15.ตัวช่วย

1096 Words
ความเดิม- "นั่นนะซิ ถ้าเค้าจะลงเอยกันลุงก็ไม่ขวางนะ ขอให้ลูกมีความสุขลุงยอมทั้งนั้น ลุงมีบทเรียนราคาแพงเรื่องพ่อของน้องเอ๋ยมาแล้ว ลุงจะไม่มีวันให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเด็ดขาด" ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ........................................ ตัดมาที่เปรมมนัสแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ชายหนุ่มเลือกที่จะเข้าออฟฟิศเพื่อตรวจตราเอกสารและเซ็นเอกสารที่คั่งค้างบางอย่าง ในขณะที่ในหัวก็มีแต่เสียงของหลานสาวที่ดังวนเวียนเหมือนเป็นเพลงวนหรูบไปเรื่อย ๆ เปรมมนัสพาร์ท {วันนี้เป็นวันเสาร์ผมรู้สึกเบื่อ ๆ จึงเข้าออฟฟิศมาดูเอกสารไปเรื่อยเพราะไม่อยากฟุ้งซ่าน เพราะรู้สึกเหมือนหลอกเด็กคราวลูกคราวหลานยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้ในหัวผมมันมีเสียงของหลานสาวเต็มไปหมด คำพูดของน้องเอ๋ยที่พูดว่าให้ผมถามใจตัวเองดู ใช่ผมต้องหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง ผมใช้เวลานั่งเงียบ ๆ คนเดียว อยู่กับตัวเอง ทบทวนเรื่องราวทั้งหมด มันทำให้ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ความรัก และความหลงไหลได้ปลื้ม เพราะยัยผีดิบนั่นไม่มีอะไรให้น่าหลงไหลได้ปลื้มเลยสักนิดเดียว ออกจะน่าเป็นห่วงเสียด้วยซ้ำ จะว่าเป็นความสงสารหรือ ก็ใช่ แต่ทำไมไม่สามารถตัดออกไปจากห้วงความคิดได้ ผมปลงใจแล้วว่าจะค้นหาคำตอบว่านั่นคือความสงสารหรือความรักกันแน่ เพราะผมก็ไม่อยากตัดสินใจอะไรแบบรีบด่วนจนเกินไปเหมือนกัน แต่จะทำยังไงดีล่ะให้ผมมีโอกาสได้ใกล้กับเด็กนั่น คนแรกที่ผมคิดถึงคือหลานสาวคนสวยของผมทันที} ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถกลับบ้านเพราะทุก ๆ วันเสาร์หลานสาวตัวดีจะมาฝึกทำขนมกับคุณพ่อของเธอและกลับในช่วงเย็น ๆ @บ้านอนันตวรรณาวงษ์ "อ้าวนายนัทมาพอดี พ่อกำลังคุยเรื่องของเรากับหลานกรอยู่พอดี" ชายชราเอ่ยยิ้ม ๆ "ว่าไง ตัดใจไม่ลงว่างั้น แต่นายดีกว่าฉั๊นมากนะเว้ย ตอนที่ฉันเจอน้องเอ๋ยยังไม่สิบห้าดีเลย ฉั๊นต้องอดทนขนาดไหน นี่แกยังดีนะที่น้องเกินสิบแปดแล้ว" "แต่ก็สิบเก้าปีเองมั๊ยว๊ะ ก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะอยู่ดี แถมพี่ชายทั้งหวงทั้งห่วงปกป้องยังกะแม่ไก่ ใครเข้าใกล้ทั้งจิกทั้งเตะ" เปรมมนัสพูดอย่างระบายความรู้สึกอัดอั้นจากข้างใน "แล้วเจ้าตัวเค้ามีปฏิกิริยาอะไรบ้างมั๊ยวะ" "เฉย ๆ ว่ะ ยิ่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองนี่หงอเชียว ไม่กล้าอือไม่กล้าหือ มองหาแต่ทางหนีทีไล่อย่างเดียวเลย" "เป็นเพราะว่าเราเคยมีปากมีเสียงกับน้องหรือเปล่า น้องเลยคิดว่าเราแค้นฝังหุ่น" เปรมชัยออกความเห็นบ้าง "คนที่แค้นฝังหุ่นไม่น่าจะเป็นผมหรอกครับคุณพ่อ น่าจะเป็นเค้าเสียมากกว่าแหละผมว่า" "ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..นายเปรมมนัสผู้สุขุมนุ่มลึก เจอเด็กปราบแล้วเว้ย ขอให้ใช่นะเพื่อนคงดูดีพิลึก เหนือฟ้ายังมีฟ้านะฉั๊นว่า" "หึหึ พ่อชักอยากจะเห็นหน้าเด็กคนนี้เสียแล้วซิ" "นี่ครับพ่อ หน้าตาก็ธรรมดา ๆ แหละครับ" เปรมมนัสเปิดรูปบุคคลที่สามให้ผู้เป็นบิดาดู "หน้าตาน่ารักเลยนะนั่น ตาหวานเชียว โอ..มีลักยิ้มด้วย แต่ตัวเล็กไปหน่อย น้องเอ๋ยพ่อก็ว่าตัวเล็กแล้วนะ นี่ดูตัวเล็กกว่าน้องเอ๋ยอีก" "เหมือนผีดิบมั๊ยครับพ่อ" "ทำเป็นพูดดีไป ได้ข่าวว่าตอนเค้าโดยกระเบื้องบาดเท้านี่รีบล็อคตัวน้องมาดูแผล พี่ชายเค้าจะพาไปหาหมอก็รีบบอกว่าตัวเองก็เป็นหมอเหมือนกันเลยไม่ใช่เร๊อะ" "ฝีมือยัยตัวเล็กอีกใช่มั๊ยครับ ชักจะเก่งขึ้นทุกวันแล้วนะเนี่ยหลานคุณพ่อน่ะ เก็บรายละเอียดเก่งจริง/นายต้องระวังเอาไว้บ้างแล้วนะนายกร ห้ามทำอะไรไม่ดีลับหลังนางเด็ดขาด นางจับผิดเก่ง" เปรมมนัสบ่นอย่างเหนื่อยหน่ายและหันไปโยนให้เพื่อนรัก "ไม่มัํง ทีเรื่องของตัวเองกลับไม่รู้ไม่ชี้ซ๊ะงั้น" ปกรณ์เอ่ยแย้ง อีกด้านของผู้มาใหม่ -..ขนมมาแล้วค่า นี่ถาดแรกเลย ช่วยชิมให้หน่อยนะค๊า..- เสียงเชิญชวนชิมขนมคุ๊กกี้สูตรใหม่ที่ดังมาจากในครัว "นู่น เสียงตัวช่วยดังมานู่นแล้ว" ชายชราเอ่ยยิ้ม ๆ "ขนมค่ะ นี่สูตรใหม่ค่ะ ลองชิมซิคะ น้องเอ๋ยตั้งใจทำสุดฝีมือเลย" "ไหนคุณปู่ลองชิมหน่อยซิคะ..อื้มอร่อยนุ่มละลายในปากเลยค่ะ คุณปู่ขอหมดจานเลยได้มั๊ยคะ" ชายชราต่อรอง "เห็นจะไม่ได้ค่ะ คุณแม่สั่งไว้ว่าถ้าคุณปู่หรือคุณพ่อมีค่าน้ำตาลหรือไขมันสูงขึ้น จะงดไม่ให้น้องเอ๋ยมาฝึกทำขนมคุ๊กกี้ที่นี่อีกแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น คุณปู่กินได้ไม่เกิน...อืม...ห้าชิ้นค่ะ ห้าชิ้นก็พอ แล้วต้องเดินออกกำลังกายรอบ ๆ บ้านสักสองสามรอบก็น่าจะได้นะคะ เดี๋ยวน้องเอ๋ยเดินเป็นเพื่อน" เด็กสาวเอ่ยอย่างแสนซื่อ "เหรอลูก..งั้นคุณปู่กินแค่สองชิ้นก็พอลุก แล้วเดินในบ้านสักสองสามรอบก็พอได้มั๊ยคะ" "คุณอาหมอทั้งสองว่ายังไงละคะ พอได้มั๊ย" "ได้ค่า..หึหึ" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ แต่อีกคนทำคิ้วขมวดมองบิดาและหลานสาวอย่างเหนื่อยหน่ายระคนเอ็นดู "อานัทไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกค่า น้องเอ๋ยจะช่วยอยู่ เดี๋ยววันจันทร์นี้จะพาไปพบคุณแม่ที่บ้านค่ะ ให้พี่เอได้คุยกับคุณแม่เลยจะได้อุ่นใจ เดี๋ยวน้องเอ๋ยล็อบบี้คุณแม่เลย ห้ามกลับช้าด้วยวันนั้น" เด็กสาวเอ่ยเสียงใสและส่งคุ๊กกี้เข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย "นี่คุ๊กกี้สำหรับทุกคนคร้าบ นี่ของกร นี่ของคุณแม่นะคะน้องเอ๋ย" เปรมกิจเอ่ยยิ้ม ๆ แล้ววางโหลคุ๊กกี้แสนลงบนโต๊ะกลาง ซึ่งทุกคนก็ได้แต่ทำความเข้าใจในบุคลิกที่เปลี่ยนไปของหนุ่มใหญ่ ซึ่งได้แค่นี้ก็นับว่าดีแล้ว

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD