บทที่ 13 สภาพ

1494 Words
"อีมีฮีมึงไหวไหมวะ มึงตื่นยังลืมตาค่ะเพื่อนหายใจทางเหงือกช่วยมึงได้ ไม่งั้นมึงก็อ้าปากหายใจ พะงาบๆเอาค่ะเพื่อน มึงรู้อะไรไหมตอนนี้มึงเหมือนศพมากเพื่อนสาว มึงอย่าบอกนะว่าเมื่อคนมึงจัดหนัก แต่ตอนกูเห็นนายกระดอของมึงเดินออกจากห้องไป สภาพดูดีกว่ามึงเยอะเลยนะ เหมือนคนได้กินของสดแล้วโดนเติมเลือดมาใหม่ๆดูคึกคักเป็นพิเศษ" เดมี่สำรวจรอบๆและกำลังจะเก็บซากเพื่อนสาวไปส่งปอเต๊กตึ้ง เดมี่นึกว่าเพื่อนตายมาแล้วสองวัน สภาพนี้ไม่น่ารอดออกมาจากห้องนอน "อีเดมี่กูกำลังจะตาย ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ดีที่เขายังปล่อยให้กูออกมาขอความช่วยเหลือจากมึงได้" เดมี่เริ่มสงสารเพื่อนสาวของเธอ เจ้าอนาคอนดาคงหิวโซถึงได้เขมือบเพื่อนสาวของเธอทั้งคืน "มึงออกไปหากาแฟกินกันไหมแล้วหาของหวานเติมพลังกัน เขาบอกคาเฟอีนมันจะช่วยเราได้" มีฮีเริ่มชักชวนเพื่อนสาวออกไปกินกาแฟใต้คอนโด "กูว่าสภาพหนังหน้าแบบมึงคาเฟอีนสิบคันรถก็คงช่วยมึงไม่ได้ กูว่ามึงต้องขยันหาเงินมาช่วยฟื้นฟูหรือโมน้องสาวมึงแล้วล่ะ ไม่ยับเยินไปหมดแล้ว เหรอวะ" "ตอนนี้น้องสาวกูมันตาย มันไม่หายใจแล้วล่ะสงสัยคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมาช่วยให้กลับมาชีวิตชีวา" "โอ๊ย อีห่ากูก็อยากช่วยมึงนะ แต่กูก็คงไม่รอดเหมือนมึง ตูสิประตูกูยังบานหุบก็ไม่ได้ นั่งไปไหลไปจนกูต้องได้ใส่ผ้าอ้อมมันขมิบหุบไม่ลง" ทั้งเดมี่และมีฮีสองสาวสภาพคงไม่ต่างกันมาก ทั้งเจ้านายและลูกน้องคึกพอกัน "กูไม่น่าไปยื่นข้อเสนอแบบนั้นเลยว่ะ กูประเมินนายกระดอนั้นต่ำเกินไปสุดท้ายกูแพ้ยับเยิน" มีฮีเธอรู้สึกพลาดมากที่ไปท้าทายต่อมกระหายของนายกระดอ "มึงรีบไปอาบน้ำแต่งตัวมันมีคาเฟ่สวยๆให้ราไปนั่งจิ๊บอะไรเบาๆให้ตาตื่นค่ะเพื่อน ไหนๆก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว"เดมี่ดันหลังเพื่อนให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง "อีมีฮีมึงเอาอะไรกูจะได้สั่งให้" เมื่อเดินเข้ามาในคาเฟ่สาวๆเลือกที่นั่งติดกระจกเพื่อจะได้มองวิวในสวนได้ เมื่อได้ที่นั่งเดมี่ก็ถามมีฮีว่าจะดื่มอะไร "กูเอาอะไรก็ได้ขอแบบทีมีกาเฟอีนเยอะๆตบตากูให้มันตื่น เอามาช่วยกระตุ้นสมองกูให้ทำงานได้ ตอนนี้กูรู้สึกอึนๆ" สภาพของมีตอนนี้ไม่น่าจะรอดออกมาเดินกินกาแฟข้างนอกได้ "เออเดี๋ยวกูจะเดินไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ให่้จะได้เดินไปเลือกของหวานมาตบปาก "น้องคะพี่ว่าจะสั่งกาแฟค่ะ ร้อนกับเย็นราคาต่างกันมากไหมคะแบบไหนที่จะช่วยทำให้คนใกล้ตายฟื้นขึ้นมาได้" เดมี่เดินเข้ามาสอบถามพนักงานและเลือกเค้ก นานๆจะได้เข้าร้านแบบนี้ ปกติอยู่แถวบ้านจะเป็นรถเข็นแล้วชักขึ้นชักลงมากกว่าเธอจึงไม่ชินกับการสั่งของแบบนี้ เดมี่ถถามพนักงานร้านเพื่อความแน่ใจ "กาแฟร้อนแก้วละ 60 บาทค่ะถ้ากาแฟเย็นเริ่มต้นที่แก้วละ 150 บาทขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก ถ้าจะเอาแบบที่ทำให้ฟื้นพวกพี่สองคนคงต้องอาศัยไสยศาสน์ช่วยนะคะ กาแฟคงไม่ช่วยให้ฟื้น แซวเล่นขำๆนะคะ" เอาแล้วไงเดมี่เจอพนักงานกวนแล้วไง เมื่อคำนวณราคากาแฟแล้ว ร้อนกับเย็นราคาต่างกันมาก เดมี่จึงเลือกที่จะกินกาแฟร้อนราคาถูกกว่ากันเยอะ "กาแฟร้อนและขนมที่สั่งได้แล้วค่ะขอให้คุณลูกค้าทานให้อร่อยและฟื้นเร็วๆนะคะ" พนักงานก็ขยันแซวเล่นเหลือเกิน พนักงานเอากาแฟและขนมวางให้ที่โต๊ะ กาแฟน่าคงร้อนน่าดูเพราะยังมีควันกรุ่นๆลอยขึ้นมา "อีมีฮีมึงจะเป่าให้มันเย็นทำไมอีห่า เดี๋ยวมันจะกลายเป็นกาแฟเย็นแก้วละร้อยห้าบาท มึงกิน แบบร้อนๆห้ามเป่าแก้วละหกสิบปาก หยุดเลยมึงห้ามเป่า" มีฮีที่กำลังหยิบกาแฟขึ้นมาถึงกับต้องหยุดชะงัก ตายห่าลิ้นไม่พองกันหรือไง เอาไงดีถ้าจะเป่าให้เย็นก็ต้องเสียเงินแพงมากกว่า ถ้าจะกินร้อนๆก็กลัวปากพอง "เดมี่ปากกูจะพองอยู่แล้ว คราวหลังมึงไม่ต้องชวนกินร้านนี้เลยนะ พากูกินตามรถเข็นข้างทางพอ" มีฮีบ่นให้เพื่อนสาวที่ชวนมากินกาแฟร้อนๆ "ใครมันจะไปรู้ล่ะว่ามันจะแพงต่างกันมาก ทนเอาค่ะอีเพื่อนใกล้จะหมดแล้ว มึงอย่าให้มันเย็นเด็ดขาด ห้ามเป่าจนกว่าจะหมด" พนักงานสาวสวย มองสองคนนั้นด้วยความสงสัย เธองงมากว่าสองคนนั้นกินกาแฟร้อนๆโดยที่ไม่เป่าได้ยังไง เป็นลูกค้าที่แปลกพิศดารที่เธอเคยเจอมา โดยที่ไม่รู้ว่าสองสาวนั้นกำลังเข้าใจอะไรผิดๆ กว่าจะกินกาแฟหมดปากแทบไหม้ คนละแก้วคงพอตื่นโดยที่ไม่ต้องกินเข้าไปเพิ่ม "อีเดมี่มึงไม่ต้องพากูเข้าคาเฟ่อีกแล้วนะ กูเข็ดกับกาแฟร้อนของมึงมากๆมึงซื้อกาแฟมาชงกินเองเลยมันจะได้เป่าได้" พอกลับมาถึงห้องมีฮีก็เริ่มบ่นให้เดมี่อีกครั้งที่พาไปกินกาแฟร้อนๆ โดยลืมไปว่าตัวเองและผัวรวยมาก แต่เพราะความเคยชินกับนิสัยตอนอยู่ที่บ้าน "ใครมันจะไปรู้ว่าเดินเข้าไปสั่งแล้วนี่หว่าถ้าเดินออกมาเดี๋ยวมันจะเสียหน้า มึงดูลิ้นให้กูสิยังดีอยู่หรือเปล่า มันยังใช้ดูดไอศครีมแท่งคืนนี้ได้ไหมวะ" ไม่ดูสภาพปากตัวเองว่ายังใช้งานได้หรือเปล่า ยังจะหาเรื่องไปดูดไอศครีมยักษ์ "มึงยังจะดูดไอศครีมแท่งลงอยู่เหรอวะ ไม่ใช่ เพราะไอศครีมสองแท่งนั้นเหรอที่ทำให้สภาพเราเป็นแบบนี้" เดมี่กับมีฮีพากันนั่งทำหน้าเซ็งๆ เพราะสามีทั้งสองคนของพวกนางออกไปทำงาน ช่วงนี้พักกองถ่ายจนกว่าจะหานางร้ายใหม่ได้ มีฮีกับเดมี่จึงว่างมากไม่รู้จะทำอะไรแก้เบื่อดี "อีเดมี่มึงกำลังจะทำอะไรอีกเห็นเอากระดาษกับปากกามานั่งจดยิกๆ อย่าบอกนะว่ามึงจะซื้อหวยใต้ดินอีก คราวที่แล้วมึงยังไม่เข็ดอีกเหรอ" มีฮีชะโงกหน้าเข้าไปดูในมือเพื่อนกำลังนั่งจดตัวเลขดูก็รู้ว่ามันกำลังจะซื้อหวยใต้ดิน "อีมีฮีมึงอย่าเรียกว่าหวยใต้ดินมันดูหมิ่นกันเกินไป" เดมี่ทำตาเขียวใส่เพื่อนสาวของเธอ "ถ้ามึงไม่ให้กูเรียกหวยใต้ดินแล้วมึงจะให้กูเรียกอะไร" มีฮีได้แต่ทำหน้างงๆ "มึงต้องเรียกว่าคณิตศาสตร์ชาวบ้านที่ไม่ประสานงานกันกับรัฐบาลค่ะเพื่อน" มีฮีถึงกับทำหน้างงแล้วมันต่างกันยังไง "งงสิงง ถึงกับสรวนเลยสิ" มีฮียิ่งอ้าปากค้างหนักเข้าไปอีกไม่เข้าใจ "เลิกงงแล้วมาช่วยกันคัดกรองเลขค่ะคราวนี้มันต้องมีถูกสักตัวสิ" เดมี่ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจของตัวเอง "ตั้งแต่มึงเริ่มเล่นมึงจะเคยถูกจริงจังสักครั้งยัง" "ก็ยังนะที่กูซื้อนี่กูไม่ได้หวังรวยกูแค่อยากช่วยให้ตำรวจมีงานทำ" เดมี่อธิบายให้เพื่อนสาวฟัง "ยังไงวะไม่เข้าใจ" "เจ้ามือมันจะได้เกิดขึ้นเยอะๆตำรวจจะได้ออกจับบ่อยๆไม่ว่างมานั่งจับเมียตัวเองที่นั่งเล่นไพ่ส่งตำรวจครอบครัวก็จะได้สามัคคีกัน" เหตุผลฟังดูดีมาก "มันก็จริงมึงทำดีมากค่ะเพื่อนมึงจงทำต่อไปแล้วเงินที่มึงยืมไปใช้กูคืนด้วยนะเพื่อน" เดมี่มันช่างหาเหตุผลถั่วๆเพื่อนมาเล่นหวย มีฮีเลยต้องดัดหลังเพื่อนช่างเมาท์ของเธอ คิดได้ไงช่วยให้ครอบครัวเขารักสามัคคีกันเดมี่ๆอย่าหาทำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD