ความเดิม- "สวัสดีครับป้านา ลุงพล ผมพาหลานสาวมาช่วยงานช่วงปิดเทอมครับ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ และยังไม่ยอมปล่อยมือสองสาว
…………………………………………..
"อ้อค่ะ คุณหนู ๆ น่ารักจังเลย มาจะอยู่กี่วันคะ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยหน้าตายิ้มแย้มถึงแม้เธอจะดูหน้าตาดุก็ตาม
"ไม่รู้ว่าอานัทจะให้มาช่วยที่นี่กี่วัน แต่พวกหนูปิดเทอมสองเดือนกว่า ๆ ค่ะ" อัญญารินทร์ตอบยิ้ม ๆ พลางหันไปสบตาคุณอาหนุ่มเพียงครู่
"ก็อยากให้มาช่วยจนกว่าจะเปิดเทอมนั่นแหละค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะมาให้หรือเปล่า นี่ก็ได้ข่าวว่ามีคนจะพาไปเที่ยวด้วยเนี่ย" เปรมมนัสแกล้งเย้าหลานสาวแต่แอบจับตาสาวน้อยร่างบางที่หันไปมองคนโน้นคนนี้พูดทีจนดูน่าขัน
"คุณนัทจะให้คุณหนูนั่งในห้องนี้เลยมั๊ยคะ ป้านาจะได้บอกคนมาช่วยจัดห้อง" นารี เลขาวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ
"จัดในห้องนี้เลยครับ ขอแล็ปท็อป 1 ตัว แล้วก็โต๊ะหนึ่งตัวกับเก้าอี้สองตัวครับ อ้อ รบกวนพาสองสาวไปทัวร์ที่ครัวหน่อยนะครับ ถ้าเค้าอยากกินน้ำขนมให้เค้าช่วยตัวเอง แล้วก็กาแฟของว่างของผมสองสาวจะเป็นคนจัดการเองครับ"
"รับทราบค่าคุณนัท งั้นป้านาไปบอกคนจัดสถานที่ให้นะคะ" นารีเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินออกไป
"ขอบคุณครับป้านา"
ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าเลขาวัยกลางคนออกไปจากห้องและเสียงฝีเท้าห่างออกไปไกลแล้วจึงหันมาคุยกับสองสาวบ้าง
"เด็ก ๆ ใครก็ได้คนนึงมาช่วยอ่านเอกสารแล้วก็เปิดแฟ้มให้อานัทหน่อย ส่วนอีกคนคอยอกแฟ้มไปไว้ที่โต๊ะตัวโน้นที เวลาป้านาหรือลุงพลมารับแฟ้มก็ช่วยบอกป้าลุงเค้าว่าแฟ้มทางนู้นเซ็นหมดแล้ว" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างมีแผนการ ก็แน่ละซิ เพราะมันมีแต่เอกสารเกี่ยวกับการเงินและบัญชีทั้งนั้นเลยนิ่
ด้านอัญญารินทร์
"อานัทขา แฟ้มนี้เกี่ยวกับการเงินทั้งนั้นเลยนี่คะ น้องเอ๋ยปวดหัว ให้ยัยบีเป็นคนดูดีกว่าค่ะ เดี๋ยวน้องเอ๋ยจะเป็นคนจัดแฟ้มแยกเป็นแผนก ๆ ไว้ให้ป้านากับลุงพลดีกว่าค่ะ” อัญญารินทร์เอ่ยอย่างรู้กัน
"เอางั้นเหรอ น้องบีล่ะว่าไง อ่านเอกสารแล้วเข้าใจมั๊ย" เปรมมนัสทำทีเอ่ยถามอีกคนบ้าง
"อืม..บีว่าบีเข้าใจนะคะ อันนี้….เป็นงบนี้ น่าจะเป็นอันนี้ ตัวเลขสอดรับกันนะคะหนูว่า ไม่มีอะไรน่าผิดสังเกตนะคะ หรืออานัทว่ายังไงคะ หนูว่ามันปกตินะคะ …ห๊ะ! หรือว่า อานัทจะให้พวกหนูมาจับผิดแผนกบัญชีคะ..หนูว่าหามืออาชีพเถอะค่ะ หนูคงวิชาไม่กล้าแกร่งพอมั๊งคะ" กานต์ธิดาออกตัวเหย็ง ๆ ทำเอาอีกคนถึงกับยิ้มขำระคนเอ็นดู ทำทีเนียนไปลูบผมคนตัวบางอย่างเบามือ
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน้องบี ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก แต่เราก็ต้องตรวจทานอีกทีนึงบางทีก็อาจจะมีความผิดพลาดก็มี เราต้องช่วยกันป้องกันเพื่อไม่ให้มีปัญหากับคนนอก…สรรพากรไงล่ะ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ
"จริงด้วย…หนูลืมไปสนิทเลย ท่าทางขึ้นปีสองหนูต้องรอบคอบให้มากกว่านี้ค่ะ" คนตัวบางพูดหน้าเจื่อน
"อาไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ แค่บอกให้หนูรู้ไว้ว่าบางทีเราเป็นเจ้าของกิจการมันต้องมองให้รอบด้าน ระวังหน้าระวังหลังไว้ ตั้งอยู่บนความถูกต้องดีที่สุด จริงมั๊ยคะ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปสบสายตากับหลานสาวเพียงครู่อย่างรู้ใจกัน
"งั้น หนูจะตั้งใจให้มากกว่านี้ ถ้าหนูไม่เข้าใจตรงไหน หนูขออนุญาตามเลยนะคะ" กานต์ธิดาพูดอย่างแสนซื่อเพราะเธอตั้งใจอย่างมุ่งมั่นว่าต้องทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างที่ผู้เป็นอาของเพื่อนสาวจ้าง แต่อีกคนได้แต่กระหยิ่มระคนเอ็นดู
สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากด้านนอกพร้อมกับการเปิดโดยไม่ต้องขออนุญาต
"สวัสดีสาว ๆ อากรมารับไปทานข้าวกลางวันค่ะ" เป็นปกรณ์ที่เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแก้มแทบปริ
"เออ..มารยาทน่ะ อยู่ลึกเกินไปนิดนะ รอให้เจ้าของอนุญาตหน่อยก็ได้ ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนา เหลืออีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะเที่ยง" เปรมมนัสทำทีทักท้วงทั้งที่เป็นคนส่งข่าวให้แท้ ๆ
"ก็มาแล้วไง ไปกันเลยนะ กินอะไรกันดีสาว ๆ" ปกรณ์หันไปถามคนของใจยิ้ม ๆ
"น้องเอ๋ยว่าเราไปกินไก่ย่างส้มตำกันได้มั๊ยคะ หรือไม่ก็ผัดไทยอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ" อัญญารินทร์กล่าวยิ้ม ๆ ส่วนอีกคนตาวาว
"ไงน้องบี อยากกินใช่มั๊ยตาวาวเลย งั้นน้องเอ๋ยบอกทางนะ ส่วนนายไอ้คุณชายเล็กขับรถตามเลย/น้องบีนั่งไปเป็นเพื่อนนายนัทนะ ขานั้นเค้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับร้านส้มตำเท่าไร" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปส่งสายตาให้เพื่อนรักเป็นอันรู้กัน
"ก็ได้ค่ะ แต่ว่าคุณหมอสั่งไว้ว่าไม่ให้น้องบีกินของหมักดองแล้วก็ปิ้งย่างบ่อย ๆ นี่ซิ” คนตัวบางพูดหน้าจ๋อยดูน่าสงสาร
"กินแต่เนื้อไก่ กับส้มตำไม่ใส่ปลาร้าก็ได้ แล้วก็สั่งข้าวเปล่าเอาซิ นาน ๆ ทีกินไม่เป็นไรหรอกน่า อย่าเครียดจนเกินไปนะ" เปรมมนัสเอ่ยอย่างนึกสงสารและเห็นใจคนตัวบางอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะอย่างไรถ้าก้อนนั้นโตเกินกว่าปริมาณที่กำหนดเขาจะเป็นคนผ่ามันด้วยมือของเขาเอง แล้วค่อยมาลุ้นผลชิ้นเนื้อกันอีกที ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ
ด้านปกรณ์อ่านสายตาของเพื่อนรักออกและเข้าใจอย่างสุดซึ้งทำได้เพียงตบไหล่เพื่อนไปหนึ่งครั้งอย่างให้กำลังใจ
"รีบพาน้องบีตามมานะ รอที่ลานจอดรถ" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับจับจูงมือคนตัวเล็กเดินออกไปล่วงหน้าก่อนแล้ว