7

1267 Words
"คุณพักที่ไหน" วลัญช์ไม่มีทางบอกเขาหรอกว่าเธอพักอยู่ที่ใด แค่เท่านี้เธอก็ถูกเขาคุกคามอย่างหนักแล้ว ไหนจะเรื่องคลิปอีก เธอจะทำอย่างไร ชายคนนั้นยังไม่ได้พารถออกไปจากหน้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เขานั่งเงียบอย่างรอคอยคำตอบ ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างนี้จะรอคอบอะไรก็ได้ด้วย ตัวเธอเองก็เงียบเช่นกัน จนเวลาผ่านไปราวห้านาทีได้ และเขาคงจะรำคาญที่จะรอคอยคำตอบจากเธอแล้ว ก็ค่อยกระชากรถออกไป แล้วจอดลงตรงที่เลยป้ายของรถประจำทาง ไม่ต้องรอให้เขาไล่ วลัญช์มองที่ประตูด้านข้าง เธอเห็นว่ามันมีสัญญาณเหมือนถูกปลดล็อกแล้ว ก็รีบคว้าที่เปิด รีบผลักประตูออกไปในทันที เธอรีบออกไปจากห้องโดยสารแคบ ๆ นั้น ยังปิดประตูรถให้เขาได้ไม่ทันดีเลย รถหรูคันนั้นก็กระชากตัวจากไป วลัญช์มองตามท้ายรถของเขาที่จากไปแล้วก็นึกกังวลใจเรื่องคลิปที่เขาถ่ายเอาไว้ เธอคลายมือที่กำไว้ตลอดทาง ตั้งแต่ออกจากห้องนั้นไปยังร้านต่าง ๆ ก่อนจะมองของในมือตัวเองนิ่ง วลัญช์หยิบมาจากเตียงของเขา เงินที่เขาโยนทิ้งไว้ให้ เธอตั้งใจไว้ตั้งแต่ทีแรกว่าจะแอบหนีมา แต่จะไปไหนได้ หากเธอไม่มีเงิน และธนบัตรในมือตอนนี้ก็มีค่ามาก ๆ สำหรับเธอ และตอนนี้เธอต้องการเพียงรถสักคันไปส่งเธอที่หอพักเท่านั้น หญิงสาวตัดสินใจกวักมือเรียกรถแท็กซี่ที่เธอยังไม่เคยขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว บอกให้เขาไปส่งยังหอพักในของมหาวิทยาลัย และก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก เพราะคนที่ส่งเธอเมื่อครู่ ขับรถตามหลังมาห่าง ๆ จนรู้ในเวลาต่อมาว่าเธอพักอยู่ที่ใด "เมื่อคืนกลับยังไงอะน้องไวท์" วลัญช์ค่อย ๆ หมุนตัวไปยังคนถามที่เป็นพี่คนหนึ่งในสายรหัสของเธอ เธอบอกเสียงเรียบ ๆ เกรง ๆ กับทางนั้นกลับไปว่า "กลับกับเพื่อนค่ะ" "เพื่อนคนไหน" “ประสงค์กับหนุงหนิงค่ะ” วลัญช์อ้างไปถึงเพื่อนอีกสองคน ดีนะที่เตรียมกับเพื่อนไว้แล้ว ตั้งแต่กลับมาถึงหอเมื่อวานนี้ พี่สายรหัสที่ยังได้รับสิทธิ์พักในหอในของมหาวิทยาลัยมองเธอด้วยสายตาจับผิด ไม่พบพิรุธใด ๆ ก็เตือนต่อจากนั้น “จำไว้นะ ทีหลังเวลาไปไหนกับใครโดยเฉพาะในสายรหัสของพวกเรา จะต้องกลับพร้อมกันกับสาย อย่าทำตัวเสียมารยาทแบบนี้อีก” เธอก้มหน้ายอมรับความผิดแต่โดยดี แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องก็ตาม “ขอโทษค่ะ” “อ้อ ญาติเราโทรมาน่ะ ไปรับสายซะสิ” พี่สายรหัสของเธอบอกในตอนท้ายว่ามีโทรศัพท์ถึงเธอ วลัญช์นั่งแล้วงงไปชั่ววินาที เพราะเธอไม่มีญาติที่ไหนให้โทรหาเลยนี่นา เธอตอบรับขอบคุณพี่สายรหัสแล้วก็เดินไปตามทางตรงสู่ห้องพักกลางชั้น ด้วยความอยากรู้เธอจึงเดินไปรับสายตรงโทรศัพท์ส่วนรวมที่ใช้รับสายอย่างเดียวตรงกลางหอพัก ทันทีที่วลัญช์ยกหูขึ้นแนบไปกับใบหูและปากของตัวเอง ทางนั้นก็พูดขึ้นมา “เก็บของของคุณให้หมดแล้วลงมาที่ข้างล่าง” วลัญช์ไม่คิดว่าเธอจะได้ยินเสียงนี้อีก เธออึ้งไปเป็นนาทีก่อนจะพึมพำออกมาได้ “หนะ นี่ ๆ คุณ” “ผมให้เวลาสิบนาที ถ้าไม่เรียบร้อย คลิปที่มีอยู่ในมือก็คงจะว่อนทั้งหอในภายในเย็นวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ก็น่าจะให้ได้เห็นกันทั้งมอ” วลัญช์ไม่เคยรู้สึกกลัวและโกรธขนาดนี้มาก่อน เธอกระแทกหูโทรศัพท์แล้วเข้าไปนั่งหอบหายใจหนัก ๆ ที่ในห้องพักของตัวเอง เธอเพิ่งจะเอาเงินเก็บไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินกันเอาไว้ แล้วยังไปถามราคาตรวจเลือดมา พบว่าราคาสูงใช้ได้เลย ตรวจทำไม เธอต้องตรวจสิ เพราะกลัวจะติดโรคจากคนแปลกหน้า แล้วเขาก็ดันกลับมาหลอกมาหลอนเธออีก วลัญช์นั่งเงียบอยู่สองสามนาที แล้วตัดสินใจลงมือเก็บเสื้อผ้าใส่ลงในกระเป๋าใบใหญ่ใบเก่าของเธอ รวมถึงหนังสือเรียน แล้วรีบวิ่งลงไปยังด้านล่าง รถคันหรูที่มีชายคนนั้นในชุดนักศึกษาที่เธอเพิ่งเห็นว่าเป็นสถาบันเดียวกันกับเธอ ยืนกอดอกมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าบรรยากาศของหอพักในมหาวิทยาลัยน่าสนใจเสียเต็มประดาอย่างไร อย่างนั้นเลยทีเดียว แล้วก็ดันมีนักศึกษาผู้หญิงพากันจับกลุ่มมองไปยังเขาอีกด้วย นักศึกษาหญิงเหล่านั้นมองที่เขาแล้วก็ต่างยิ้มเขินอายไปพลาง บางคนใจกล้าหน่อยตะโกนเรียกชื่อ ‘พระพาย’ ‘พระพายคะ’ แล้วเวลาที่ผู้ชายคนนั้นกวาดสายตามองผ่านก็จะกรีดร้องดังก้องไปทั่วบริเวณ และทันทีที่ผู้ชายคนนั้นหันมาเห็นเธอเข้า เขาก็ทำเพียงยักไหล่นิดเดียว ก่อนจะเดินอ้อมไปที่ประตูรถ เปิดประตูออกแล้วส่งสัญญาณว่าให้ขึ้นมานั่งที่อีกฟาก วลัญช์นึกขึ้นได้ในตอนนั้น ว่าเธอคุ้นหน้าเขาจากที่ไหน ผู้ชายคนนั้นก็คือ ‘พระพาย’ เด็กปีหนึ่งคณะอินเตอร์ชื่อดังคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้นี่เอง เธอเคยเห็นหน้าเขาตอนเข้าร่วมงานกีฬารับน้อง เพราะพระพายถูกนำภาพขึ้นจอในวันนั้น สาว ๆ เกือบทุกชั้นปีพากันกรีดเสียงร้อง เพราะหน้าตาและรูปร่างของพระพาย ตอนที่เห็นในจอ เธอนึกว่าดาราหรือนักแสดงมางานนี้ด้วยเสียอีก ก่อนจะรู้ทีหลังว่าเขาคือนักศึกษาของที่นี่ ที่ก่อนหน้านี้ซิ่วมาสี่ที่แล้ว ก็คงเท่ากับว่าอายุมากกว่าพวกเธอแค่สามปีเท่านั้น เมื่อนึกถึงข้อมูลของเขาได้บ้างแล้ว ก็อดหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของพระพายไม่ได้ วลัญช์ไม่ตอบรับสัญญาณคำสั่งของพระพาย ด้วยการรีบขึ้นไปนั่งบนรถในทันที เธอเดินดุ่ม ๆ ออกไปให้พ้นสายตาคนอื่นแล้วเลือกมุมยืนรอที่คิดว่าพ้นจากสายตาของใคร ๆ ได้แล้ว ก็ตั้งใจจะต่อรองเขาตรงนั้น เธอไม่อยากให้คนอื่นเห็น ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเธอรู้จักกับพระพาย คนคงเอาไปพูดกันหนาหูทีเดียวล่ะคราวนี้ พระพายเองไม่มีท่าทีจะยินยอมตามน้ำเธอเช่นกัน เขาเห็นเธอเดินไปรอตรงจุดที่ไกลจากสายตาของคนอื่น ก็ไม่ได้พารถขับตามมา เขาออกเดินตาม ก่อนจะตรงไปคว้ากระเป๋าของเธอแล้วเดินกลับมาที่รถของเขา โยนของใส่ที่ตอนหลังของรถ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้น เครื่องที่บอกว่ามีคลิปของเธออยู่ชูขึ้นที่ตรงหน้า เขาส่งสายตาบอกให้มาขึ้นรถเสียที ก่อนที่เขาจะหมดความอดทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD