรดไป ดีที่ไม่หยุดฝีเท้าไม่งั้นหมอนสีสวยคงแหมะอยู่ที่ท้ายทอยพอดี
หางตาหันไปมองข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ตนเองต้องไปถ่ายแบบให้ก่อนจะยิ้มเยาะออกมา มือเล็กควานหาโทรศัพท์ในเสื้อฮู้ดแขนยาวทำการปลดล็อกหน้าจอล้มตัวนอนพร้อมกดเข้าเกมฟาร์มที่เธอชอบแอบเล่นเก็บเลเวลมาจนถึงร้อยเลเวล นี่สิความภูมิใจที่ได้ลงมือทำเอง!
“นั่นเหรอนางแบบที่มาร่วมแคมเปญด้วยได้ข่าวว่าดังเพราะครอบครัวรวย ดูท่าทางเชิดหน้าชูคอนั่นสิ”
“อืม นางสวยสะบัดขนาดนั้น แต่ก็น่าหมั่นไส้จริงนั่นแหละ ไม่มีท่าทางถ่อมตนปั้นหน้านิ่งเหมือนคนที่ชนะอยู่ตลอดเวลา”
“มีแบล็คหลังดีก็งี้ ดูข่าวล่าสุดที่ออกมาสิเป็นชู้กับท่านสส. นึกว่าชอบลูกชายที่แท้ชอบพ่อเขา”
“ไหนว่ารวยมาก หรือสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่ออวยตัวเอง”
ปั้ง!
เสียงทุบโต๊ะดังสนั่นทั่วห้องสี่เหลี่ยมเหล่าดารารุ่นเล็กใหญ่ในแวดวงที่กำลังจับกลุ่มนั่งเมาส์ดาราขาขึ้นอย่าง เดมี่ หรือ เดม ต่างสะดุ้งตกใจก่อนที่ทุกคนจะหันไปมองตามเสียง
“อุ๊ป พอดีแมลงวันแถวนี้น่ารำคาญนะคะเลยตบมันตายไปแล้ว ขอโทษนะคะ” เสียงหวานๆกับรอยยิ้มเคลือบน้ำตาเชื่อมส่งไปถึงบรรดาช่างแต่งหน้ามีชื่อเสียง แต่เธอกลับวางสายตาจุดสุดท้ายที่เขาเมาส์ประจำห้อง
“ปิดประตูตบเลยมั๊ย!”
เดมี่ หรือคนใกล้ชิดจะชอบเรียกเธอว่า ‘เดม’ หันไปมองหน้าผู้จัดการสาวรุ่นพี่พร้อมกับส่ายหน้าเอือมๆ ปากก็พร่ำบ่นว่าเธอไม่มีความอดทนอดกลั้น ดูสิ! ดูคนสอนเธอสิ
“นั่นแหละครับ สวยครับโชว์สินค้าใกล้ๆหน้าหน่อยครับ”
ใบหน้าสวยหวานตามฉบับลูกครึ่งหยิบจับจัดท่าทางได้คล่องแคล่ว ไม่ว่าภาพไหนก็ออกมาถูกใจทีมเซ็ตภาพจนได้รับคำชมอยู่เสมอ
“ฝีมือพัฒนาอยู่เสมอเลยนะครับ วันนี้ทำได้ดีมากครับ” ช่างภาพหนุ่มหล่อเอ่ยปากชม เดมี่ยิ้มรับก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วบอกลาทีมงานทุกคนก่อนกลับเหมือนทุกครั้ง
“ฉันขอเอ่ยปากเตือนแกอย่าเล่นกับไฟ” เอม ผู้จัดการสาวสวยรุ่นพี่เอ่ยขึ้นหลังจากทั้งสองขึ้นมาอยู่บนรถแล้วเรียบร้อย
ใบหน้าสวยคมหันไปมองคนข้างๆเหมือนกำลังจะสื่อว่าไม่ทันแล้ว เธอก้าวขาข้างหนึ่งลงนรกไปแล้ว