เหมือนพวกสตอล์คเกอร์(Stalker)เลย

1387 Words
“กินเลยดีกว่าค่ะ กินข้าวแล้วกะทิจะได้ไปอาบน้ำ” พูดจบก็เช็ดมือกับผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่ด้านข้างแล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว พี่ชายส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบจานตักข้าวให้น้องสาว เขาทำหน้าที่ทุกอย่างในบ้านเป็นแทนแม่ที่ตายจากไปได้ห้าปีแล้ว ส่วนพ่อแท้ๆ นั้นทออดทิ้งไปตั้งแต่เกวลินอายุได้สิบขวบ เดิมทีอยู่กันสองคนพี่น้อง แต่ตอนนี้ชีวิตเขามี ‘วายุ’ เพิ่มเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของเขา แรกทีเดียวก็กลัวน้องสาวจะรับไม่ได้ แต่หลังจากคบหาดูใจในฐานะ ‘คนรัก’ มาสองปี และเมื่อลองถามเกวลินดู น้องสาวไม่ขัดข้องอะไร เขาจึงให้วายุย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน เกวลินเองไม่ติดขัดที่รู้ว่าพี่ชายมีคนรักเป็นผู้ชาย ยุคนี้แล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา วายุเข้ามาอยู่ร่วมบ้านได้สองเดือนแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แถมยังคอยดูแลเธออีกด้วย ก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว “วันนี้น้องกะทิดูอารมณ์ดีนะครับ” วายุทักที่เห็นน้องสาวคนรักเอาแต่นั่งยิ้ม เขาวางถ้วยใส่ไข่พะโล้บนโต๊ะ ตามด้วยจานทอดมันปลากราย น้ำจิ้มที่มีแตงกวาหันบางๆ และรินน้ำดื่มให้ การันต์บ่นพึมพำที่เขาเอาใจใส่น้องสาวมากเกินไป กลัวว่าจะเสียนิสัย แต่พี่น้องคู่นี้นิสัยชอบโต้เถียงกันแต่รักกันมาก ที่สำคัญมองเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวทำให้เขาสบายใจและอบอุ่นใจมากกว่าครอบครัวที่ากมา เป็นเหตุผลที่ทำให้วายุเอาใจใส่ดูแลเกวลินเหมือนน้องสาวตัวเอง “ค่ะ วันนี้เจอหมออิฐด้วย” เกวลินพูดแล้วรับจานข้าวจากพี่ชาย “ไม่กินด้วยกันเหรอคะ” “ทำไป ชิมไป ยังอิ่มอยู่เลย” วายุตอบแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้าม “หมออิฐนี่คือคนที่น้องกะทิชอบนะเหรอครับ” “ใช่! แอบชอบมาตั้งแต่ม.5 แก่แดดชะมัด” “แก่แดดอะไรกัน เรียกรักเดียวใจเดียวต่างหากล่ะ” เกวลินทำปากยื่นใส่พี่ชาย วายุหัวเราะไปกับสองพี่น้อง “ไม่ได้เจอหมออิฐนานแล้วเหมือนกันนะ” “ก่อนที่จะมีโควิด หมออิฐไปทำงานที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ตอนโควิดหนักๆ ก็อยู่โรงพยาบาลสนาม ตอนนี้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลในกรุงเทพแล้วค่ะ” “รู้ละเอียดยิบเลย เหมือนพวกสตอล์คเกอร์(Stalker)เลย น่ากลัวเหมือนกันนะเนี้ย” การันต์ทำหน้ายุ่ง ไม่คิดว่าน้องสาวจะรู้เรื่องหมออิฐเยอะขนาดนี้ “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นเสียหน่อย แค่รู้ว่าตอนนี้โสดแล้ว” เกวลินยักไหล่ “ก็เหมือนเป็นติ่งดาราไง เราก็ทำได้แค่แอบชอบ แอบติดตามผลงานเขา กะทิชอบหมออิฐ ก็แค่มีความสุขกับการชอบใครสักคน ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในชีวิตเขาเสียหน่อย วันข้างหน้าถ้ากะทิจะมีแฟน ก็ต้องหาให้ได้ดีอย่างหมออิฐ ถ้าได้น้อยกว่านี้ขออยู่เกาะพี่ตะโก้กับพี่วายุดีกว่า” “ทำเป็นพูดดีไปเถอะ” การันต์ส่ายหน้าไปมา ก็จริงอย่างที่น้องสาวพูด ถ้ามีแฟนเป็นคนไม่ดี ก็อยู่เป็นโสดให้พี่ดูแลยังดีกว่าไปอยู่กับคนที่ทำให้ลำบากใจ เกวลินมีนิสัยทะเล้นเหมือนเด็ก แต่ก็มีความรับผิดชอบ ไม่งอแง ไม่เคยสร้างปัญหาอะไร แค่ตอนนี้ยังหางานประจำทำไม่ได้จึงต้องมาช่วยงานที่บ้านอย่างนี้ ผ่านช่วงโควิด-19มาได้ ตอนนี้ร้านก็ดีขึ้น เปิดหน้าร้านขายอาหารได้ อาหารกล่องที่ส่งเดริเวอรี่ก็ไปได้ดีในระดับหนึ่ง อยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้ เขาคิดว่าเขาสามารถรับผิดชอบครอบครัวได้แน่นอน “น้องกะทิไม่คิดจะจีบหมออิฐเหรอครับ” วายุถามเล่นๆ เท่าที่รู้มาหมออิฐหรือนายแพทย์อิทธิพลก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เขาเคยเจอหมออิฐอยู่หลายครั้ง เพราะเพื่อนในกลุ่มนักดนตรีเป็นเพื่อนกับหมออิฐ หมออิฐมีงานอดิเรกชอบเล่นดนตรี โดยเฉพาะตีกลองซึ่งชอบมาก ถ้ามีเวลาว่างก็มักมาเช่าห้องซ้อมตีกลองอยู่บ่อยๆ ทำให้เขาได้รู้จักกับหมออิฐไปด้วย แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก “ถ้าได้เจอที่ห้องซ้อมดนตรี พี่ลองแนะนำให้เอาไหม” “พี่วายุน่ารักที่สุดเลย” เกวลินยิ้มกว้าง “แต่กะทิเคยดูคลิปสมัยที่หมออิฐเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ แต่ก็อยากเห็นเล่นสดจัง คนอะไร เท่ชะมัด ใส่เสื้อยืดคอวีสีพื้นก็หล่อแล้ว วันนี้เจอใส่เสื้อกาวน์ด้วย หล่อสุดๆเลย” “เป็นเอามากจริงๆ” การันต์ถึงกับพูดไม่ออก ก็รู้ว่าน้องชอบหมออิฐแต่ไม่คิดว่าจะชอบมากขนาดนี้ “ได้ ถ้าวันไหนรู้ว่าหมออิฐจะมาซ้อมดนตรี พี่จะโทรบอกกะทินะ” “ขอบคุณค่ะ แบบนี้สิถึงจะเป็นพี่น้องกันจริง ถ้าพี่ตะโก้ทำตัวไม่ดี มาบอกกะทิเลยนะคะ กะทิจัดการให้เอง” “เกินไปแล้วยัยกะทิ” การันต์ดุน้องสาว “ว่าแต่หมออิฐจะกินข้าวผัดปูทั้งอาทิตย์จริงๆ เหรอ ที่ร้านเราอย่างอื่นก็อร่อยนะ” “โธ่!พี่ตะโก้ก็ทำเป็นไม่เคยเจอไปได้ เรายังเคยรับออเดอลูกค้าที่สั่งผัดกะเพราไก่สับเป็นมื้อเที่ยงติดกันยี่สิบเจ็ดวันมาแล้ว” เกวลินยกเคสลูกค้าขึ้นมาเตือนพี่ชาย บางคนกินอาหารสลับผลัดเปลี่ยนเมนูทุกวัน แต่บางคนถ้าชอบกินอะไรสักอย่างก็กินแบบเดิมซ้ำๆได้ทุกวันจนกว่าจะเบื่อไปข้างหนึ่ง หญิงสาวอดคิดถึงแม่ไม่ได้ สำหรับเธอแล้ว แม่เป็นผู้หญิงเก่งและแกร่งที่สุด เลี้ยงลูกสองคนโดยไม่สนใจว่าใครจะนินทาว่าร้ายยังไง เธอกับพี่ชายก็ไม่อายทำกิน แม่เรียนจบแค่ม.ต้น มีความสามารถแค่เรื่องทำกับข้าว อาหารรสมือแม่พาลูกสองคนพ้นความอดยากมากได้ เธอกับพี่ชายก็ไม่เคยงอแงที่ต้องช่วยแม่ทำแกงถุงตอนเช้า มรดกที่แม่ทิ้งไว้ให้ไม่ใช่บ้านหรือทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นเรื่องการทำอาหาร “เห็นปูแล้วอยากกินขนมจีนน้ำยาปู พรุ่งนี้ทำกินดีไหม” การันต์พูดลอยๆ แต่เหมือนจะถามวายุมากกว่าน้องสาวที่กินได้หมดทุกอย่าง สองคนพี่น้องไม่ใช่คนชอบท่องเที่ยวอะไรนัก แต่ถ้าตระเวนหาวัตถุดิบมาลองทำเมนูใหม่ๆ ละก็...ถึงไหนถึงกันเลยทีเดียว “ดีเลย ทำเผื่อหมออิฐสักชุดนะคะ” “โอ๊ย! ร้านจะขาดทุนก็เพราะเธอนั้นแหละ ยัยกะทิ” “ไม่เคยได้ยิน ขาดทุนคือกำไรเหรอ นี่กำไรล้วนๆเลยนะ ได้หมออิฐเป็นลูกค้าประจำ หมออิฐใจดีชอบสั่งของกินเผื่อพยาบาลด้วย” “พี่ไม่เข้าใจจริงๆ หมออิฐอะไรนี่มีอะไรดี กะทิถึงได้หลงใหลคลั่งไคล้ขนาดนี้” “ก็ต้องมีดีสิ ไม่งั้นกะทิจะชอบเหรอ” “แต่ถ้าดีจริงทำไมอกหักบ่อยนักล่ะ” “นั้นแน่! ปากบอกไม่สนใจก็ยังรู้ว่าหมออิฐอกหักบ่อย แต่เรื่องแบบนี้มันก็พูดยากนะคะ สู้แอบรักอย่างกะทิไม่ได้ ไม่วันอกหักเพราะไม่เคยบอกรักเลยไง ฮะฮ่า” ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ’ การันต์อ้าปากค้างแล้วหันไปสบตากับวายุ เสียงหัวเราะดังขึ้นในครัวขนาดเล็ก วายุดีใจที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ด้วยความที่เขาชอบเพศเดียวกันทำให้คนในครอบครัวของตัวเองยอมรับไม่ได้ และเขาเป็นนักดนตรีกลางคืน แต่เมื่อได้มาเจอกับการันต์และเกวลิน เขารู้สึกสัมผัสถึงคำว่า ‘ครอบครัว’เป็นครั้งแรก และเขาจะรักษาสิ่งนี้ไว้ด้วยชีวิตของเขาเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD