“ใคร ?” แปงขมวดคิ้วเข้มถามฉันว่ารถคันที่จอดอยู่เป็นของใคร
“พี่ชายฉัน กลับไปได้แล้ว เร็วๆ สิ” ฉันพยายามไล่ให้เขากลับไปสักมี แต่ทว่าแปงก็ยังยืนนิ่ง
“จะรีบไล่ทำไม ให้ฉันได้สวัสดีพี่ชายเธอก่อนสิ”
ผู้ชายคนนี้นี่มัน!! จริงๆ เลย
“มีนามาหาพี่เดี๋ยวนี้” เพราะมัวแต่สนใจแปงทำให้ไม่สนสังเกตว่าพี่เมฆลงจากรถแล้ว แถมยังเรียกฉันเสียงดุอีก
เวลาดุพี่เมฆก็ไม่ต่างจากพ่อเท่าไหร่ทำให้ฉันต้องรีบเดินไปหาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“สวัสดีครับพี่ชาย”
“ใคร?”
“เขาเป็นเพื่…..” ยังไม่ทันจะตอบคำถามพี่เมฆจบประโยคแปงก็ชิงพูดขัด “ผมกำลังจีบมีนาอยู่ครับ”
พี่เมฆเงียบไปพักหนึ่งแล้วมองฉันที่กำลังส่งสายตาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายคนนี้
“ขึ้นรถ”
โล่งอกที่พี่เมฆไม่ได้พูดและถามอะไร ไม่สนใจคำพูดของแปงด้วยซ้ำเพราะคงจะดูอาการของฉันออก
“ค่ะ”
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับคนสวย”
“……” ฉันเมินคำพูดของแปงแล้วรีบเปิดประตูเข้ามาข้างในรถ จากนั้นพี่เมฆก็ขับเข้ามาภายในตัวบ้าน
“พี่คุ้นหน้ามันเหมือนเคยเจอมาก่อน” พออยู่ในรถสองคนพี่ชายฉันก็เป็นฝ่ายเปอดฉากถามก่อน
“เขาเป็นเพื่อนของสงครามแฟนเส้นด้ายค่ะ เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่หนูไม่ได้ชอบเขาเลยนะคะ”
“จะไม่ให้พี่บอกว่าเรื่องนี้ ?”
“….ค่ะ”
พี่เมฆถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “ดูท่ามันคงจะร้ายไม่เบา อยู่ห่างๆ มันไว้ อย่าทำแบบวันนี้อีก ถ้าคนที่มาเจอคือพ่อรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ระ รู้ค่ะ”
กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นเป็นเบอร์ของเส้นด้ายที่โทรเข้ามา ฉันจึงรีบกดรับสาย
“อื้อว่าไงด้าย” พอได้ยินชื่อก็ดูเหมือนว่าพี่เมฆจะสนใจเป็นพิเศษเลย
( มีนาฉันทะเลาะกับสงครามแกไปคลับเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม )
“เอ่อ…”
( ไม่ได้ใช่ไหม งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปคนเดียว )
“แป๊บนึงนะด้ายฉันขอพี่เมฆก่อน” ฉันหันมามองพี่เมฆแล้วขอ “หนูขอไปคลับกับเส้นด้ายได้ไหมคะ ถ้าพี่เมฆพาไปพ่อคงไม่ดุ”
“เอาสิ พี่ไม่ห้ามอยู่แล้วแค่ดูแลตัวเองดีๆ ก็พอ”
“พี่เมฆใจดีที่สุดเลย ^_^”
“พ่อน่ะห้ามมากเกินไป พี่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมต้องทำขนาดนั้น” พี่เมฆได้แต่ส่ายหน้าเมื่อพูดถึงเรื่องที่พ่อห้ามฉันสารพัด
#คลับ
พี่เมฆมาส่งและให้เวลาฉันสองชั่วโมงจะมารับ ที่ต้องรีบกลับเพราะกลัวว่าพ่อจะกลับจากงานเลี้ยงมาซะก่อนแล้วจะเจอดุ
ฉันเดินมาหาเส้นด้ายที่กำลังนั่งดื่มคนเดียว คงจะทะเลาะกับสงครามหนักถึงได้แสดงสีหน้าเป็นทุกข์ขนาดนั้น
“ทะเลาะหนักหรอด้าย” ฉันนั่งลงพร้อมกับถามเพื่อนสนิท
“อื้อ”
“ระบายกับฉันได้นะ ฉันพร้อมกับฟัง”
“ก็สงครามสิเขาติดฉันมากเกินไป พอบอกก็หาว่าฉันเบื่อตัดพ้อยกใหญ่”
“น่ารักดีออก ^_^” คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ไหนได้เรื่องแค่นี้เอง
“มันก็น่ารักอยู่หรอก แต่บางทีก็มากไปนะแก ขนาดเข้าห้องน้ำยังตามไปเข้าเลยคิดดูสิ”
“เห็นแกสีหน้าไม่ค่อยดีฉันก็คิดว่าเรื่องใหญ่ซะอีก”
“แกลองมีแฟนดูแล้วจะเข้าใจฉัน”
“……” พอเส้นด้ายพูดเรื่องให้มีแฟนดูแล้วทำไมหน้าของแปงต้องผุดขึ้นมาในความคิดของฉันด้วยนะ บ้าจริง! ฉันไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย
“นี่นะพอทะเลาะเขาก็ออกไปข้างนอกป่านนี้ยังไม่กบับเลย ไม่โทรมาด้วย”
“ใจเย็นๆ ด้าย เดี๋ยวก็โทรมาเชื่อฉันสิ”
พูดไม่ทันจะขาดคำโทรศัพท์ของเส้นด้ายก็มีสายโทรเข้า
“สงครามโทรมาเดี๋ยวฉันไปรับสายก่อนนะ ตรงนี้เสียงดัง แกอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม จะออกไปด้วยกันไหม”
“ฉันอยู่ได้ แกน่ะอย่างอนนานรีบๆ คืนดีกันได้แล้ว”
“เป็นผู้หญิงต้องเล่นตัวให้ผู้ชายง้อหน่อยสิ”
งอนแทบตายแต่พอเขาโทรมาเธอก็รีบไปรับสาย เฮ้อ! เพื่อนฉันนี่นะ
“มีนา” ให้หลังจากที่เส้นด้ายลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์ไม่นานก็มีผู้ชายเดินมาทักฉัน พอมองดูดีๆ ก็เป็นสกายเพื่อนคณะเดียวกันนี่เอง
“คิดว่าใครกายนี่เอง” เราสองคนเจอกันบ่อยเคยทำรายงานกลุ่มเดียวกันจริงๆ ก็ไม่ค่อยสนิทเท่าไร แต่ถ้าเจอก็พูดคุยกันบ้างตามประสาคนรู้จัก
“นี่เธอเที่ยวคลับด้วยหรอ?”
“ปกติก็ไม่หรอก”
“แล้ววันนี้ไม่ปกติ?”
“เส้นด้ายชวนมาน่ะ นั่งก่อนสิ”
“อื้อ แล้วนี่ด้ายไปไหน” กายพยักหน้าแล้วนั่งลงตรงข้ามกับฉัน
“ไปคุยโทรศัพท์กับแฟนน่ะ”
“อ๋อ เธอดื่มไหมมาชนแก้วกันหน่อย”
“ขอโทษนะกายคือฉันไม่ดื่มน่ะ แค่มาเป็นเพื่อนด้ายเดี๋ยวก็คงจะกลับกันแล้ว”
“ถ้าเธอบอกว่าดื่มฉันคงอึ้งจนทำตัวไม่ถูก”
ฉันยิ้มกับคำพูดของกาย ถึงไม่ใล่เพื่อนที่สนิทแต่เขาก็พอรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง กายนั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่ครู่ใหญ่ เขาเป็นคนอารมณ์ดีคำพูดชวนให้ฉันหัวเราะจนเจ็บท้องไปหมด
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันแวะมาหาใหม่นะ กลับโต๊ะก่อน”
“อื้อโอเคๆ”
พอกายลุกขึ้นไปฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา กำลังจะส่งข้อความไปหาเส้นด้ายแต่มีคนเดินมานั่งที่โต๊ะพอดี
“สกายเพิ่งไปเมื่อกี้….” คิดว่าเป็นด้ายฉันกดปิดจอโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นพูด แต่ทว่าหัวใจดวงน้อยมันเกือบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ด้ายแต่เป็น ‘แปง’
ไม่ว่าจะไปที่ไหนทำไมต้องเจอแต่ผู้ชายคนนี้ด้วย!
“มีความสุขจังเลยนะ” นี่คือคำแรกที่เขาทักทายด้วยสีหน้าที่เข้มขรึมเหมือนไม่พอใจฉันอยู่
“……” ฉันพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้หวาดกลัว อยากจะตีมือที่กำลังสั่นเทาอยู่จริงๆ เลย
“ยิ้ม หัวเราะ หึ!! ทีกับฉันไล่แล้วไล่อีก”
“…….”
“มันเป็นใคร?“
“นะ นายพูดถึงเรื่องอะไร”
“รู้ไหมว่าท่าทางไม่รู้อะไรเลยของเธอมันทำให้ฉันหงุดหงิดชิบ!! เธอชอบแบบนั้นรึไงห๊ะ!!”
“พะ…พูดอะไรฉันไม่เห็นจะรู้….” หมับ! แปงลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมากระชากแขนฉันให้ลุกขึ้น “อ่ะ!…ปล่อยฉันนะ…แปงนายจะพาฉันไปไหนปล่อย!”
ทำแบบนี้อีกแล้ว! เขาเห็นฉันเป็นสิ่งของที่จะลากไปไหนมาไหนก็ได้ตามอำเภอใจหรือไง