คืนแรก

794 Words
“ใส่ได้อยู่เบาะ” (ใส่ได้มั้ย) ผมหันไปเอ่ยถามไอ้คาลที่มันเพิ่งเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงที่เดินออกมาทำเอาผมอดที่จ้องมองไม่ได้ ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนถูกลบล้างออกจนเหลือเพียงใบหน้าหล่อเหลาดึงสายตาผมเป็นอย่างดีราวกับต้องมนต์สะกด มันเป็นดาราบ่วะ คึหล่อตายแม่มันแท้ (มันเป็นดาราหรือเปล่าวะ ทำไมหล่อขนาดนี้) “ใส่ได้ พอดีตัวเลย” มันว่าพร้อมกับขยับกางแขนให้ดูขนาดเสื้อผ้าเก่าของผม ถึงมันจะสีซีดไปหน่อยแต่ก็พอใส่ได้อยู่ “ใส่ไปก่อน มื่ออื่นจังสิไปหาซื่อให่ดอก” (ใส่ไปก่อนพรุ่งนี้จะซื้อให้ใหม่) มันพยักหน้าหงึกหงักรับรู้ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ “มื่อนี่มึงนอนตะลางก่อน มื่ออื่นกูสิไปยืมเตียงกับเจ้ดาวให่” (วันนี้มึงนอนข้างล่างก่อน พรุ่งนี้กูจะไปยืมเตียงกับเจ๊ดาวมาให้) ผมว่าพลางเปิดกล่องยาฝาสีเหลืองออก เพื่อจัดการทำแผลให้มัน “ถอดเสี่ยออก” “เสี่ย!?” “เออ! เสี่ยแหมมม นี่ ๆ เสี่ย” ว่าแล้วผมก็ชี้มือไปที่เสื้อให้มันดู “อ๋ออ~ เสื้อ” เฮ้ออ!! สิรอดบ่น้อกูกับมึงหนิ คึเว่ากันยากแท้ล่ะ (จะรอดไหมวะกูกับมึงเนี่ย ทำไมสื่อสารกันยากขนาดนี้) ไอ้คาลพยักหน้ารับก่อนจะถอดเสื้อออกเผยให้เห็นลอนกล้ามเนื้อที่เรียงสวยเต็มแผ่นอกแกร่ง ป๊าดดด!! กูคึสะออนกล้ามบักห่านี่แถะ (โอ้โห กล้ามไอ้นี่แม่งโคตรใหญ่เลยว่ะ) ผมไม่รอช้ารีบจัดการทำแผลให้มันก่อนที่เวลาจะล่วงเลยมากไปกว่านี้ “โซคดีของมึงเด้หนิที่กูบ่ทันปิดร้าน บ่ซั่นมึงได้นอนใต้สะพานลอยแท้” (โชคดีของมึงนะเนี่ย ที่กูยังไม่ปิดร้าน ไม่งั้นมึงได้นอนใต้สะพานลอยแน่) ปากพูดไป มือก็บรรจงทาแผลตามแผ่นอกให้มันอย่างเบามือ “เซียง…ทำไมมึงถึงช่วยกูหรอ” “แต่หมาบ่มีเข่ากินกูยังซอย อันนี่คนคัก ๆ สิให่กูเสยเตยเวยติ กูเฮ็ดบ่ได้ดอก” (ขนาดหมาไม่มีข้าวกินกูยังช่วยเลย นี่มึงเป็นคนแท้ ๆ จะให้กูอยู่เฉยหรอ กูทำไม่ได้หรอก) “อ่าา อะไรคือเสยเตยเวยวะ” “เสยกะคือเสยนี่ล่ะ เสย ๆ นิ่ง ๆ ซือลือน่ะ” “อ๋อออ~ นิ่ง ๆ” มันพยักหน้าหงึกหงักราวกับได้รับการตรัสรู้ “แล้วมึงไม่กลัวกูเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเงินมึงหรอ” “เอ้า กูดีนำปานนี่กะสิมาตั๊วกูสั่นเบาะ” (กูดีกับมึงขนาดนี้ มึงยังคิดจะหลอกกูงั้นหรอ) “หึหึ มึงนี่ก็ตลกดีเหมือนกันนะ” มันว่าพร้อมกับจ้องมองใบหน้าผมนิ่ง ทำเอาผมลอบกลืนน้ำลาย ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกไอ้หมอนี่มันมีสายตาแปลก ๆ ไม่ได้ออกแนวน่ากลัว แต่มันแปลก ผมก็อธิบายไม่ถูก “เอ้า แล้ว ๆ” (เสร็จแล้ว) ผมว่าพร้อมกับผละตัวออก ปล่อยให้มันได้สวมเสื้อผ้าตามเดิม “มื่ออื่นกูมีเรียนเซ่าฮอดสามโมง มึงกะนอนเล่นอยู่นี่ล่ะ อยากกะลงไปหาแนวกินตะล่าง หาเฮ็ดเอาโลด กูฝากเก็บร้านให่นำตอนแลงกลับมาสิได้เปิดร้านโลด” (พรุ่งนี้กูมีเรียนเช้าถึงบ่ายสาม มึงก็นอนเล่นอยู่นี่แหละ อยากจะลงไปหาอะไรกินข้างล่างก็ลงไปทำ กูฝากเก็บร้านให้ด้วยนะ ตอนเย็นกลับมาจะได้เปิดร้านเลย) “แล้วมึงเรียนคณะอะไรหรอ” “กูเรียนวิศวะ เท่บ่ล่ะ” (กูเรียนวิศวะ เท่มั้ยล่ะ) ผมว่าพร้อมกับยักคิ้วให้มันทีนึงก่อนจะเอนตัวลงนอนบนเตียง มันเองก็เอนตัวลงนอนข้างผมเหมือนกัน ต่างตรงที่มันนอนพื้นผมนอนบนเตียง “แล้วมึงอยู่ปีไหนแล้ว” “ตอนนี่เบาะ ปีสาม” (ตอนนี้หรอปีสาม) “แล้วทำไมได้มาเปิดร้านลาบล่ะ” “เอ้าบักห่าหนิ มึงคึเว่าดุตายแม่มึงแถะ ฟ่าวนอนนั่นเป็นหยังมึงบ่หิวนอนสั่นติ จังเว่ากันมื่ออื่น” (เอ้า ไอ้ห่านี่ มึงพูดเยอะจังวะ รีบนอนได้แล้วมึงไม่ง่วงหรือไง ค่อยคุยกันพรุ่งนี้) “เอ่อ…โอเค”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD