‘เราเลิกกันเถอะ พี่อายคนอื่น...ชาไม่คู่ควรกับพี่สักนิด’ เมื่อสุราเข้าสู่ร่างกาย ประโยคร้ายๆที่ฉันจำจดก็เริ่มปรากฏเข้ามาในหัวสมองของฉัน ผู้หญิงร่างท้วมโน้มไปทางอ้วนอายุ18ปียืนซื่อบื้อฟังประโยคบอกลาจากปากชายคนรัก รักแรกพบ รักครั้งแรก จบลงด้วยประโยคร้ายๆ เขาทิ้งท้ายได้เจ็บปวด เขาว่าจบก็เดินจากฉันไปโดยไม่มีเยื่อใยใดๆแม้แต่น้อย และตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ได้พบเจอเขาอีก ได้ฟังเพียงข่าวลือที่หนาหูว่าเขาควงผู้หญิงสวยๆมากหน้าหลายตา เขาไม่เสียใจสักนิดต่างจากฉันที่คร่ำครึจมปลักอยู่กับความหลัง และเมื่อวันเวลาผ่านไปแรมปีฉันก็เลิกถามไถ่ความเป็นมาของเขา เลิกรับรู้และไม่ขอรับฟังเรื่องของผู้ชายใจร้ายคนนั้นอีกเลย
มีเพียงคำว่า ‘ไม่คู่ควร’ ดังก้องในหัวสมองของฉันตั้งแต่วันนั้นจวบจนวันนี้ ซึ่งตั้งแต่นั้นมาผู้หญิงร่างท้วมอย่างฉันก็เริ่มปรับเปลี่ยนหัดดูแลใส่ใจตัวเอง ฉันก็เข้าใจนะคนอ้วนอย่างฉันใครจะอยากมารัก
แต่ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือ...แล้วตอนแรกเขาคบกับฉันทำไม มาแสดงว่าเรารักกันเพื่ออะไร? ดูแลใส่ใจฉันดั่งเจ้าหญิงเพื่ออะไร? เวลา3ปีไม่มีความหมายเลยหรือไง
แต่ก็นะ ความรักในวัยเด็กยังไงซะก็ไม่ยั่งยืนอยู่แล้ว! และตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่กล้าที่จะเปิดใจคบใครอีก
ฉันหลบหลีกทุกคนที่พยายามปลีกตัวเข้าหา
ฉันกลัวการเสียใจ
ฉันกลัวว่าฉันจะไม่คู่ควร
ถึงแม้ทุกวันนี้ฉันจะมั่นใจว่าฉันสวยมากก็เถอะ
ครืด ครืด ครืด!
เสียงมือถือดังเรื่อยๆซึ่งคนเมาไม่ได้สติอย่างฉันก็เริ่มคลานหา และก็ไม่รู้ว่ามันตกไปอยู่ส่วนไหนของห้อง หลังจากที่เพื่อนพ้องของฉันพากันยกแก้วดื่มแบบไม่ห่วงชีวิต ฉันก็รู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่มือถือดังนี่แหละ และคนที่มาส่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีวาสปากหมาที่ดื่มน้อยที่สุด
“ค่า...” ฉันกรอกเสียงใส่ปลายสาย ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกว่าใครโทรมา
(ชาลียังไม่ตื่นเหรอลูก)
“ว่าไงคะคุณหญิงสไบทอง” ฉันพยุงตัวลุกขึ้นนั่งพิงผนังห้องและพยายามเรียกสติตัวเองเมื่อรับรู้ว่าคนที่อยู่ในสายสนทนานั้นคือมารดาเจ้าระเบียบ
(เสียงแบบนี้เมาหนักอีกแล้วใช่ไหม) แล้วคุณหญิงสไบทองก็เริ่มจับพิรุธลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเช่นฉัน
“เปล่าค่ะแม่” ฉันพ่นคำโกหกให้มารดารับฟัง
(โกหก! แม่เลี้ยงแกมาทำไมแม่จะไม่รู้นิสัยแก แล้วแบบนี้เนี่ยนะจะให้พ่อยกตำแหน่งให้) เสียงเทศน์ยามเช้าตรู่กรอกเข้าหูของฉันทันใดและก็ไม่พ้นหยิบยกตำแหน่งที่ฉันต้องการมากล่าวอ้าง
“วันนี้หยุดเมื่อคืนเลยดื่มค่ะแม่” ฉันชี้แจงด้วยท่าทีที่เหนื่อยหน่าย บางทีการอธิบายอะไรบ่อยๆมันก็น่าเบื่อ! ซึ่งฉันพบเจอประจำกับคำถามเดิมซ้ำๆ
(แกนี่นะ แทนที่จะรีบมีแฟนแต่งงานมีหลาน ทำไมถึงไม่มีสักทีแกจะเก็บไว้ดองหรือไงซิงแกอ่ะ) แล้วแม่ของฉันก็เริ่มแผลงฤทธิ์อีกแล้ว ท่านว่ายาวจนถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ฉันยังหลงเหลือในขณะที่อายุ28ปี!
“ถ้าแม่โทรมาบ่นด้วยเรื่องเดิม ชาขอนอนนะคะ” ฉันเริ่มดึงกลับเข้าเรื่องเพราะดูเหมือนเราสองแม่ลูกจะนอกเรื่องกันมาไกลละ
(เชิญแกนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แต่2ทุ่มคืนนี้ฉันต้องเห็นแกมานั่งที่โต๊ะอาหารร่วมกับฉัน...เข้าใจใช่ไหมคะลูกสาวแม่) น้ำเสียงประโยคแรกกับประโยคสุดท้ายช่างแตกต่างยิ่งนัก
“ค่ะคุณหญิงสไบทอง” ฉันว่าจบก็กดวางสาย ก่อนที่คุณหญิงสไบทองจะออกคำสั่งไปมากกว่านี้ จากนั้นอาการมึนเมาก็เริ่มทำงานนั่นก็คือการ...อ้วก
กว่าฉันจะได้นอนก็นานโข