ตอนที่3[แอบห่วง]

1447 Words
ตะวันเถื่อน ตอนที่3 [แอบห่วง] ตอนดึกร่างเล็กรู้สึกหิวเมื่อท้องร้องจ๊อก ๆ นับดาวนอนพลิกไปมาด้วยความหิวโหยอยู่บนเตียงนุ่ม เมื่อตอนเย็นกับข้าวรสจัดทำให้ฝืนกินไปได้สองสามคำ จะทำอย่างไรดีเมื่อเริ่มแสบท้องหนักขึ้นเมื่อคิดได้ร่างเล็ก จึงก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตูก้าวเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ส่วนนายหัวตะวันที่กำลังหลับอยู่อีกห้อง พลันได้ยินเสียงผิดปกติภายในบ้าน จึงเอื้อมมือไปหยิบวัตถุสีดำสนิทที่วางไว้ใต้หมอน แล้วเดินย่องลงมาชั้นล่างอย่างระแวดระวัง เมื่อลงมาใกล้ได้ยินเสียงกุกกักอยู่แถวห้องครัว จึงเล็งปืนในมือเข้าหาร่างสลัวพร้อมเหนี่ยวไก แสงไฟด้านนอกสาดส่องเข้ามาพอให้ได้เห็นกันลาง ๆ หยุด!! กรี๊ดด! เสียงเล็กร้องกรี๊ดลั่นบ้านด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อนายหัวเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างในบ้านสว่างจ้าขึ้น "อ้าว! นี่เธอลงมาทำอะไรมืด ๆ ไฟก็ไม่เปิดฉันก็คิดว่าขโมยเข้าบ้าน" นายหัวร้องทัก "ฉันลงมาหาน้ำกิน แล้วหาสวิตช์ไฟไม่เจอนะสิ!" เสียงเล็กยังสั่นเครือด้วยความตกใจ "อ้าว! ยืนอยู่ทำอะไรไปหยิบน้ำสิ!" ร่างโตเอ่ยเตือนเสียงห้วน หลังยืนรอนับดาวหยิบน้ำในตู้เย็นเสร็จแล้วก้าวขึ้นชั้นบน นายหัวก็ปิดไฟแล้วก้าวตามมาบ้าง ต่างคนต่างเข้าห้องนอนของตัวเอง แล้วปิดไฟนอนลง _______________ แสงรุ่งอรุณของวันใหม่ได้เข้ามาเยือน ร่างเล็กนอนบิดกายแล้วเอามือเรียวลูบไล้หน้าท้องแบนราบ เมื่อมีอาการแสบ ๆ ด้วยโรคกระเพาะน่าจะกำเริ่บ ก๊อก ๆ "นี่เธอ! นอนกินบ้านกินเมืองหรือไงไม่ลุกสักที" เสียงทุ้มกร้าวอยู่หน้าประตู ทำให้นับดาวรีบลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูทันที "ไปทำกับข้าวกินเองถ้ากินเผ็ดไม่ได้" เสียงกร้าวมาพร้อมกับสายตาคมดุกล่าวจบ ก็หันกลับจะก้าวลงชั้นล่าง แต่รีบหันมาใหม่เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ "อ้อ!! แล้วก็ทำอะไรให้มันไว ๆ ด้วย ที่นี่เขามีงานกันเยอะ แล้วก็ไปช่วยงานที่สวนด้วย ไม่ใช่ว่าแต่งงานกับฉันแล้ว เธอจะได้อยู่สุขสบายเป็นคุณนายน่ะ" เสียงห้วนกระแทกใส่จบก็ก้าวลงชั้นล่าง คงปล่อยให้นับดาวยืนงงอื้ออึ้ง กับคำพูดแต่ละประโยคโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ที่สามารถทำให้มันเจ็บจี๊ดเข้าไปถึงด้านในได้ดีพิลึก ร่างเล็กกัดฟันขบเม้มริมฝีปากล่างจนเจ็บเพื่อข่มอารมณ์ขุ่นมัว แล้วก้าวเดินลงชั้นล่างเพื่อเข้าครัวทำอาหารกินเองตามคำสั่งนายหัวตะวัน "นายหญิงนั่งอยู่เฉย ๆ เลยคะ เดี๋ยวป้าเอียดทำเอง" ป้าเอียดแม่บ้านเห็นนายหญิงของตนเข้าครัวทำอาหารก็เกิดความไม่สบายใจขึ้น "ไม่เป็นไรค่ะป้า ดาวทำเองดีกว่า เพราะอาหารที่ป้าทำรสจัดเกินไป" นับดาวแย้ง "ถ้านายหญิงทานเผ็ดไม่ได้ เดี๋ยวป้าเอียดทำให้คะ" แม่บ้านคัดค้านพร้อมเสนอตัวทำให้เอง ร่างเล็กทนความรบเร่าของป้าเอียดไม่ได้จึงปล่อยให้นางช่วยเป็นลูกมือแทน ช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ หลังทานข้าวเสร็จนับดาวเดินขึ้นชั้นบน แล้วก้าวลงมาชั้นล่าง ด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่มีเสื้อแขนยาวคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง "อ้าว! นายหญิงจะไปไหนคะ" นิตยาหลานสาวป้าเอียดเอ่ยถาม "ทำไปสวนจ๊ะ" นับดาวเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มมาให้ "นายหญิงจะทำได้ยังไง ตัวเล็กบอบบางขนาดนี้" นิตยาอดห่วงไม่ได้จึงเอ่ยออกมา "ไม่เป็นไรจ๊ะนิด เป็นเมียนายหัวตะวันต้องทำได้ทุกอย่างจ๊ะ" ร่างเล็กสนทนากันพร้อมแอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคน ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหารกำลังยกถ้วยกาแฟเข้าปากกลืนลงคอแทบสำลัก ก่อนนายหัวตะวันจะลุกขึ้น แล้วก้าวเดินไปขึ้นรถ "เสร็จแล้วก็ไปขึ้นรถฉันจะเข้าสวนแล้ว" เสียงห้วนสั้นเอ่ย นับดาวก้าวเท้าเดินตามมาติด ๆ เมื่อเห็นนายหัวติดเครื่องยนต์ก็ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลัง "นี่เธอ!! มานั่งข้างหน้าฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอน่ะ" เสียงเข้มขุ่นเอ่ยสั่ง "นั่งหน้าหรือหลังก็เหมือนกันแหละ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน" เสียงเล็กเอ่ยบ่นห้วนบ้าง "ก็เธอเป็นเมียฉัน จะไปนั่งด้านหลังคนงานก็นินทาเอานะสิ" เสียงทุ้มเอ่ยห้วนจัด "ยัง!! ฉันยังไม่ได้เป็นเมียใครโปรดเข้าใจด้วย" เสียงเล็กกระแทกเสียงห้วนขึ้น "หรือเธอคงอยาก!..ได้ฉันเป็นผัว…แล้วสิ" พูดลากเสียงยานเย้นหยันออกมา ร่างเล็กได้แต่กำมือแน่นพร้อมทะลึ่งตาใส่ แล้วก้าวลงมาเปิดประตูด้านหน้าก้าวขึ้นนั่งพร้อมกระแทกประตูปิดลงเสียงดังโครมใหญ่ รถแล่นออกมาไม่นานก็มาจอดไว้ใต้ร่มทุเรียน นายหัวก้าวเท้าลงจากรถ แล้วเดินมาหาคนงานชายหญิงที่กำลังตัดเก็บลูกทุเรียนอยู่ นับดาวก็ก้าวลงตามมาติด ๆ "ให้ดาวช่วยนะคะ" ร่างเล็กเอ่ยพูดกับคนงาน ทุกสายตาหันมาจ้องมองร่างเล็ก ที่มีผิวพรรณขาวผ่องนิ้วเรียวเหมือนลำเทียน แถมขณะนี้แสงตะวันที่ส่องแสงลงมาเริ่มแรงกล้า เมื่อปะทะผิวขาวสวย ยิ่งเพิ่มความเปล่งปลั่งออกสีแดงระเรื่อน่ามองไปหมด "นายหญิง!.อย่าทำเลยไม่ไหวหรอกครับ" เสียงคนงานชายเอ่ย เมื่อจ้องมองหน้าตาและผิวพรรณที่ต่างไปจากคนงานทั่วไป "ไอ้ก้อง!..อย่าขัดมีคนมาช่วยมึงไม่ดีหรือไง?" เสียงคุ้นหูตวาดขึ้น ไอ้ก้องรีบปล่อยตะกร้าหวายลงอย่างไว หัวหน้าคนงานรีบส่งถุงมือหนาให้นายหญิงด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นมือเรียวเล็กหยิบจับผลทุเรียนไม่ถนัด "ขอบคุณมากค่ะพี่ก้อง" นับดาวกล่าวขอบคุณ ก่อนจะช่วยหยิบจับผลทุเรียนลงตะกร้าเบา ๆ นายหัวหันมองแก้มแดงใส ที่กำลังแดงระเรื่อเมื่อยามโดนแดด และมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามใบหน้า ทำให้ผิวที่สวยสุขภาพดีอยู่แล้วยิ่งเพิ่มสีสันให้ผู้ที่พบเห็นกลับจ้องมองเข้าไปอีก ไม่เว้นแม้กระทั้งนายหัวตะวันที่เฝ้าจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างตลึงงัน สายตาแทบไม่กระพริบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสวยมีเสน่ห์ชวนให้ใครต่อใครหลงใหลได้ขนาดนี้ นับดาวช่วยงานไม่มีการบ่นสักนิด ร่างเล็กทำไปเรื่อย ๆ เมื่อยามเหงื่อไหลซึมมือเรียวเล็กพยายามใช้แขนเล็กปาดเหงื่อออก แล้วส่งยิ้มพราวให้คนงานชายหญิงที่ทำงานอยู่ด้วยกันอย่างเป็นกันเอง "นายหัว!..นายหัวครับ" ไอ้ก้องเอ่ยเรียกซ้ำ ๆ จนร่างสูงใหญ่หลุดจากภวังค์ "อะไร? มึงจะเรียกทำไม?" ยามได้สตินายหัวก็หันมาหาไอ้ก้อง "ผมจะบอกว่า ทำไมนายหัวไม่ส่งหมวกให้นายหญิงใส่" เป็นไอ้ก้องเสียอีกที่ดูท่าทางจะห่วงนายหญิงมากกว่าใคร ก่อนนายหัวจะถอดหมวกของตัวเองเดินไปสวมใส่ให้คนร่างเล็กที่ยืนทำงานอยู่ตรงข้ามกัน นับดาวไม่ปริปากขอบคุณหรือโต้แย้งใด ๆ ออกมา เธอคงช่วยคนงานทำงานไปเรื่อย ๆ คงเป็นนายหัวตะวันเสียเอง ที่ทนไม่ไหวเป็นคนเอ่ยออกมา "พวกเราพักกันเถอะ แล้วบ่ายค่อยมาทำต่อ" เสียงทรงอำนาจเอ่ย มีไอ้ก้องที่ผ่อนคลายความตึงเครียดออกมา เมื่อเห็นนายหญิงมีใบหน้าแดงเข้มจัดขึ้นเพราะแดดแรง นายหัวพร้อมนับดาวขึ้นรถกลับมาถึงบ้าน ร่างเล็กเดินตรงไปยังห้องน้ำ "จะเข้าไปทำอะไร?" เสียงทุ้มเอ่ยนุ่มนวลขึ้น "เข้าห้องน้ำ!..ก็ต้องไปล้างหน้าฉันร้อน" เสียงเล็กเอ่ยขึ้นก่อนเปิดประตูเข้าห้องน้ำ "ยังไม่ต้องล้างหน้านะ ออกมานั่งพักสักระยะก่อน" เสียงเข้มเอ่ยดัง ๆ ให้คนด้านในได้ยินชัดเจน คนร่างเล็กด้านในได้ยินเต็มสองหู ก่อนจะยิ้มออกมา'นี่เป็นห่วงกันด้วยเหรอขี้เก๊กชะมัด!'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD