ผ่านไปหลายชั่วโมงภามินรู้สึกตัวก็ปรายสายตามองไปรอบกายเห็นร่างบอบบางของน้องสาวนอกสายเลือดนั่งอยู่ไม่ไกล เขารู้สึกคอแห้งจึงร้องบอกดารัณ
“ขอน้ำหน่อย”
“ได้ค่ะ” ดารัณรีบวิ่งไปยังห้องครัวโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าคนสร่างเมาด้วยซ้ำ กุลีกุจอวิ่งกลับมาส่งแก้วน้ำให้เขาจิบ ในเวลานี้เองดารัณเพิ่งจะมีโอกาสได้สำรวจดวงหน้าคมคายของภามิน ดวงหน้านั้นแม้จะอยู่ในอิริยาบถเพิ่งตื่นนอนแต่ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน คิ้วคมเข้ม ดวงตาคมกริบ จมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากหยัก เรื่อยลงมาจนถึงปลายคางบึกบึน ทั้งหมดที่ประกอบมาเป็นภามินทำให้ดารัณตกหลุมรักทั้งหมด
“มองอะไร” ภามินตวัดสายตาขึ้นมองก่อนเอ่ยถามเสียงห้วนมองเด็กในบ้านตาขวาง หมดอารมณ์ทันทีที่เห็นหน้าหล่อนจึงส่งแก้วเปล่าคืนให้แล้วเดินกระแทกกระทั้นขึ้นบันไดกลับห้องนอนตนเองโดยมีร่างกายบอบบางของดารัณยืนมองจนลับตา ศีรษะงามส่ายช้าๆ ไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขา
ดารัณเก็บสถานที่ให้เรียบร้อย นำชามใส่น้ำไปเก็บนำผ้าไปตากแห้งพับผ้าห่มเก็บหมอน เตรียมตัวขึ้นบ้านไปนอนเช่นเดียวกันแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นโทรศัพท์เครื่องหรูมูลค่าสูงของภามินเข้าจึงหยิบติดมือมาเอาขึ้นไปส่งคืนให้เขาด้วย ตอนนี้ปาไปห้าทุ่มกว่าแล้วหวังว่าเขาจะยังไม่นอนนะ
ก๊อก ก๊อก!
หลังมือบอบบางกล้าๆ กลัวๆ ยกขึ้นเคาะประตูไม้แกะสลักราคาแพง โดยปกติแล้วหากไม่มีอะไรคอขาดบาดตายห้องนอนภามินถือเป็นสิ่งต้องห้ามที่หล่อนควรอยู่ห่างเนื่องจากเขาไม่ชอบให้มายุ่งวุ่นวายกับสถานที่ส่วนตัว แต่จะว่าไปแล้วคนอื่นมาเคาะเรียกไม่เห็นเขาจะว่าอะไรสักคำยกเว้นหล่อนคนเดียวกระมังที่นอกจากเขาจะต่อว่าแล้วยังทำเสียงทำหน้ารำคาญใส่อีก ทุกคำพูดทุกการกระทำของเขาล้วนทำให้หล่อนรู้สึกแย่
ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรง
“มีอะไรอีก!”
“เอ่อ... คือ คุณภามลืมโทรศัพท์ไว้ข้างล่างน่ะค่ะ รันก็เลยเอามาคืนให้” ว่าจบก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ ภามินไม่พูดอะไรอีกเพียงแต่กระชากของส่วนตัวกลับไปแล้วปิดประตูใส่หน้าหล่อนเสียงดัง ทำเอาดารัณน้ำตาคลอเสียใจที่สุดทั้งโกรธเขามากด้วย ผู้ชายบ้าคนนี้ใจร้ายกับหล่อนตลอดเลย ขนาดเขาใจร้ายใส่ขนาดนี้หล่อนก็ยังบ้ารักเขาอีก คราวนี้ให้ทายใครบ้ามากกว่ากัน?
ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นกรีดน้ำตา ก่อนดารัณจะผงะอีกครั้งเมื่อประตูบานเดิมเปิดออกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไร มีภามินยืนจังก้าหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้า
“ดารัณ”
“คะ คุณภาม”
“ฉันปวดหัว ไปหายามาให้ฉันกินหรือไม่ก็หาค้อนหนักๆ มาทุบหัวให้ที” จอมบงการเอ่ยเสียงเย็นชายกปลายนิ้วขึ้นนวดขมับตัวเองเบาๆ บรรเทาความปวดหนึบๆ ในศีรษะ
วันนี้หลังเลิกงานภามินเมากับคนงานเช่นเคยแต่ไม่ได้เมาหนักจนไม่รู้สึกตัว ตลอดเวลาเขารู้สึกตัวว่ามีมือบอบบางคอยจับผ้าชุบน้ำเช็ดไปตามร่างกายอยู่ไม่ขาด คอยเช็ดหน้าเช็ดคอ บางครั้งหนักหน่อยเขาอาเจียนหล่อนก็ยังตามเช็ดตามดูแลไม่ยอมหนีไปไหน จากที่เคยคิดอยากแกล้งหนักๆ ให้หล่อนจำแล้วไม่เข้ามายุ่งอีกทำให้ภามินต้องเปลี่ยนความคิด แท้จริงแล้วการมีหล่อนคอยดูแลก็คงดีกว่าเป็นไหนๆ
ริมฝีปากคมคายแสยะรอยยิ้มเหยียดหยัดให้กับผู้หญิงกาฝากที่ยืนตรงหน้าตนเอง แววตาหล่อนใสระยิบระยับ ดีใจที่ถูกเขาออกปากใช้ แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าดารัณแอบหลงรักเขาเพราะอย่างนี้ไงเขาถึงได้รังเกียจและขยะแขยงหล่อนนัก คงคิดในใจว่าอยากจะข้ามขั้นจากเด็กกำพร้าอนาถาขึ้นมาเป็นคุณนายอีกคนของอดิศวรสินะ เฮอะ! แต่นั่นคงเป็นได้แค่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของหล่อนเพราะเขาไม่เคยมองเห็นหล่อนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
อ้อ! จะว่าไปก็มองเห็นอยู่หรอก แต่เป็นมองเห็นตอนที่อยากใช้หล่อนเท่านั้นนะ!