เธอตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำบุญตักบาตรให้เป็นสิริมงคลกับชีวิตแต่งงานตัวเอง แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตัวเธอและเจ้าบ่าวจะแยกกันอยู่คนละห้อง แต่เมื่อได้แต่งงานย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาแล้ว เธอก็เป็นคนของเขาไปแล้ว แม้จะเป็นแค่ภรรยาในนามก็ตามทีตอนนี้ อุรณา ภัทรปรีชา หรือเนม วัย 22 ปี หรือตอนนี้เป็นนางอุรณา กุลตลา ภรรยาของนายแพทย์พชรพล กุลตลา หรือหมอฌอห์ณ วัย 33 ปี แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจมือหนึ่งของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และการแต่งงานของทั้งคู่เป็นการแต่งงานไร้ความรัก แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่พชรพลเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งพินัยกรรมแบบนั้นไว้ให้ตัวเขาด้วย
อุรณาตักบาตรกับพระหน้าบ้านเสร็จก็ให้เด็กรับใช้ที่มาช่วยตัวเองเก็บข้าวของเดินเข้าไปในบ้าน โดยตัวเองก็ถือถาดโถข้าวช่วยเด็กรับใช้อีกแรง แต่พอเดินเข้ามาในรั้วบ้านมองไปเห็นสามีที่กำลังถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปยังโรงจอดรถ จึงส่งถาดโถข้าวให้เด็กรับใช้ที่เดินตามมาแล้วเดินไปหาสามี
“นั่นคุณฌอห์ณจะไปไหนแต่เช้าคะ? และกระเป๋านั่นอีกค่ะ?” ฉันเดินเข้าไปถามสามีและเขาก็หยุดเท้าที่กำลังเดินหันมามองทางเธอ
“ผมจะไปโรงพยาบาล” นายแพทย์หนุ่มตอบสั้นห้วนไร้อารมณ์เหมือนสีหน้าที่เย็นชายากจะคาดเดาความคิดและความรู้สึกของเขาได้
“จำเป็นต้องไปแต่เช้าด้วยเหรอคะ และกระเป๋าเดินทางด้วยคุณฌอห์ณจำเป็นต้องพกไปด้วยเหรอคะ?” ฉันที่เดินมาถึงชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กของคนตัวโต
“ผมจะย้ายไปอยู่ที่แฟลต”
“ว่ายังไงนะคะ?”
“คุณโง่รึไงถึงฟังไม่เข้าใจว่า ‘ผมจะย้ายไปอยู่แฟลต’” แล้วเขาก็เดินไปที่หลังรถแล้วเปิดท้ายรถขึ้นโยนกระเป๋าที่ถือมาใส่ไปแล้วปิดประตูท้ายรถ โดยไม่สนใจคนที่เดินตามมา
“แล้วเนมล่ะคะ?” ฉันถามเขาอย่างไม่เข้าใจ
“คุณก็หายใจด้วยจมูกตัวเองนี่ คงอยู่ได้นะคนเดียวที่บ้านของผม”
พูดจบพชรพลก็เปิดประตูรถแล้วติดเครื่องยนต์แล้วขับเคลื่อนออกจากโรงจอดรถไม่สนใจภรรยาที่ยืนอยู่ข้างรถตัวเอง
อุรณาได้แต่ยืนเม้มปากแหงนเงยหน้ามองบนเพื่อกลั้นน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหล เธอเจ็บ นี่แค่วันแรกที่แต่งงานกัน อยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยากันยังไม่ทันได้ข้ามคืน สามีก็ขอแยกออกไปอยู่ข้างนอก ปล่อยทิ้งให้เธออยู่บ้านหลังใหญ่กับน้องสาวของเขา เธอสูดลมหายใจลึกนำอากาศเข้าไปเลี้ยงปอดตัวเองจนเต็มปอดแล้วปรับสีหน้าที่กำลังปวดร้าวให้เป็นปกติแล้วเดินเข้าไปในบ้าน