ตอนที่ 9 ยังไม่ตายง่าย ๆ
ขบวนรถหลายสิบคันมุ่งหน้าไปยังตึกแฝดในซอยเปลี่ยว ซึ่งเป็นแหล่งกบดานหรือที่ซ่องสุมของไอ้ภูผา เวลาที่มันมีปัญหาหรือโดนตามล่า มักจะมาหลบที่นี่เสมอ
ทุกครั้ง ปัญหามันเป็นเรื่องเล็กน้อย กระทบกระทั่งเรื่องธุรกิจก็มีบ้าง ถึงขั้นลงไม้ลงมือก็มีบ่อย แต่ไม่ถึงขนาดที่กะจะเอาชีวิตกันขนาดนี้
และไม่ใช่แค่ชีวิตเดียว ทั้งพายุ พลอยใส และหลานของเขาที่อยู่ในท้องอีกสองคน รวมเป็นสี่ชีวิต แล้วเขาจะปล่อยให้มันรอดไปได้ยังไง ทุกสิ่งที่มันทำจะต้องชดใช้ด้วยทั้งหมดที่มันมี
“มันอยู่ที่นี่แน่ใช่ไหม”
“แน่ครับนาย”
“กระจายกำลังให้พร้อม ระวังตัวกันด้วย”
ลูกน้องกว่าร้อยชีวิตกระจายกำลังล้อมรอบตึกแฝด ข้างในนั้นเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ทุกก้าวย่างจะต้องระมัดระวัง เรามีปืน พวกมันก็มีเช่นกัน
ไต้ฝุ่นกระชับกระบอกปืนในมือแน่น ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆ โดยมีลูกน้องคนสนิทตามติดไม่ห่าง และลูกน้องอีกหลายคนที่คอยระวังหน้าหลัง
ทันทีที่เท้าก้าวพ้นประตูบานที่สอง เสียงกระสุนก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว
“คุ้มกันนายท่าน!!”
พัด ตะโกนเสียงดังให้ลูกน้องที่อยู่ใกล้ ๆ คอยยิงคุ้มกันให้ไต้ฝุ่นที่กำลังวิ่งหลบห่ากระสุน และพยายามพาตัวเองให้เข้าไปใกล้ไอ้ภูผามากที่สุด มันอยู่บนชั้นสอง เขารู้ดี
กระสุนนั้นไม่มีตา ใครหลบไม่ดีก็ย่อมโดนยิง ลูกน้องของเขาก็โดนไปหลายคน แม้แต่ตัวไต้ฝุ่นเองก็ยังโดนกระสุนถากที่แขนจนเลือดไหล แต่มันก็ไม่สามารถหยุดเขาได้
ในที่สุด ไต้ฝุ่นก็มายืนอยู่ต่อหน้าคนที่เขาตามหา
“กูไม่เข้าใจ ว่าทำไมมึงถึงกล้ายิงเฮียพายุ”
นั่นเป็นคำถามแรกที่เขาเอ่ยถามมัน จริง ๆ ถ้ามันเลือกที่จะยิงใครสักคน คน ๆ นั้นน่าจะเป็นเขาที่มีเรื่องกับมันอยู่เป็นประจำมากกว่า
“นั่นมันเรื่องของกูกับพี่มึง ไม่เกี่ยวกับมึง”
ไอ้ภูผาตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“ขอโทษทีว่ะ พอดีกูเป็นคนชอบเสือก มึงกล้าทำ มึงก็ต้องกล้ารับผลที่จะตามมา มึงคงรู้แล้วสินะ ว่าตอนนี้พ่อกูเอาคนไปถล่มเมทันกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว”
ก็เพราะว่าไอ้ภูผามันรู้ดี มันจึงกำมือเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ ทันใดมันก็พุ่งตรงเข้าหาไต้ฝุ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้า สองคนชกต่อยแลกหมัดกันไปมา ปืนที่เตรียมจะลั่นไกต่างฝ่ายก็ต่างถีบจนหลุดออกจากมือของอีกฝ่าย
“ฝีมือยังเป็นรองกูเยอะไอ้ภูผา”
ไต้ฝุ่นพูดขึ้นในขณะที่เขายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง วงแขนรัดคอมันที่อยู่ด้านหน้า
ทันใดนั้น ไต้ฝุ่นก็ดึงมีดพกที่เหน็บไว้ตรงเอวออกมา เขาง้างมือสุดแขน แล้วก็จ้วงแทงลงไปที่หน้าอกทางด้านซ้ายของมันสองครั้ง ตรงตำแหน่งเดียวกันกับที่มันยิงพี่ชายของเขา
“ไปตายซะ”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของไต้ฝุ่นที่ไอ้ภูผาได้ยิน ก่อนที่มันจะปิดเปลือกตาทรุดลงกับพื้นหมดลมหายใจ
หลังจากจัดการตัวต้นเหตุเรียบร้อย ลูกน้องก็เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ทำให้ทุกอย่างเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ศพทั้งหมดถูกฝังไว้ที่ใต้ดินของตึกแฝดแห่งนี้ ให้พวกมันไปคุยกับยมบาลไปตลอดกาล
//////
จัดการทุกอย่างเสร็จ ไต้ฝุ่นก็รีบกลับมาที่เซฟเฮ้าส์ของตัวเอง ทั้งที่ยังไม่ทำแผลเลยด้วยซ้ำ ถึงจะรู้ว่าที่นี่ปลอดภัย ไม่มีใครมาทำอันตรายยัยเด็กเตี้ยของเขาได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอดเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี
มือหนาค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูเข้าไปในห้องนอนอย่างช้า ๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้เด็กน้อยตกใจตื่น ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้ามืด ปล่อยให้เธอนอนต่อสักหน่อยน่าจะดีกว่า เผื่อจะได้โตขึ้นอีกสัก 2-3 เซนติเมตร
แต่ใครจะไปรู้ว่า เมื่อเปิดประตูเข้ามา ยัยเด็กเตี้ยจะนั่งทำตาแป๋วอยู่บนที่นอน ดวงตากลมโตจ้องมายังประตูห้องที่เขาเพิ่งเปิดออก เมื่อมองเห็นร่างสูงก้าวเข้ามาในห้อง ตาที่กลมโตอยู่แล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นไปอีกด้วยความตกใจ
“คุณ!! เกิดอะไรขึ้น ทำไมเลือดออกเต็มเลย คุณขับรถไปชนใครเขามาหรือเปล่าเนี่ย หรือไปชนเสาไฟฟ้ามา”
แล้วดูความคิด นี่ไม่รู้ว่าเป็นห่วง หรือกำลังแช่งเขาทางอ้อมอยู่กันแน่
“จะโดนอะไรก็ช่างเถอะ ฉันยังไม่ตายง่าย ๆ หรอก ว่าแต่เธอทำไมถึงตื่นเช้าขนาดนี้”
เขาเอ่ยถามคนตัวเล็ก พลางถอดเสื้อเพื่อที่จะทำความสะอาดร่างกายและรอยเลือด
“ใครว่าหนูตื่นเช้า หนูยังไม่นอนเลยต่างหาก ก็คุณเล่นหายไปเลย หนูก็เป็นห่วงกลัวว่าคุณจะเป็นอะไร เดี๋ยวไม่มีคนจ่ายเงินเดือนหนูจะทำยังไงล่ะ”
เกือบแล้วเชียว เขาเกือบจะดีใจจนตัวลอยที่มีคนคอยห่วง แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายก็ฉุดเขาลงมากระแทกกับพื้นแทบจะกระอักเลือดแทน
“งั้นเธอก็สบายใจได้เลยยัยเตี้ย ยังไงฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อจ่ายเงินเดือนเธอไปอีกหลายปี”
คนตัวสูงพูดเสร็จก็เดินเข้าไปทางห้องอาบน้ำ เขาเปิดน้ำอุ่นเพื่อที่จะชำระร่างกาย แต่ไม่ทันไรวันวิสาก็เดินตามเข้ามาข้างใน
“มานี่คุณ เดี๋ยวหนูช่วยทำให้ แผลใหญ่ขนาดนี้จะเปิดน้ำราดแบบนั้นได้ไง มันต้องค่อย ๆ เช็ดจะได้ไม่ระบมไปมากกว่านี้”
สาวน้อยไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่บนชั้น เอามาชุบน้ำ แล้วเช็ดลงรอบ ๆ บาดแผลให้เขาอย่างเบามือ
“โตขนาดนี้ยังไปมีเรื่องกับคนอื่นมาอีกเหรอคุณ”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไปมีเรื่องกับคนอื่นมา”
“จะไม่รู้ได้ไง หน้าตาบวมปูดซะขนาดนี้ ระวังตัวหน่อยนะคุณ เกิดเป็นแผลที่หน้าขึ้นมาล่ะจะยุ่ง เสียดายหน้าหล่อ ๆ หมด”
คำพูดที่ฟังหมือนจะเป็นคำชมไปในที ทำให้คนตัวโตที่ยืนพิงฝาผนังห้องอาบน้ำอยู่หน้าเปลี่ยนสี คำว่าหล่อน่ะ เขาฟังมาไม่รู้กี่ล้านรอบแล้วตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่แปลกที่พอมันออกมาจากปากบางเล็กของเธอ กลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้
ใบหน้าคมโน้มลงมาหาคนที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาอยู่อย่างช้า ๆ ริมฝีปากหนาอยากจะครอบครองปากบางเล็กนั่นเต็มที
“เสร็จแล้วค่ะคุณ ไปค่ะ เดี๋ยวหนูใส่ยาให้ ที่นี่มียาใส่แผลไหมคะ”
แต่เธอก็ดันเงยหน้าขึ้นมาพูดเสียก่อน ทำเอาไต้ฝุ่นต้องรีบดึงตัวเองให้กลับมายืนตรงเหมือนเดิม
“ยาอยู่ในตู้ข้างนอกนั่นน่ะ เธอหยิบได้หรือเปล่า”
“ได้สิคะ แค่นี้สบายมาก”
เขาเดินตามเธอออกมาข้างนอก แล้วยืนดูคนที่ความสูงไม่ถึงกำลังพยายามใช้เก้าอี้เพื่อเพิ่มความสูงขึ้นไปหยิบยาที่อยู่ในตู้
..หึ สบายมากอะไร ขนาดต่อเก้าอี้แล้วยังแทบจะหยิบไม่ถึง..
เมื่อได้ยาใส่แผลตามที่ต้องการแล้วก็ลงมายืนยิ้มแป้นอยู่บนพื้น
“มาค่ะคุณ มานั่งตรงนี้ เดี๋ยวหนูใส่ยาแล้วก็ทำแผลให้นะ”
เสียงเล็กหวานเรียกเขาไปนั่งข้างเธอบนที่นอน และไต้ฝุ่นก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขานั่งลงข้าง ๆ เธอ ปล่อยให้คนตัวเล็กค่อย ๆ ทำแผลให้ มือเบากว่าที่คิด จะว่าไปแล้ว มียัยตัวเล็กนี่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่เลว
///////////////////////////////////////