“นี่เขาเรียกต้นอะไรอะวา” เขมิกาชี้ไปที่ไม้น้ำที่แผ่กระจายไปทั่วตามที่เธอเห็นในคราแรก
“อ๋อ กระจับเขาควายค่ะ พี่เขมลองเก็บขึ้นมาดูสิ เดี๋ยววาจะต้มให้กิน” กระจับเขาควายพืชน้ำที่เธอเคยเห็นเขาขายกันตามข้างถนน ลักษณะผลของมันก็เหมือนเขาควายจริง ๆ เธอเคยเอามาแทะกินอยู่ครั้งหนึ่ง ปอกเปลือกไม่เป็นก็ใช้ปากกัดไปเลยสิ ผลสรุปคือมือเมอปากดำไปหมด เขมิกาลองจับต้นของมันพลิกขึ้นมาดูก็พบว่าผลของมันมีสีม่วงอมแดง ลักษณะคล้ายหน้าวัวมีเขาอยู่สองข้าง เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับมันมาก
“ปลูกไว้ขายเหรอ”
“ถ้าเหลือกินก็ขายค่ะ ที่ปลูกในพื้นที่แห่งนี้พ่อขายหมดเลยค่ะ บัวนี่ก็ขาย” เขมิกาพยักหน้าอย่างเข้าใจ นี่สินะที่เขาเรียกว่าเกษตรผสมผสาน ลุงดำปลูกทุกอย่างที่กินได้ มีผลผลิตหมุนเวียนให้เก็บเกี่ยวตลอดทั้งปี เขมิกาเองก็อยากทำบ้างแต่เธอคงมีแรงไม่มากพอและอีกอย่างต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเกษตรด้วยถึงจะทำได้
ตอนนี้ได้กระจับมาเยอะพอประมาณ เขมิการู้สึกภูมิใจที่ตัวเองมีโอกาสได้มาเก็บผลของมันเป็น ๆ แบบนี้ ถ้าขึ้นไปบนฝั่งจะเอาไปอวดพ่อกับแม่ของเธอ
“สระนี้ลึกมากไหมอะวา” อยู่ดี ๆ เขมิกาก็เอ่ยถามขึ้นมา เพิ่งคิดขึ้นได้ว่าเรือเริ่มออกมาไกลจากฝั่งมากแล้ว
“ลึกค่ะ น่าจะราว ๆ สามเมตรมั้งคะ”
“อือ ลึกเหมือนกันเนอะ พี่ว่ายน้ำไม่เป็นด้วยดิ”
“แฮ่ ๆ วาก็ว่ายไม่เป็นค่ะ” วรดาเริ่มพายเรือออกไปไกลมากขึ้น ตอนนี้อยู่เกือบกลางสระน้ำ เขมิกากำลังสนุกกับการเก็บสายบัว
ด้วยความที่ไม่เคยนั่งเรือเขมิกาเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย หนักเข้าใบหน้าเริ่มซีดเซียว แต่มือเล็กก็ยังเอื้อมไปเก็บสายบัวจนสุดมือ ยิ่งน้ำลึกก็ยิ่งดึงสายบัวขึ้นมาลำบากเธอพยายามเอนตัวตามสายบัวจนเรือเอียงไปข้างหนึ่ง ยังไม่สมใจเขมิกายันกายลุกขึ้นนั่งคุกเข่าและทิ้งน้ำหนักตัวไปอีกข้างหนึ่งจนเรือเริ่มโคลงหนักขึ้น
“พี่เขมคะ เดี๋ยววาพายเรือเข้าไปใกล้ ๆ เองค่ะ พี่เขมอย่าเพิ่งกระดุกกระดิกนะคะ” วรดาเกรงว่าเรือจะสูญเสียการทรงตัวจึงปรามพี่สาวไว้
“ไม่เป็นไร พี่เอื้อมถึง” พี่สาวยังคงสาวมือไม่หยุด
“พี่เขมอย่า...” วรดาร้องห้ามพี่สาวที่กำลังยันกายจะลุกไปเก็บสายบัว ขณะที่กำลังไล้มือลงไปตามสายบัวยาวจนน้ำเปียกมาถึงโคนเสื้อ จู่ ๆ เขมิกาก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา
“ว้ายยย!” พูดยังไม่ทันขาดคำร่างเล็กของพี่สาวก็พลัดตกลงไปในน้ำ
บุ๋ม ๆ มือทั้งสองข้างตะเกียกตะกายแหวกว่ายน้ำพัลวัน
“ช่วยด้วย!” วรดาตกใจสุดขีดไม่รู้จะทำอย่างไรไม่รู้จะให้ใครช่วยดี ตัวเองก็ยังอยู่กลางสระน้ำ เขมิกากินน้ำไปหลายอึกก่อนจะหมดแรงและจมลงใต้ก้นสระลึก
“พี่เขม!”
“พ่อ! พ่อ!” เสียงวรดาตะโกนเรียกพ่อสุดเสียง แต่จะมีใครได้ยินเสียงล่ะเครื่องสูบน้ำเสียงดังกลบไปทั่วท้องทุ่งนา ขนาดยืนอยู่ใกล้กันยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
หัวใจวรดาแทบจะหยุดเต้น ตัวสั่นเทาไปหมดเธอกำลังลุกขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เตรียมจะกระโดดลงไปช่วยพี่สาวทั้งที่ตัวเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น เพราะตอนนี้เธอพึ่งพาใครไม่ได้แล้ว ถ้าตายก็ต้องตายด้วยกันเธอคิดแค่นั้นเพราะนี่คือความผิดของเธอที่พาพี่สาวลงมาเก็บสายบัวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อ ถ้าพี่สาวเป็นอะไรไปเธอคงไม่มีทางให้อภัยตัวเอง
ถึงเขมิกาจะไม่ค่อยได้มาเยี่ยมที่บ้านวรดาบ่อยนัก แต่ครอบครัวทั้งสองก็ปลูกฝังให้พี่น้องรักใคร่ปรองดองกัน แม้จะไม่ใช่พี่น้องที่คลานตามกันมาก็ตาม ปู่กับย่าของทั้งสองมีลูกชายสองคนก็คือลุงดำกับมนัสพ่อของเขมิกาซึ่งสองคนนี้รักกันมาก จึงสอนให้ลูกทั้งสองรักกันด้วย