กลิ่นสาบเด็กสาว

1688 Words
กลิ่นสาบสาวที่แรงเหลือล้นมากพอที่จะทำให้ความหื่นของผู้เป็นตาขาดความยับยั้งชั่งใจและสำนึกผิดชอบชั่วดี เขาก้มลงไปที่เนินอก นายชิตดูดเลียยอดอกนั้นด้วยความหิวกระหาย เพราะตัวยายนั้นก็ไม่เคยให้ความสุขเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว จะไปซื้อกินก็ไม่มีรายได้เหลือพอขนาดนั้น กายสาวที่เพิ่งโดนสัมผัสลิ้นเป็นครั้งแรกทำให้อินทุอรณ์รู้สึกร้อนวูบวาบ ตาชิตดูดไปมาสลับซ้ายขวา มือที่ว่างอยู่ก็ลูบต้นขาอวบของเด็กสาว และก็เรื่อยมาจนถึงโคกสวาทของเธอความสาวมันช่างใหญ่โตเกินวัยไม่ว่าจะเป็นเนินอก หรือเนินสวาทมันใหญ่โตไม่แพ้กันเลย ด้านล่างเริ่มมีขนขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มีเพียงเล็กน้อยประปราย นายชิตไม่รอช้า รีบแยกขาทั้งสองข้างของเธอออกเลื่อนตัวลงไปด้านล่างสุด ตาชิตซุกหน้าลงไปดมความหอมหวานขอกลีบกุหลาบที่สดใหม่ ถึงแม้จะมีกลิ่นฉี่ที่ยังล้างไม่สะอาดพอ แต่มันก็เย้ายวนผู้เป็นตาซะเหลือเกิน เขายกขาทั้งสองข้างและให้เด็กหญิงเอามือจับไว้ จากนั้นลิ้นสากลากขึ้นลงไปมาระหว่างกลีบที่ปิดสนิท เด็กสาวทนไม่ไหวเลยต้องเอามือมาปิดไว้ทันที “โอ๊ย!..ตา อย่าทำแบบนี้ค่ะ!..มันสกปรก” “เอ็งอย่าดินสิ..อร แป๊บเดียวขอตาเถอะ” “ตาไม่รังเกียจของหนูเหรอ?” “ไม่หรอกจ้ะ..หนูอยู่นิ่งๆ นะ” “หนูเจ็บค่ะ..ตา” ทำไปได้ไม่นาน หลานสาวก็รีบบอกผู้เป็นตาเพราะทนไม่ไหว เธอบิดตัวหนีและดิ้นไปมาด้วยความทุรนทุราย “ตาจะทำเบา ๆ นะจ๊ะ” ผู้เป็นตารีบพูดหว่านล้อมให้หลานสาวสงบลงแล้วจึงค่อย ๆ เริ่มทำใหม่ด้วยความนุ่มนวลกว่าเดิม ตาชิตค่อยบรรจงดูดกินความหวานอีกรอบ ช้าและเบาลงกว่าเดิม ความรู้สึกประหลาดก่อเกิดขึ้นโดยที่อินทุอรณ์ไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกต่อต้านในช่วงแรกของเด็กสาวหายไปหมด ความร้อนได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างเวลาที่ตาชิตนั้นสัมผัส มันแล่นไปมาตามเรือนร่างของเด็กสาว เธอใจเต้นโครมคราม ตาชิตเลื่อนปากหนามาหยุดตรงซอกคอความสยิวไปทั่วเรือนร่างยังคงแผ่ซ่านไปเรื่อย ๆ ปากของเด็กสาวถูกประกบไปด้วยปากของตาชิต เด็กสาวเบือนหน้าหนีเพราะไม่ชอบกลิ่นเหล้าที่ติดอยู่ในปาก ทำให้ตาชิตต้องใช้มือประคองให้รับจูบนั้น เด็กสาวเม้มปากเน้นไม่ยอมให้ลิ้นเข้าไปด้านในปาก แต่เพียงแค่ตาชิตสอดนิ้วเข้าไปยังร่องที่ปิดสนิท เด็กสาวก็สะดุ้งเฮือก เผลออ้าปากร้อง ตาชิตดันลิ้นเข้าไปจนได้ เมื่อลิ้นชนกัน ความซ่านหวิวก็เกิดขึ้นกับเด็กสาวอีกครั้ง ความสำนึกต่อความผิดชอบชั่วดีไม่มีอีกแล้วสำหรับตาชิต และเด็กสาวก็ไม่ร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้เป็นยาย ไม่นานนักของแข็งถูมาที่ซอกขาด้านในของเด็กสาว ซึ่งตอนนี้ไม่มีกางเกงกันเอาไว้อีกต่อไป ตาชิตถอดกางเกงออกหมด เธอพยายามเอามือคลำไปที่แท่งเอ็นแข็งอันนั้นและกันให้ออกห่างแต่ไม่เป็นผล มันถูมาที่มือเล็ก ๆ ของเธอแทน เด็กสาวรีบจับไว้ “ตาอย่าเอาเข้าไปนะ หนูเจ็บ!!!!” อินทุอรณ์เริ่มกลัวสิ่งที่ถูไปมาบนร่องหลืบนั้น เธอเสียวมากเกินต้านไหว บางครั้งมันก็มุดเข้ามาได้เพียงครึ่ง และก็หลุดออกไป ด้วยความที่เจ็บจุกปนเสียว เด็กสาวพยายามหนีบขาแน่น ไม่ให้แท่งเอ็นร้อนนั้นเข้ามาภายในได้อีกไม่นานนักก็มีน้ำอุ่น ๆ พุ่งมาตรงโคนขาของเด็กสาว เธอรีบเอาผ้ามาเช็ดมันออกด้วยความตกใจ จากที่อินทุอรณ์ที่ถูกรุกรานมาแทบทั้งคืนก็เผลอหลับไปด้วยความง่วงนอน รุ่งเช้าแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาทำให้เห็นสภาพห้องเมื่อคืน ฝนที่ตกหนักทำให้ห้องนอน เต็มไปด้วยขันน้ำและกระป๋องหลายใบเพื่อรองน้ำฝน ผู้เป็นยายรีบทำความสะอาดและเก็บขันไปไว้ที่เดิม ด้วยความรีบร้อนเพราะตอนนี้สายแล้ว และยังไม่ได้เตรียมอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ข้าวปลาก็ยังไม่ได้หุงหา ผู้เป็นยายรีบร้อนเกินไปจึงลื่นล้มอยู่หลังบ้าน เนื่องจากพื้นดินที่ลื่นแฉะ หัวยายนิ่มไปฟาดกับพื้นอย่างแรง ทำให้หมดสติไป แกร๊ง!” เสียงขันน้ำที่ร่วงกระทบพื้นและกระเด็นไปชนกับฝาผนัง ผู้เป็นตาหลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ซึ่งมันดังมากพอที่จะทำให้เด็กสาวตื่นขึ้นและเดินออกไปดู พอเห็นยายนิ่มนอนแน่นิ่งอยู่ อินทุอรณ์เลยรีบเข้าไปปลุกผู้เป็นตาให้ตื่นขึ้น เด็กสาวเขย่าแขนของผู้เป็นตา แต่ว่าด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ตาชิตนั้นตื่นยาก “ตา ๆ ตาชิต ตื่น ๆ ยายเป็นลมอยู่หลังบ้านค่ะ!” เสียงเรียกของอินทุอรณ์ดังขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ เป็นระลอก ตาชิตงัวเงียตื่นด้วยกำลังปลุกสุดแรงของอินทุอรณ์ “ยายล้มอยู่หลังบ้านค่ะ ตาชิตรีบไปดูเร็วเข้า” ตาชิตรีบวิ่งไปตามคำบอกของเด็กสาว ภาพปรากฏตรงหน้าคือยายนิ่มนอนหมดสติไปแล้ว ตอนนี้ยายไม่รู้สึกตัว ตาชิตให้อินทุอรณ์เฝ้าและไปตามเพื่อนบ้านระแวกนั้นมาช่วยกันหามยายนิ่มส่งโรงพยาบาล การเดินทางค่อนข้างทะลักทุเล เพราะมียานพาหนะเพียงแค่สามล้อเครื่องเท่านั้น จะเรียกกู้ภัยก็เกรงว่าจะไม่ทันการ หมอบอกยายนิ่มต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกสักระยะ ตอนนี้ตาชิตก็ต้องเป็นคนเฝ้ายายนิ่มไปก่อน แต่พอตกกลางคืนก็จะให้อินทุอรณ์เป็นคนเฝ้า เพราะถ้าตาชิตจะเฝ้ายายก็ห่วงหลานสาวที่ต้องนอนอยู่บ้านคนเดียว อินทุอรณ์จำต้องขาดโรงเรียนหลายวันเพราะกลางคืนก็ต้องคอยเฝ้ายาย ทำให้เด็กสาวขาดโรงเรียนช่วงนี้ ตาชิตนั้นก็ต้องไปเก็บขยะเพื่อหาเงินมาประทังชีวิตและเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ถึงแม้จะได้รับรักษาที่ฟรี แต่ค่ากินอยู่ในแต่ละวันและการเดินทางไปมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลย่อมต้องใช้เงินทั้งสิ้น ครูประจำชั้นที่เป็นห่วงจึงมาหาอินทุอรณ์ที่บ้าน สอบถามสาเหตุถึงการขาดเรียน ครูสงสารจึงให้เงินกับอินทุอรณ์เอาไว้ใช้ในยามจำเป็น และพยายามบอกให้เธอไปโรงเรียนบ้าง หนึ่งสัปดาห์ต่อมายายนิ่มหายป่วยออกจากโรงพยาบาล แต่ว่ายายนิ่มนั้นเดินไม่ได้ หมอบอกยายนิ่มอาจเป็นอัมพาตช่วงเอวลงไป หมอให้ยาและนัดมาตรวจร่างกายใหม่ในเดือนถัดไป เด็กหญิงอินทุอรณ์ก็ต้องคอยเฝ้ายาย วันไหนที่เธอต้องไปโรงเรียนก็จะขออนุญาตคุณครูออกมาตอนเที่ยงเพื่อป้อนข้าวยายนิ่มครูประจำชั้นของเธอเข้าใจและยอมให้เธอออกไปป้อนข้าวยายได้บางครั้งครูก็จะมาส่งเธอด้วยตัวเอง ครูสา หรือคุณครูสาลิกา ครูประจำชั้นของเด็กหญิงอินทุอรณ์ เธอใจดีและก็สงสารอินทุอรณ์ แต่ก็ช่วยเหลือเด็กสาวได้เพียงเท่านี้ เดือนต่อมาหมอบอกว่ายายนิ่มอาจต้องพิการและเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต แต่ด้วยสภาพครอบครัวและเศรษฐกิจของทางบ้านจะหาคนดูแลก็ไม่มีเงินจ้าง คงต้องดูแลกันเอง ตาชิตก็ไม่มีคนช่วยเหมือนเดิม ต้องออกไปทำงานเอง จะมีบางครั้งในช่วงวันหยุดที่อินทุอรณ์ออกไปช่วยบ้าง แต่ก็ไปได้ครั้งละไม่นาน เพราะห่วงยายที่ต้องอยู่คนเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งตาชิตออกไปเก็บของเก่ายังที่ไกล ๆ กว่าจะได้กลับมาก็มืดค่ำ ขณะที่อินทุอรณ์กำลังป้อนข้าวยายอยู่ พอตาชิตกลับมาถึงทั้งยายหลานก็รู้ทันทีว่าตาชิตไปดื่มเหล้ามาอีกเป็นแน่ ด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่โชยเข้ามาเตะจมูกของผู้เป็นยาย “ไอ้ชิตมึงกินเหล้ามาอีกแล้วใช่มั้ย?” เสียงของผู้เป็นยายดุสามี เขาไม่ไยดีต่อคำพูดนั้น รีบเดินไปอาบน้ำโดยไม่สนใจสายตาของทั้งคู่ ผู้เป็นยายก็เอือมระอา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสภาพร่างกายไม่พร้อมจะไปต่อว่าผู้เป็นสามีเกิดตาชิตคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะเป็นอันตรายกับหลานสาวเอาได้ ทั้งคู่จึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ปล่อยวางมันไป “อย่างไปสนใจเลย..หนูอร” “จ้ะยาย...ตาคงจะเมามาก” ตอนที่ 2 อาทิตย์นี้อินทุอรณ์ไปทำงานที่บ้านครูสาลิกา เธอสะดวกไปทำวันศุกร์ตอนเย็นหลังเลิกเรียนเลย เพราะถ้าช่วงเสาร์-อาทิตย์จะต้องไปช่วยงานคุณตาแยกขยะ “ใจเย็นสิค่ะ อิฐ!!! เดี๋ยวเด็กก็เห็นหรอก รอให้ถึงห้องก่อนไม่ได้หรือไง!!!” “สาให้เด็กมาทำงานที่บ้านวันนี้เหรอ?” “จ้ะ สาบอกให้แกมาวันเสาร์อาทิตย์แต่เด็กเขาต้องทำงานก็เลยให้มาทำเย็นนี้แทน” “เข้าห้องกันดีกว่านะครับสา” “ค่ะ” อินทุอรณ์รับรู้ทุกอย่างในบ้านแต่ก็ต้องแกล้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอไม่ได้สนใจทั้งคู่อยู่แล้ว เพราะครูสาลิกาเป็นผู้มีพระคุณกับเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD