7
ให้ทายว่าตอนนี้ฉันกำลังถูกอีตาเผด็จการสั่งให้ทำอะไร คำตอบคือ...ไม่รู้ T^T หลังจากที่ฉันแปลงร่างเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ในห้างสรรพสินค้าเสร็จ อีตานั่นก็ลากฉันกลับขึ้นรถและพามาที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งใหญ่โตโอ่อ่ากว่าบ้านของฉันหลายขุมนัก จะถามอะไรก็ไม่ได้ เลยได้แต่นั่งซึมกระทือเป็นลูกเป็ดถูกทิ้งอยู่คนเดียวในห้องที่น่าจะเป็นห้องรับรองแขก อีตาบ้านั่นพาฉันมาทิ้งไว้แล้วตัวเองก็หายจ้อยไปเลยเนี่ยนะ =_=?
ฉันเริ่มเดินสำรวจรอบๆ ห้องแก้เบื่อ นี่ฉันนั่งรอเขามาประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้วนะ ตอนนี้ก็เกือบจะสี่โมงอยู่แล้ว อยากรู้จริงว่าเขาคิดจะเอาตัวฉันไปทำอะไร ทั้งเปลี่ยนทรงผม แต่งหน้า แล้วยังจะชุดเดรสบ้าๆ ในถุงกระดาษนั่นอีก หมอนั่นคงไม่ได้หลอกเอาฉันมาขายให้ไอ้เสี่ยตัณหากลับที่นี่หรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ กัดลิ้นตัวเองตายก่อนเลยดีมั้ย T^T
แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูห้องที่ฉันอยู่ ซึ่งอีตานั่นปิดไว้และสั่งการห้ามอย่างเด็ดขาดว่าห้ามเปิดออกไปไหนดังขึ้น พร้อมกับเสียงคุยเจื้อยแจ้วของผู้หญิงที่น่าจะมีมากกว่าสองคน ฉันรีบหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักมากถึงสี่คน! ไม่สิ...อีกคนหนึ่งถึงจะน่ารักไม่หยอก แต่ฉันรู้สึกว่าเธอจะหล่อมากกว่าสวย มองแล้วใจเต้นมากเลยล่ะ ยะ...ยัยสี่คนนี้เป็นใครกัน!
“ไม่อยากจะเชื่อ...เหมือนอย่างกับแกะ...”
ผู้หญิงคนแรกด้านซ้ายมือสุดของฉันพึมพำขึ้น เธอมีผมสีน้ำตาลเหลือบทอง ดวงตากลมโตน่ารัก หน้าตาออกแนวเปิ่นๆ ยังไงก็ไม่รู้
“อย่างกับฝาแฝด...”
คนที่สองต่อมาพึมพำต่อ เธอมีผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนดูเหมือนพวกคุณหนู ดวงตาจิกออกแนวสาวเหวี่ยง อารมณ์ร้อน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็สวยมากถึงมากที่สุด
“เหมือนจนแยกไม่ออกเลยนะคะ...”
คนที่สามพึมพำขึ้นอีกคน ผมของเธอเป็นสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนใหญ่ดูหนานุ่ม มีที่คาดผมลายมงกุฏคาดอยู่ที่ผม หน้าตาดูอ่อนโยนและใสซื่อ เธอสง่างามกลบรัศมีทุกคนในที่นี้ทั้งหมด
“ถึงจะมีส่วนที่ต่างอยู่บ้างก็เถอะ...”
และคนสุดท้าย ผมสีดำสนิทเหมือนขนของอีกาซอยสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย ผิวขาวราวหิมะ และริมฝีปากสีแดงอวบอิ่ม มองเผินๆ ดูคล้ายกับผู้ชายเสียมากกว่า แต่ถ้าได้มายืนจ้องแบบฉันแล้วจะพบว่าเธอเหมือนสโนว์ไวท์ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีผิด
“สวัสดี ^^ เธอชื่อออโรร่าสินะ”
ผู้หญิงคนแรกที่สะบัดหัวตัวเองเหมือนคนเพิ่งตั้งสติได้ทักฉัน ก่อนจะเดินเข้ามาหาอย่างเป็นมิตร ฉันถอยหลังไปเล็กน้อยเพราะไม่ไว้ใจ ยัยสี่คนนี้เป็นใครกันนะ?
“ไม่ต้องกลัวพวกเราหรอก ฉันชื่อชิงเกอเบล เป็นแฟนของบีเอ็มจ้ะ ^^”
ผู้หญิงคนแรกยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ก่อนที่ผู้หญิงคนที่สองที่ดูเหมือนคุณหนูจะก้าวเข้ามาหาฉัน ใบหน้าที่ดูจะตกใจในตอนแรกของเธอที่เจอฉันหายไปหมดแล้ว
“ส่วนฉันชื่อราพันเซล เป็นแฟนของบีเอ ยินดีที่ได้รู้จัก”
พูดจบราพันเซลก็ยื่นมือเข้ามาหยิกแก้มฉันทั้งสองข้างจนยืดก่อนจะหัวเราะอย่างสนุกสนาน ยัยนี่คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูมาจากไหนหรือไง ถึงได้กล้าทำกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกได้ถึงขนาดนี้น่ะ =_=*
“ส่วนฉันชื่อมู่หลานค่ะ เป็นแฟนของเจ้าชาย เอ่อ...ฉันหมายถึงรุ่นพี่บีวายน่ะค่ะ ^^”
ผู้หญิงที่ดูสง่างามดุจเจ้าหญิงเอ่ยขึ้น รอยยิ้มของเธอช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ถ้าเทียบกับฉันแล้วเธอดูเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง เพรียบพร้อมไปหมดตั้งแต่หน้าตายันกริยามารยาท - -;
“ฉันชื่อสโนว์ไวท์ เรียกสโนว์เฉยๆ ก็ได้ ฉันเป็น...เอ่อ เป็น...”
“เป็นแฟนของบีไอ!”
ชิงเกอเบลและราพันเซลแย่งพูดเมื่อเห็นว่าสโนว์ไวท์เงียบไปไม่ยอมพูดต่อ ซึ่งพอโดนแซวตรงๆ แบบนั้น แก้มทั้งสองข้างของเธอก็เลยขึ้นริ้วสีแดงอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงจริงๆ เหมาะกับเทวดาน้อยอย่างบีไอดีเหมือนกัน
“พวกเราถูกบีโอสั่งให้มาช่วยเธอแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้น่ะ” ราพันเซลบอกก่อนจะเดินไปหยิบชุดที่อยู่ในถุงขึ้นมาดู
“สวยมากเลยนะเนี่ย ไม่อยากเชื่อว่าอีตาโหดนั่นจะมีรสนิยมหวานๆ กับเขาด้วย”
แล้วก็พึมพำต่อคนเดียว ถ้าเดาไม่ผิด ‘อีตาโหด’ ที่เธอหมายถึงคงเป็นบีโอ
“งานเลี้ยงอะไร” ฉันรีบถามอย่างสงสัย
พวกเธอสี่คนมองหน้ากันด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัย ยัยสี่คนนี้จะไว้ใจได้มั้ยล่ะเนี่ย นอกจากจะเป็นคนที่อีตาบ้านั่นใช้มาแล้ว ยังเป็นแฟนของอีกสี่คนที่เหลืออีก T^T
“งานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ที่บริษัทของพ่อบีโอไงล่ะ -_-“ สโนว์ไวท์เป็นคนตอบ หรือจะเป็นเรื่องกระเป๋าอะไรนั่นที่พวกเขาคุยกันเมื่อเช้า?
ว่าแต่...งานเลี้ยงบริษัทของพ่ออีตานั่น? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะเนี่ย
“แล้ว...”
“เอาน่า...เรื่องอื่นไว้ค่อยไปถามตานั่นเอาเอง ตอนนี้ที่ต้องทำคือแปลงโฉมเธอให้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราที่สวยที่สุดในงาน เพราะพวกเราสี่คนเองก็ต้องแต่งตัวเหมือนกัน >__<//” บีเอ็มเอยทักฉันเป็นคนแรก เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า และก็จากเท้าขึ้นไปหัว ยะ...อย่ามาจ้องกันแบบนี้สิ ถึงฉันจะไม่สนใจใครแต่ก็เขินเป็นนะ!
“ไฮ...น่ารักจนอดใจเต้นไม่ได้เลยนะเนี่ย ^^~” บีไอชี้มาที่ฉันพร้อมกับส่งยิ้มอย่างหยอกล้อมาให้ ไปใจเต้นกับสโนว์ไวท์ของนายเถอะย่ะ แค่นี้ก็เขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหนดีแล้ว =_=//
“เพิ่งรู้...ผีก็สวยเป็น =_=” บีวายพูดขึ้นพลางมองฉันลอดแว่นตากรอบดำของเขา
หมายความว่ายังไงยะ ผีก็สวยเป็น TOT!
“ปากเสียอีกแล้วนะนาย!” ราพันเซลเอ็ดบีวายและเอื้อมมือไปตีเขา
ทางที่ดีเธอน่าจะเตะเขาให้ตกบันไดตายๆ ไปเลย - -* ฉันถึงจะหายแค้น ผู้ชายบ้าอะไรปากเสียจริงๆ ไหนจะสายตาที่ดูเหมือนเหยียดหยามและดูถูกฉันอยู่ตลอดเวลาอีก
“ก็โอเค -_-//“
และผู้ที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงพูดของเขาเกินห้าประโยคก็พูดขึ้น บีเอจ้องฉันนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยชม เอ่อ...ฉันขอคิดว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกัน แต่วันนี้เขาเองก็ดูดีใช่ย่อยนะ ทุกทีจะเห็นอยู่แต่ในชุดยูคาตะของญี่ปุ่น แต่มาคราวนี้ใส่ชุดสูทสีขาวอย่างกับเทวดา หล่อไม่บันยะบันยังเลย
“ฉันจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย รีบๆ เดินออกมาได้แล้ว!!!”
บีโอตะโกนกร้าวอีกครั้ง ฉันรีบวิ่งพรวดไปทางเขาอย่างตกใจ โดยลืมไปว่าที่ฉันใส่อยู่คือชุดเดรสที่รัดรูปพอดีตัวกับรองเท้าส้นสูงที่สูงยิ่งกว่าตึกใบหยก =__=;;
พลั่ก!
“อ๊ะ!” ฉันร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เมื่อร่างกายเซถลาไปข้างหน้าเพราะส้นสูงทำพิษ T^T
หมับ!
“อย่าคิดจะแก้แค้นฉันด้วยการทำให้พื้นบ้านของฉันเป็นรอยเพราะส้นสูงของเธอ -*-“
บีโอที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องตอนแรกพูดขึ้น มือข้างหนึ่งของเขารั้งต้นแขนฉันเอาไว้ทำให้ฉันสามารถทรงตัวยืนได้อีกครั้งและไม่ล้ม แต่...เป็นไปได้ยังไง ก็เมื่อกี้เขายืนอยู่ที่หน้าห้องนี่นา! แล้วทำไมถึงเข้ามาได้ไวแบบนี้ล่ะ อย่างกับเหาะได้เลย
“ขะ...ขอบใจ” ฉันบอกเสียงสั่น ก่อนจะเงยหน้ามองอีกแปดคนที่ยืนอยู่ที่ประตู พวกเขาถอนหายใจพร้อมกันอย่างโล่งใจที่ฉันไม่ล้มลงหน้าทิ่มพื้น
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายซะก่อน พ่อแกไม่ชอบคนผิดเวลาไม่ใช่เหรอวะบีโอ” บีเอ็มเอ่ยถาม ฉันสังเกตว่าสีหน้าบีโอดูหม่นลงไปนิดหน่อย ก่อนจะกลับมานิ่งเป็นปกติ
“ไปได้แล้ว”
เขาไม่ตอบคำถามของบีเอ็ม แต่หันมาฉุดกระชากลากดึงฉันแทน ทำไมเขาต้องทำหน้าตาเศร้าเวลาที่พูดถึงพ่อของตัวเองด้วยนะ หรือว่าเขา...จะเข้ากับพ่อของตัวเองไม่ค่อยได้
อ๊ะ! แล้วฉันจะไปคิดถึงเรื่องของหมอนี่ทำไม เขาจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของเขาสิ ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ฮู่!