พี่พอ น้องแพ

884 Words
“ใส่ชุดสีเดียวกัน ป๋างงเลย คนไหนพลอยใส คนไหนแพรสวยคะ” ภูผาแกล้งจำไม่ได้ “นี่พี่พอใฉ มีไผในเต่าช้าย” พลอยใสชูแขนซ้ายขึ้น นิ้วเล็กๆ จิกลงไปที่ไฝเม็ดเล็กๆ กลางรักแร้ “นี่น้องแพฉวย แมงวันขี้ไว้ที่คิ้วช้าย” แพรสวยจิ้มหางคิ้วซ้าย “หม่ำๆ กันหรือยัง” “หม่ำแย้วจ้ะ” แพรสวยแย่งตอบ “พี่พอก็หม่ำแย้ว โจ๊กฉองชามแน่ะ น้องแพหม่ำไม่โหมะ ไม่ค่อยเก่งเท่าไหย่ ฉวยน้อยหน่อย เป็นน้องนั่นแหยะถูกแย้ว” พลอยใสอวดตัวเองและทับถมน้อง “ตะ ตะ แต่ น้องแพหม่ำนมของยูชี่ฉามแก้วนะ” แพรสวยจับหน้าภูผาให้หันมามองตนเองคนเดียว แล้วหันไปค้อนพี่สาว “แหวะ แหวะ แหวะ จาอ้วก” พลอยใสทำท่าขยะแขยงเต็มที่ ตนไม่ชอบกินนมที่ถูกรีดจากเต้าแล้วผ่านกรรมวิธีต้มในครัวโดยฝีมือแม่ “หย่อยออก แม่บอกมีปาโยด หม่ำแล้วตัวฉูง” ยกแขนขึ้นสุดตัวประกอบคำว่าสูง “พามฉูงไม่ได้ทำให้ฉยาด” พลอยใส่ยื่นหน้าไปสอนน้องจ๋อยๆ แล้วหันกลับมาทางกรรมการที่ห้ามไม่ถูก ได้แต่หัวเราะกับการถกเถียงของฝาแฝด “ป๋า พามฉวยทำให้ฉลาดเนอะ แต่พามฉูงไม่มีปาโยด” “ฮ่าๆๆๆ เหรอ กินโจ๊กหมดสองชามทำให้สวยและฉลาดกว่าน้องเหรอ” ภูผาเลิกคิ้วถามพลอยใส “พามฉูงทำให้ฉวย” แพรสวยทำหน้าจริงจังบอกภูผา ไม่มีทางยอมพี่สาวแน่นอน “อ๋อ พอสูงแล้วก็จะสวย สวยเสร็จแล้วก็จะฉลาดใช่ไหมคะ” ภูผาลำดับขั้นตอนให้เด็กน้อย บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ตัวเองก็ปวดหัวกับตรรกะของเด็กๆ “ช่ายจ้ะ” แพรสวยพยักหน้าดีใจที่มีคนเข้าใจตนเอง “โน่น ตาเรียก แววมณีจะออกลูกแล้วมั้ง” ภูผาคาดเดา “พี่พอไปด้วย” พลอยใสวิ่งนำหน้าไปก่อนอย่างตื่นเต้น “น้องแพด้วย” แฝดน้องวิ่งตาม คราวนี้ละเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย “อ้าว ทิ้งกันแบบนี้มันไม่เรียกว่าไปด้วยนะ” ภูผาลุกขึ้นมายืนงง สองพี่น้องวิ่งกระดุ๊กๆ ไปที่คอกวัวแล้ว บอกว่าจะไปด้วย แต่ไหงไปก่อนซะงั้น เขาส่ายหัวให้กับความสับสนต่างๆ ที่เกิดขึ้น “น้องแพร พี่พลอย ออกมาข้างนอก” ปานดวงใจหยุดหน้าคอก เอามือกุมท้องหอบแฮ่กๆ “ไม่เป็นไรหรอกเมย์” ภูผาหยิบถุงมือยางจากในรถมาสวมพลางเดินมายืนซ้อนหลังคุณแม่ยังสาว “ไม่ได้หรอก พี่ผาก็รู้ว่าสองคนนั่นยุ่งแค่ไหน คราวก่อนพ่อกับคนงานทำคลอดให้นังลูซี่ เอาแต่ลุ้นให้มันเบ่งจนไม่ทันระวังหลาน พี่พลอยมาจากไหนไม่รู้ มุดเข้าคอกไปช่วยดึงลูกนังลูซี่ออกมา” “แม่วัวสาวรุ่น ตัวโปรดของพี่พลอยนี่นา เขารักของเขา ไม่อยากเห็นลูซี่เบ่งนาน เอ๊ะ หรืออยากเห็นหน้าหลาน” ทุกคำพูดของภูผาแสดงถึงความสนิทสนมกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี วัวตัวไหนเป็นตัวโปรดของใครเขารู้หมด “น่าจะอยากเห็นหน้าหลาน ดีนะที่ลูกนังลูซี่ไม่ออกมาเป็นตัวผู้ จะได้อยู่ด้วยกันยาวๆ” ปากคุยกับภูผาแต่ตาไม่ละไปจากฝาแฝดที่กำลังถูกสุเมธกันออกจากแม่วัว “ไม่งั้นจะกลายเป็นสเต๊กลูกวัวในร้านอาหารใช่ไหม” ปานดวงใจยักไหล่กับคำพูดหยอกล้อของเขา วัวในฟาร์มของเธอเป็นวัวพันธุ์ดี คนที่มาขอซื้อวัวตัวผู้ไปส่วนใหญ่จะเอาไปเลี้ยงเป็นพ่อพันธุ์เสียมากกว่า แต่นับจากนี้คงไม่ขายแล้ว เพราะต้องเอาไว้ขยายพันธุ์รองรับฟาร์มที่กำลังจะขยายหากพ่อเจรจาซื้อฟาร์มข้างๆ สำเร็จ “พี่ผาจะเอาน้องวัวไปฝากลุงเชาว์ไหม เดี๋ยวเมย์ไปเตรียมกล่องมาใส่ให้” รกวัวเป็นเมนูโปรดที่พ่อของภูผาชอบเอาไปทำอ่อมกินแกล้มกับเหล้า เป็นของดีหายาก เวลาที่ชาวบ้านรู้ว่าวัวฟาร์มนี้เริ่มตั้งท้อง จะแย่งชิงกันจับจองตั้งแต่ยังไม่ถึงวันตกลูกด้วยซ้ำ “พี่เตรียมกล่องมาแล้ว” ภูผายกมือลูบท้ายทอยแก้เขิน “เตรียมการมาดีมากค่ะ” ปานดวงใจหัวเราะ “แล้วนี่หน้าเมย์ไปโดนอะไรมา เด็กๆ ก็มีแบบนี้เต็มตัว” ภูผาดึงถุงมือยางออก ตาไล่สำรวจไปทั่วใบหน้าสวยดื้อรั้น มือของเขากำลังจะปาดสิ่งแปลกปลอมออกให้แต่ปานดวงใจถอยหลบเสียก่อน “อ๋อ เลี้ยงลูกเสือลูกลิงก็เป็นงี้แหละ ไอ้ที่เปื้อนเนี่ยคือสีน้ำ พ่อน่ะสิไปซื้อสีน้ำกับสมุดวาดเขียนมาให้ ละเลงกันเต็มบ้านเลย เอาไว้ทำความสะอาดรวบยอดทีเดียวก่อนนอน ทำไปตอนนี้ก็เปื้อนอีก” “ถึงว่าสิ เล่นระบายสีกันนี่เอง ตัวแค่นี้เล่นสีน้ำแล้ว?” “อือ” ปานดวงใจทำหน้าเซ็ง...เซ็งพ่อที่ช่างสรรหาของเล่นก่อนวัยมาเพิ่มงานให้เธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD