“ระ รัก ฉันรักคุณค่ะ พระพาย”
วลัญช์พูดเสียงกระท่อนกระแท่น เมื่อร่างกายของเธอกำลังถูกเรือนร่างหนาใหญ่ของพระพายดึงดันเข้าหา จนถูกเหวี่ยงขึ้นไปยังขอบฝั่งของความรู้สึก จึงรีบเปิดปากบอกว่ารักเขาออกไป ตอนที่พระพายกำลังเข้าหาเธอแบบสุดเรี่ยวสุดแรง ก่อนจะปลดปล่อยความสุขสมที่ในเครื่องป้องกันจนหมดสิ้น
พระพายรีบผละออกจากเธอในทันที ราวกับเธอมีเชื้อโรคน่ารังเกียจในตัวอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
“คุณบอกรักเสียงดังกว่าตอนที่ครางอีกนะ”
เสียงทุ้มดังออกมาจากปากของพระพาย เขาที่มักพูดแต่คำร้าย ๆ และความหมายรุนแรงออกมาเสมอ ทำเอาวลัญช์นิ่งไป เธอเม้มปากตัวเองเอาไว้แน่น ยังคงหายใจหอบเหนื่อยจากบทรักที่เขามอบให้เมื่อครู่นี้
“ผมบอกแล้วนะว่าระหว่างเราจะต้องมี และไม่มีอะไรบ้าง”
‘เรียกเมื่อไรต้องพร้อม ห้ามเรียกร้อง ห้ามบอกว่ารัก ถ้ารักหมายความว่าเราต้องจบกันทันที’
ข้อห้ามพวกนั้นพระพายตั้งมันขึ้นเอง และผู้หญิงทุกคนหากอยากเป็นของเขา ต้องรับข้อแม้พวกนั้นให้ได้ด้วย
แต่วลัญช์ไม่ได้อยากเป็นของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่
คืนนั้นเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วก็ถูกเขาพากลับไปที่ห้องด้วย ก่อนที่เขาจะเป็นคนทึกทักเอาเองว่าจะคบหากันกับเธอแบบคนรักกัน
วลัญช์รอให้เขาออกไปจากห้องชุดที่จ่ายเงินให้เธอมาโดยตลอด เธอรอจนเห็นว่าเขาจากไปแล้ว ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง ตรงเข้าห้องน้ำเพื่อล้างเนื้อตัว
ร่องรอยที่พระพายฝากไว้ในแต่ละวัน มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเสียจนเธอไม่กล้าใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อตัวเลยสักครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอยู่แล้ว เพราะวลัญช์ไม่นิยมแต่งตัวอย่างที่เพื่อนร่วมคณะหรือคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยนิยมกัน
อย่างที่นิยามว่าโป๊มากที่สุดของวลัญช์ คือท่อนล่างจะไม่สั้นเกินกว่าครึ่งน่อง ไม่ว่าจะเป็นกางเกงหรือกระโปรง ต้องยาวเกินครึ่งน่องเท่านั้น ไม่อย่างนั้นวลัญช์ก็จะส่ายหัวไม่ใส่อย่างเด็ดขาด
ส่วนท่อนบน หากต้องสวมใส่เธอต้องปิดให้ถึงลำคอ แขนเสื้อยาวเลยศอกก็จะดี สั้นกว่านั้นวลัญช์จะรู้สึกไม่มั่นใจ
คิดแล้วถอนลมหายใจออกมาเบา ๆ
เรื่องของเธอกับผู้ชายที่ชื่อพระพายคงจบลงแล้วสินะ จบลงทันทีที่เธอบอกไปว่า ‘รักเขา’ แววตาหวานซึ้งปนเศร้าดูคล้ายกับจะโล่งใจมากกว่าทุกข์ระทม
หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงร้องไห้ฟูมฟายกันแล้วที่ถูกพระพายบอกจบสัญญาความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่วลัญช์กลับพึมพำเพลงที่เคยชอบออกมาเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเพิ่งถูกพระพายบอกเลิกไปเมื่อห้านาทีก่อนหน้านี้เอง