ตอนที่ 6 หัวดื้อทั้งคู่

852 Words
"ทำไมดื้ออย่างนี้ว่ะ" ใบหน้าคมคายเริ่มแสดงอารมณ์ขุ่น พ่นลมหายใจร้อนกระแทก จับเสื้อสูทกำไว้แน่นเร่งสาวเท้าก้าวขายาวตาม นักท่องราตรีโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์ควบคุมเสียหมด ต่างไม่รู้ใครเป็นใคร พยามจะบดเบียดร่างบาง ตุ๊บ!!! ท่อนขายาวเตะชายคนเมา ตามนิสัยเลือดร้อน มันดูน่ารำคาญสายตาสำหรับเขา หากถือวิสาสะฉวยโอกาสกับผู้หญิง แม้เจ้าตัวไม่รู้สึก ยังเร่งเดินแหวกผู้คนอยู่ สถานที่ใหญ่โต มีหวังจะหลงเสียเวลาเปล่า เปเปอร์ปรี่เข้าคว้าข้อมือบาง รีบรับมืออีกข้างเพราะรู้ว่าจะโดนสวนกลับด้วยการตบ "รำคาญ!" "ในนี้มีแต่คนเมา ผู้หญิงอย่างพี่จะไปสู้อะไรได้" เขาแค่ออกแรงนิดหน่อยร่างบางเซถลาปะทะอกแกร่งแล้ว โอบกันคนรอบข้างไว้ เจ้าตัวขัดขืนยิ่งไม่ยอม ใช้รองเท้าส้นสูงกระแทกรองเท้าหนัง การเจ็บตัวคือเรื่องธรรมดาของมาเฟียหนุ่มอยู่แล้ว ไม่ได้กระทบต่อความรู้สึกสักนิดเดียว "ปล่อย" "เดี๋ยวนี้ชอบให้คนเข้าถึงมากนักหรอ" เขาตอบกลับด้วยอารมณ์ร้อนขึ้นเสียงตอบ บีบข้อมือบางแน่นกว่าเดิม "อย่าล้ำเส้น" เล็บยาวลงจิกท่อนแขนแกร่งเพื่อเตือนสติ พยามดิ้นขัดขืนให้หลุดจากพันธนาการ ดวงตากลมเฉยชาไม่มีแม้ความกลัว ใบหน้าสวยนิ่งเรียบไร้ความรู้สึก ประชันหน้าห่างเพียงนิดเดียว กลับกลายว่าทำฝ่ายตรงข้ามเดือดดาล เสียงเพลงดังกึกก้อง ไม่มีใครได้ยินเสียงทะเลาะของสองคน กลมกลืนไปกับผู้คน "ก่อนจะล้ำเส้น ขอล้ำอย่างอื่นก่อนแล้วกัน" ฝ่ามือใหญ่อีกข้างเข้าจับท้ายทอยเล็กดันมาจนประชิดกัน ลมหายใจแลกสลับพ่น กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมบุหรี่ทำจมูกเล็กสะอิดสะเอียน ขูดเล็บข่วนแขนแกร่งรูดทางยาว จูบ~ คนร่างสูงจงใจกระแทกจูบ ขบเม้มเรียวปากบางรุนแรง จนรู้สึกเจ็บเห่อแสบต้องเผย่อออก ลิ้นสากโจมตีตวัดดูดดุนลิ้นเล็กในโพรงนุ่ม กลืนกินน้ำหวานอย่างหิวโหย แทบกระชากวิญญาณสมองพล่าเบลอ ใช้กำลังที่มีพันธนาการร่างอรชรไว้ไม่อาจขัดขืน จนเวลาผ่านไปสักพัก "อื้ม...รสชาติเดิม" เขาถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ไม่ลดสายตาไปจากหน้าสวย เธอนิ่งแม้กระทั่งแววตา ไม่ได้แสดงอาการใด กลับยิ่งทำเขาร้อนใจ เปลี่ยนเป็นจับหัวไหล่มนสองข้าง "สารเลว!" ผลัวะ!! กำปั้นเล็กต่อยใส่แก้มสากด้วยแรงทั้งหมดที่มี สวนกลับในเวลาอันรวดเร็ว นาทีจังหวะคนร่างสูงเสียการทรงตัว เธอไม่รอช้าปลีกหนีในกลุ่มคน "มิเกล" แม้เปเปอร์จะพยามส่งเสียงตะโกนเรียกตามหลัง ยังไงก็ไม่ทันเสียแล้ว วันต่อมา ณ ท่าเรือจตุโชติ "วันนี้แม่พาราเอลมาให้กำลังใจเราด้วยนะ" ผกามาศผู้เป็นแม่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล มาพร้อมกับลูกสาวคนเล็ก อายุน้อยกว่ามิเกลสี่ปี นิสัยต่างกันสิ้นเชิง ถึงอายุยังน้อยแต่ใบหน้าเติมแต่งจนเหมือนไวใกล้เคียงกับพี่สาว ร่างอรชรยังคงยืนกอดอก มองไปยังแม่น้ำข้างตึก เธอไม่ได้รู้สึกดีใจหรือมีความสุขกับสิ่งที่เผชิญอยู่ มันดูว่างเปล่าไปเสียหมดทุกอย่าง "พี่เกลจะไม่ทักทายพวกเราหน่อยหรอ กลับมาแล้วทำไมไม่เข้าบ้าน พวกเรารอต้อนรับอยู่นะ" ราเอลถือวิสาสะจูงผกามาศมานั่งลงเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับเจ้าของห้อง "หรืองานมันยุ่งมากมิเกล ให้แม่บอกตาชาร์คไหม" ชาร์คจัดตำแหน่งนึงในคณะบริหารให้เธอ ถือเป็นของขวัญสำหรับการเรียนจบชั้นสูงใช้เวลาอันรวดเร็วกว่าเพื่อนรุ่นอื่น เหมาะสมกับการเป็นคนรุ่นใหม่มาร่วมงาน "ไม่ต้อง" "แม่ดีใจนะที่มิเกลกลับมา วันนี้กลับไปทานข้าวบ้านแม่นะ แม่จะเตรียมอาหารไว้เยอะๆเลย" น้ำเสียงอ่อนโยนบอก ผู้เป็นแม่พยามกลั้นน้ำตาไว้ในอก เพราะการสูญเสียพ่อที่รักไป มิเกลกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่ยุ่งคบหากับใคร และมีนิสัยรักความรุนแรงชัดเจน เธอได้แต่หวังว่าสักวันนึง กาลเวลาเปลี่ยนไปลูกสาวคนโตจะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน "นะพี่เกล อยู่คอนโดคนเดียวเหงาจะตาย" "พี่ไม่ได้กินข้าวบ้านน้ามาศมานานแล้ว คงต้องพาแม่ไปฝากท้องเย็นนี้ด้วยแล้วกัน" ชาร์คแทรกประโยคขึ้นก่อนริมฝีปากบางจะเอื้อนเอ่ยปฏิเสธ เดินเยื้องกรายเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสาร เพื่อจะนำมาสอนงาน "อย่าลืมนะตาชาร์ค วันนี้น้าจะทำสุดฝีมือเลย" หญิงวัยกลางคนรีบตอบกลับอย่างดีใจ อย่างน้อยลูกสาวคนโตคงไม่จะปฏิเสธ "ครับ" "งั้นแม่กลับไปรอที่บ้านนะมิเกล ไปๆราเอล แม่จะไปจ่ายตลาดเอง" บ้านทั้งสองอยู่ใกล้ในโซนเดียวกัน มักจะไปมาหาสู่กันบ่อย เพียงแค่มิเกลเลือกอยู่คอนโดคนเดียว ผกามาศรีบคว้าแขนราเอลลุกขึ้น โบกมือลายิ้มกว้างสุดดีใจ ............................................... อิเปอร์เกินไปมุ้ย555
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD