ตอนที่ 8 เหมือนจะสำคัญ

1284 Words
ณ บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำแห่งหนึ่ง "ผมว่าเราหน้าจะหาพรีเซ็นเตอร์ วันรุ่นที่กำลัง เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ดีไหมไหวครับ เพราะเครื่องสำอางเราตีตลาดกลุ่มวัยรุ่นซะส่วนใหญ่ " ชัยวัฒน์หัวหน้าการตลาดเสนอขึ้นในที่ประชุมที่กำลังจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่เร็วนี้ "คุณชัยวัฒน์ มีใครในใจอยู่ไหมคะ เสนอมาได้เลย" "ผมว่าน้องน้ำฝนดีไหมครับ ดาราวัยรุ่นมีคนติดตามเยอะด้วยแถมช่วงนี้งานละครชุมด้วย" ชัยวัฒน์เสนอดาราที่พอฟังชื่อชายหนุ่มที่มากับเธอถึงกับชะงักจนเธอเห็นได้ชัด หรือสองคนนี้อาจจะรู้จักกันเธอคิดสงสัย "เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะลองไปติดต่อคิวมาแล้วกัน วันนี้พอแค่นี้แหละค่ะ" ว่าเสร็จก็ลุกเดินออกจากห้องไป ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างถอนหายใจออกอย่างโล่งอกที่วันนี้องค์ไม่ลงเหมือนปกติ "แปลกๆ นะคะคุณน้องพลขา วันนี้องค์แม่ไม่ประทับ" จีจี้หัวหน้าฝ่ายออกแบบพูดจีบปากจีบคอกับเลขาคนสนิทของนีรนุชที่กำลังเก็บของจะตามลูกตามผู้เป็นนายสาวออกไป "ดีแล้วนิครับคุณจีจี้ไม่ชอบหรอกหรอครับผมบอกคุณนุชให้ได้นะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ เผยให้เห็นลักยิ้มหน้ารักตรงมุมปากแดงอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี ทำเอาคนอื่นๆ ที่มองอยู่มองเคลิมตาปรอยไปด้วย "อุ้ย ไม่เอาหรอกค่ะพี่พูดเล่นใครจะอยากให้ตัวเองโดนด่า ว่าแต่คุณน้องอย่ายิ้มแบบนี้อีกนะคะพี่จีจี้จะละลาย" จีจี้รีบบอกชายหนุ่มแต่ก็ไม่วายแวะหยอดคำหวานใส่หนุ่มรุ่นน้องที่เป็นคนสนิทบอส ไม่มีใครเข้าหน้านีรนุชได้เวลาองค์ลงน้องจากอรรถพลคนเดียว เวลาพวกเธอมีปํญหาก็ได้อรรถพลนี่แหละที่ช่วยพูดคุยให้จนเป็นที่รักและเอ็นดูของพี่ๆตลอดมา แม้เขาจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับชายหนุ่มเลย "ผมได้ยินข่าวว่าคุณพลเรียนที่เดียวกับน้องน้ำฝนใช่ไหมครับ ดีเลย" ชัยวัฒน์ที่ยังไม่ได้ไปไหนรอจังหวะถามขึ้น เพราะถ้าหากชายหนุ่มรู้จักกันจะได้ติดต่อให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ไม่ยาก "อ่อครับเรียนที่เดียวกัน แต่ไม่ค่อยสนิทกันหรอกครับ ทางที่ดีคุณชัยวัฒน์ติดต่อผ่านผู้จัดการเขาหน้าจะดีกว่า ผมขอตัวนะครับ" ชายหนุ่มที่รู้ทันความคิดอีกฝ่ายพูดดักคอขึ้นไปไม่รอให้อีกฝ่ายพูดออกมาเขาก็พอทราบ จึงรีบตัดบทแล้วขอตัวออกมาดีกว่า เขาและน้ำฝนรู้จักกันจริงเพราะเรียนห้องเดียวกัน ทำงานกลุ่มเดียวกันแถมเขาพอจะทราบอยู่บ้างว่าอีกฝ่ายมีใจให้เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองเพียงแต่บังเอิญได้ยินเธอคุยกับเพื่อนอีกคนเรื่องจะจีบเขา จากนั้นเขาก็พยายามทำตัวห่างเหินเว้นระยะไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ว่าเขาให้ความหวัง ไม่ใช่เธอไม่สวยแต่เขามีคนที่รักมากอยู่ก่อนแล้วจึงไม่คิดสนใจใครอีก ก๊อกๆๆ ชายหนุ่มเคาะให้เป็นพิธีรู้ว่าผู้เป็นนายสาวอยู่ในห้องแน่และเขาก็เข้าออกได้ตลอดอยู่แล้ว เดินเข้ามาเห็นผู้เป็นนายสาวนั่งอยู่เก้าอี้ตัวใหญ่หลับตาพลิ้มเหมือนคนนอนหลับไปแล้ว เขาไม่อยากกวนเธอคงเหนื่อย จึงค่อยๆ วางเอกสารที่ไม่ได้ด่วนไว้บนโต๊ะแล้วหันหลังจะกลับออกไป "รู้จักเธอหรอ" อยู่ๆคนที่เขาคิดว่าหลับไปแล้วก็ถามประโยคแรกขึ้นหลังจากไล่เขาออกจสกห้องเมื่อเช้าเธอก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาอีกเลยจนถึงตอนนี้ "ครับ? " ชายหนุ่มที่สงสัยว่าผู้เป็นนายสาวพูดถึงคือใครทำหน้างงหันกลับมามองสบตา นายสาวที่ใบหน้าสวย วันนี้ใส่ชุดกางเกงสีดำเสื้อสายเดี่ยวขับให้ผิวสว่างหน้ามองยิ่งขึ้นและก็เป็นชุดที่เขาเตรียมไว้ให้เธอเองพอให้เขาใจชื้นได้บางว่าเธออาจไม่ได้โกธรเขา "น้ำฝน นายรู้จักหรอ" "อ๋อ ครับเรียนห้องเดียวกัน" เขาตอบตามความจริง "สนิทมากไหม " อยู่ดีๆเธอก็ถามขึ้นด้วยใบหน้านิ่งไร้ความรู้สึกยากคาดเดา "ครับ ทำงานกลุ่มเดียวกัน มีอะไรรึเปล่าครับคุณนุช" ชายหนุ่มตอบด้วยความหน้าซื่อตาใสอย่างไม่คิดอะไรพร้อมกับถามผู้เป็นนายสาวด้วยความสงสัย ปกติเธอไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้ "เปล่าฉันแค่เห็นโปรไฟล์ที่คุณชัยวัฒน์เสนอมาว่าเรียนที่เดียวกับนาย เลยคิดว่านายจะรู้จัก" เธอเฉไฉไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอสนใจเรื่องของเขามากเกินไป แค่ที่เธอมีอะไรกับเขาก็อาจทำให้เด็กหนุ่มคิดเกินเลยหรือคิดว่าเธอจะหยุดที่เขา ยังไงก็ต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม "ฉันว่าเธอเหมาะสมกับนายนะ น่าจะลองคุยดู" "ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธอครับ และตอนนี้ผมยังไม่คิดมีใคร" ชายหนุ่มตอบด้วยความเสียใจที่เธอพยายามจะผลักไสเขาออกไป "ก็แล้วแต่นายแล้วกันฉันแต่เสนอ นายจะได้ไม่ต้องมาจมปลักกับคนแก่แบบฉันแค่นั้น " เธอบอกตามความจริงอยากให้ชายหนุ่มได้พบคนที่ดีเหมาะสมกัน "ถ้าวันไหนผมเจอเธอคนนั้นผมจะบอกคุณนุชคนแรกนะครับ " ชายหนุ่มบอกผู้เป็นนายสาวพร้อมขอตัวออกไปข้างนอก ตอนแรกเขาคิดเข้าข้างตัวเองว่านีรนุชอาจหึงหวงเขาเลยถามออกมาแบบนั้นแต่ไหนเลยเขาคิดฝันไปเอง ตลอดทั้งวันของการทำงานต่างฝาย ต่างไม่พูดคุยอะไรกันเลยคล้ายกับคู่รักที่แง่งอนกันแต่ต่างกันที่พวกเธอเป็นแค่คู่นอนแล้วเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น จนถึงเวลาเลิกงานอรรถพลก็พูดน้อยปกติถึงแม้เขาจะพูดน้อยกับคนอื่นแต่กับเธอหมอนั่นช่างพูดช่างเอาใจจะตายไหงอยู่ดีๆ ก็ซึมหลังจากที่เธอถามเรื่องการมีคนรัก " รึเด็กนั่นจะงอนเราว่ะ " นีรนุชพูดกับตัวเองมองตามเด็กหนุ่มที่เดินกลับห้องตัวเองไป เมื่อตอนเย็นกลับมาจนถึงบ้านชายหนุ่มก็พูดกับเธอถามคำตอบคำซึ่งปกติจะต้องถามว่าเธอจะเอานั่นเอานี่ไหม เธอควรต้องง้อหรอ? แล้วจะง้อเรื่องอะไร? นีรนุชได้แต่คิดวนเวียนไปมา " โอ๊ยปวดหัวไม่คิดแล้ว " ว่าเสร็จก็เดินขึ้นห้องตัวเองบ้างเด็กนั้นจะเป็นอะไรไปได้เดี๋ยวยังไงก็ต้องกลับมาเอาใจเธอเหมือนเดิมแหละนีรนุชคิดแบบนั้น ถึงแม้เธอจะมีประสบการณ์เรื่องบนเตียงแต่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักเลยจึงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นอะไรกันแน่ ทางด้านอรรถพลเองเขาไม่ได้เป็นอะไรแค่หมดกำลังใจ แต่เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้แน่ๆ ถึงแม้จะเป็นได้แค่คู่นอนแต่เขาจะเป็นคู่นอนที่เธอขาดไม่ได้ต้องร้องเรียกหาแทบขาดใจเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD