ไซม่อนเดินจากไปไม่เร็วและไม่ช้า ครั้งนี้เขายอมปล่อยน้ำใสไป แต่ถ้าเจอกันคราวหน้า เขาจะจัดการกับเธอให้สาสมคงไม่ให้สบายแบบที่ผ่านมาแล้ว น้ำใสคือหนึ่งในสามคนที่มีใบสั่งเก็บจากองค์กรลับที่เธอหลุดออกมานานหลายปีแล้วเธอจะไม่ขึ้นอยู่ในบัญชีเลยถ้าเธอไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนตั้งแต่แรก...องค์กรมีแผนสำหรับเธอคนนี้แล้ว หล่อนจะได้รู้ว่าที่แท้ตัวเองก็เป็นเพียงแค่นางนกต่อ...
“ตามมา” เอ็ดเวิร์ดออกคำสั่งกับน้ำใส เมื่อเธอยืนนิ่ง
“ไม่ไป” เอ็ดเวิร์ดแสยะยิ้มมุมปากทันที และหันไปมองน้ำใสด้วย แววตาที่ทำให้น้ำใสต้องลอบกลืนน้ำลาย ‘ความน่ารักในตัวผู้ชายคนนี้ไปไหนหมดนะ’ น้ำใสคิดในใจ
“หลังจากสิ่งที่เธอทำกับฉัน เธอคิดว่าฉันจะใจดีเข้ามาช่วยเธอฟรีๆอย่างงั้นเหรอ”
“ช่วย? ถ้าคิดจะช่วยฉันก็ควรต้องปล่อยฉันไปสิ แต่ท่าทางคุกคามแบบนี้ ไม่ต่างกับหนีเสือปะจระเข้เลย”
“จระเข้ที่เธอหมายถึง คือ ฉันที่เป็นผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวของเธออย่างงั้นเหรอ! แล้วต้องย้ำมั้ยว่าฉันเป็นผัวที่เธอทิ้งมา ตอนนี้ฉันเปลี่ยนสถานะเป็นจระเข้ไปแล้วอย่างงั้นเหรอ” น้ำใสหน้าแดงฉับพลัน เอ็ดเวิร์ดไม่เคยใช้คำแบบนี้กับเธอ มันหนักไปนิดสำหรับคนที่อ่อนหวานน่ารักอย่างเอ็ดเวิร์ด เธอทำอะไรลงไปละเนี่ย!
“ไม่ไป” น้ำใสทำเป็นไม่ได้ยินและสนใจคำพูดแหน็บแนมเธอยืนกระต่ายขาเดียวยืนยันคำตอบเดิม
“เธอคิดว่าฉันจะไม่กล้าใช้กำลังกับเธออย่างงั้นเหรอ” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยพร้อมกับย่างเท้าเข้าไปประชิดตัวน้ำใสทันที แต่สิ่งที่เอ็ดเวิร์ดคาดไม่ถึงคือน้ำใสมีมีดพก ทันทีเช่นกันที่น้ำใสดึงมันออกมาจากต้นขาของเธออย่างรวดเร็ว ตอนแรกเธอกะจะไว้ใช้ยามจำเป็นกับไซม่อน แต่เอ็ดเวิร์ดเข้ามาขวางไว้ก่อน
“คงไม่ลืมนะว่าฉันชำนาญการใช้มันมากแค่ไหน” น้ำใสเอ่ยกับ เอ็ดเวิร์ดโดยที่มือจับอาวุธไว้มั่นพร้อมสำหรับการใช้งานได้อย่างไม่ลังเล ถ้าเอ็ดเวิร์ดจะคุกคามเธอ
“มาลองกันสักตั้ง” เอ็ดเวิร์ดเข้าหาน้ำใสอย่างไม่มีคำว่ากลัว ฝีมือเธอมีหรือว่าเขาจะไม่รู้ เธอเก่ง เธอชำนาญ ใช่เธอเป็นแบบนั้น แต่ความฉลาดของเธอหายไปไหนหมดนะ! คิดจะใช้ฝีมือของเธอมาปะลองกับเขาอย่างงั้น เหรอ...จุดอ่อนของเธอเขารู้ดี แม้เธอจะปรับและแก้ไขตามคำแนะนำของเขาแล้วก็ตามในหลายๆจุด แต่เธอก็ไม่มีทางเอาชนะเขาได้อยู่ดี
เจเนตและอาร์เชอร์กลายเป็นผู้ชม แม้อาร์เชอร์จะติดตามเอ็ดเวิร์ดมาก่อนเจเนตและเคยใกล้ชิดน้ำใสมาบ้างแม้ช่วงสั้นๆ ตอนนั้นเขาก็เห็นแค่ความสดใสน่ารักของน้ำใส ไม่เคยเห็นบทบาทแบบนี้ของเธอมาก่อน แม่เจ้า! ผู้หญิงคนนี้เก่งชะมัด เธอไวมาก แม้จะสวมกระโปรงและรองส้นสูง แต่ให้เธอเก่งและมีอาวุธในมือก็ตามทีแต่เธอกลับเป็นฝ่ายที่ถูกเจ้านายเขารุกเสียมากกว่า และอาร์เชอร์ก็มองออกว่าเจ้านายเองก็ออมมือให้กับเธอไม่น้อย เขาใช้มือเปล่าซัดหมัดใส่น้ำใสที่เธอก็หลบหลีกได้ทุกกระบวนท่าได้อย่างน่าดูชม และมีบางจังหวะที่อาร์เชอร์เห็นว่าเจ้านายลดกำลังและความเร็วลงเมื่อเห็นว่าการเคลื่อนไหวของเธอช้าลงเป็นแบบนี้ทั้งคืนก็หาผู้ชนะไม่ได้แน่ๆ...เฮ้ยยยยย ‘ความรักหนอความรัก’
“สองคนนั้นต่อสู้กันหรือซ้อมมือกัน” เจเนตเอ่ยออกมา เมื่อเธอเองก็ดูออกว่าเจ้านายตนออมมือให้ตลอดแม้จะพึ่งเคยเจอกันครั้งแรกแบบตัวเป็นๆ แต่คนที่มีศิลปะการต่อสู้ย่อมมองออกอยู่แล้ว เพราะมีหลายจังหวะที่น้ำใสน่าจะโดนอัดเข้าบ้างแล้ว แต่เจ้านายก็ยั้งๆมือไว้ในทุกจังหวะนั้นๆ
“หึ! ไม่ได้ซ้อม แต่เจ้านายกำลังกำจัดเรี่ยวแรงคุณน้ำใสต่างหาก”
“แล้วมีดเธอจะไว้ทำไมนะ ถ้าไม่ไปกับเจ้านายแล้วก็ใช้มีดไปเลยไม่ดีกว่า”
“เจเนตเธอไม่เคยมีความรัก พูดไปก็คงไม่เข้าใจ” อาร์เชอร์เอ่ยแต่สายตาไม่ละไปจากภาพตรงหน้าเลย เพราะเขาไม่เคยมีโอกาสได้เห็นสองคนนี้ซ้อมมวยกันมาก่อนเลย เป็นบุญตาจริงๆ
เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ น้ำใสหอบหายใจเมื่อเรี่ยวแรงเธอจะทัดทานเอ็ดเวิร์ดต่อไปไม่ไหว เขารุกเธอมาตลอดสิบนาทีแบบไม่หยุดเลย ให้เธอแข็งแรงกว่า ผู้หญิงทั่วไปมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องเจอผู้ชายแบบเอ็ดเวิร์ดรุกหนักขนาดนี้ ก็ไม่อาจทัดทานได้เช่นกัน ‘เอ็ดเวิร์ด คุณบังคับฉันเองนะ’ น้ำใสคิดและเธอต้องใช้อาวุธที่เป็นสิ่งเดียวที่เธอได้เปรียบเขา
เฟี้ยววววว เอ็ดเวิร์ดหลบการตอบโต้กลับจากน้ำใสได้อย่างเฉียดฉิว เมื่อน้ำใสงัดเอาทางรอดสุดท้ายทางเดียวของตัวเองออกมาใช้จนได้
“ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักหรอก” เอ็ดเวิร์ดที่ถอยออกมาตั้งหลัก ขยับเดินไปมาต้อนเหยื่อตรงหน้าทีละน้อย แต่น้ำใสไม่ปล่อยให้เอ็ดเวิร์ดต้อนเธอไปมากกว่านี้ แม้เธอจะเหนื่อยไม่น้อยก็ตาม น้ำใสขยับเป็นฝ่ายรุกในที่สุด เอ็ดเวิร์ดเป็นฝ่ายตั้งรับ ฟิ้วววว ฉับ ฉับ การรุกของน้ำใสเริ่มหนักขึ้นเพราะเวลาที่ยืดเยื้อเธอจะเสียเปรียบอย่างมาก
ฉับ เสียงปลายมีดลากเป็นทางยาวประมาณสามนิ้วที่บริเวณหน้าท้องแบบเรียบของเอ็ดเวิร์ด เขาถอยหลังออกมาทันที ฝ่ามือเขาสัมผัสบาดแผลที่มีของเหลวสีแดงค่อยๆซึมออกมาออกมาอย่างรวดเร็ว ก็รู้ว่ามีดนั้นคมมากแค่ไหนเพราะเขาแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บยามที่โดนแผลแรกไปเลย
“ถอยไปซะ!” น้ำใสเป็นฝ่ายตกใจมากพอดูแต่เธอก็พยายามข่มเสียงไว้ เธอไม่อยากจะทำร้ายเอ็ดเวิร์ดเลย แต่เธอไม่มีทางเลือก แต่เขากลับไม่แสดงความรู้สึกใดออกมาให้เธอได้เห็นเลยสักนิด
“น้ำใสเธอคิดได้ยังไงว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ หลังจากที่เธอกล้าทำร้ายร่างกายฉัน”
“เอ็ดเวิร์ดเราต่างรู้ดีว่าเราไม่ต้องการจะฆ่ากัน แล้วคุณจะมาขวางฉันให้เรื่องมันยากทำไม”
“น้ำใส เธอกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่บอกกัน” เอ็ดเวิร์ดข่มอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองไว้ ใช่! เขาเสียใจที่น้ำใสปิดบังอะไรสักอย่างกับเขา ทำไมเขาถึงไม่ใช่คนที่เธอจะคุยและบอกได้ทุกเรื่อง จริงๆแล้วเธอรักเขาบ้างมั้ย? เป็นสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดกังขามาตลอดหลังจากที่เธอหนีไป
“ไม่มีอะไรที่ต้องให้บอก เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว ฉันต้องย้ำกับคุณอีกกี่ครั้ง” เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนแววตาทันที เธอมองเข้าไปในดวงตาที่ลุกโชกไปด้วยเพลิงโทสะ
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
ควับ! ฟุบ! อื้ม! สิ้นเสียงคำเตือน เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นฝ่ายรุกอีกครั้ง น้ำใสแม้จะถดถอยหลบหลีกได้ทัน แต่เธอรู้ดีว่าถ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ปราณีเธอแล้ว ในอีกไม่กี่วินาทีเธอต้องเสียท่าแน่ๆ
“สลบไปแล้ว” เจเนตเบิกตากว้างมองจนดวงตาแทบทะลุออกจากเบ้าตา การต่อสู้แบบดุเดือดเธอเคยเห็นมาไม่น้อย แต่ที่เธออึ้ง! ก็สองคนนั้นรักกันเป็นคนรักกันไม่ใช่เหรอ โอ้! แล้วเมื่อกี้มันใช่เหรอ คนที่เคยรักกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ เจ้านายเธอไม่ได้ซ้อมน้ำใส แต่เหมือนเป็นการสั่งสอนมากกว่า น้ำใสสลบเข้าสู่อ้อมแขน เพียงแค่ลำแขนของเอ็ดเวิร์ดฟาดเข้าที่ท้ายทอยเพียงครั้งเดียว จังหวะที่เจ้านายเธอเข้าจู่โจมช่างเร็วมากขนาดที่เธอจ้องอยู่ตลอดยังมองไม่ทันเลย แค่กระพริบคุณน้ำใสก็ถูกฟาดจนสลบไปเลย ‘ร้ายกาจ’
อาร์เชอร์และเจเนตรีบขยับเข้าไปหาเอ็ดเวิร์ดทันที เขาสั่งแค่ให้ อาร์เชอร์เปิดประตูรถและบอกให้ต่างแยกย้ายกันไป ทั้งสองคนยืนมองท้ายรถของเจ้านายค่อยๆห่างสายตาออกไป
“มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”
“ฉันว่าเธอไม่อยากรู้หรอก” อาร์เชอร์พูดแค่นั้น โบกมือลาเจเนตและเดินจากไป ปล่อยให้เธอที่ไม่ค่อยรู้จักเจ้านายคนนี้สงสัยและกังขาต่อไป ของแบบนี้นั่งอธิบายบางทีมันยาก เดี๋ยวอยู่ๆไปเธอก็จะเข้าใจไปเอง
น้ำใสที่เริ่มรู้สึกตัวเธอค่อยๆขยับตัวและพยายามขยับตัว...แต่ก็ขยับไม่ได้ เมื่อร่างกายของเธอถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกยึดแน่นอยู่บนเก้าอี้
“อื้มมมมมม...” เอ็ดเวิร์ดได้โปรดอย่าทำแบบนี้ น้ำใสน้ำตาไหลพราก เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการพันธนาการจากเชือกที่รัดข้อมือเธอไว้อยู่ด้านหลังที่พาดไว้หลังเก้าอี้กับผ้าปิดปากที่รัดแน่นจนเธอปวดร้าวซีกแก้ม
เอ็ดเวิร์ดเขาเดินเข้ามาใกล้ด้วยดวงตาแข็งกร้าวจ้องมาที่เธอ น้ำใสพยายามอ้อนวอนเขาทางสายตา “อื้ม!” เธอทำได้แค่ครางร้องเสียงในคอ เมื่อมือแข็งแรงของเขาบีบใบหน้าเธอและเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ จับจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ให้ตายเถอะ! เรี่ยวแรงของเขาไร้ความปราณีไม่ต่างกับไซม่อนเลย
น้ำใสมองเข้าไปในดวงตานั้นแม้ทุกอย่างจะพร่าเลือน และทุกอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมันกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อเอ็ดเวิร์ดเอามีดของเธอขึ้นมาชูโชว์ต่อหน้าเธอ
“อยากลองเซ็กส์เวอร์ชั่นกระทำชำเรามั้ย” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง