6 แค่คุณ 25++

1988 Words
และหลังจากวันนั้น เพชรภีระก็แทบไม่ยอมให้ตะวันห่างกาย เขาเข้าไปที่ศูนย์วิจัยทุกวัน ถึงแม้จะต้องไปทำงานที่อื่นด้วยแต่เขาก็ยังแวะเข้าไปหาตะวัน จนทุกคนที่ศูนย์วิจัยต่างรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง แต่ก็ไม่กล้าวิจารณ์อะไรมากมาย ส่วนตะวันเองทีแรกเธอทั้งโกรธทั้งไม่พอใจแต่สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ให้กับเขาและใจตัวเองเมื่อทุกครั้งที่ได้อยู่กับเขานั้นเธอมีความสุขเหลือเกิน “จะไปไหนอีก คุณจะลากฉันไปโน่นมานี่ตามอำเภอใจไม่ได้นะ ฉันมาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยวเล่น” เสียงบ่นของตะวันดังขึ้นเมื่อกำลังถูกพาตัวไปที่ไหนเธอก็ไม่รู้ พอเลิกงานเขาก็มารับเธอเหมือนทุกๆวันแต่วันนี้เขากลับเอาชุดสวยหรูมาให้เธอใส่นี่สิ ที่เธอเป็นกังวล “ก็ผมไม่มีคู่ควง เอาน่า แค่ไปทักทายคนในงานไม่นานหรอก” “ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ คุณก็มีคู่ควงเยอะแยะ” “อะไรกัน หึงเหรอ?” “หึงบ้าอะไรกัน!” “แบบผมน่ะ จะหาใครไปงานด้วยก็ได้ แต่ผมมีคุณแล้วผมจะไปกับคนอื่นทำไม” และการโต้เถียงกันก็หยุดลงแค่นั้น เมื่อสิ่งที่เขาพูดออกมาทำเอาหน้าขาวๆเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงงานเลี้ยง ที่มีแต่พวกนักธุรกิจและคนมีชื่อเสียงของประเทศมาร่วมงาน “กอดผมเอาไว้แน่นๆนะ เดี๋ยวคนอื่นมาแย่งไป” “ไปง่ายขนาดนั้นก็ไปสิ ชิส์” พอเดินลงรถ เพชรภีระก็อดที่จะแกล้งแหย่ตะวันไม่ได้ ก่อนทั้งสองจะเดินเข้าไปในงานโดยมีสายตานับร้อยพากันจับจ้อง เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เพชรภีระควงเธอออกงาน ทำเอาหลายคนต่างพากันสงสัยว่าเธอคือใครกัน เมื่อดูท่าทาเพชรภีระดูหวงแหนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน “อ่าว นี่คงเป็นว่าที่น้องสะใภ้….ใช่ไหม?” และคนแรกที่เดินเข้าไปทักก็คือเรเชล พี่สาวสุดแสบของเขาที่มากับว่าที่พี่เขยของเขา “นี่เรเชล พี่สาวของผมเอง” เพชรภีระแนะนำออกมา “ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะ” ตะวันก็ยิ้มให้และทักทายอย่างเป็นกันเอง ทำเอาเพชรภีระมองสองสาวอย่างไม่เข้าใจ “ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันที่นี่ เอาไว้ว่างๆเรามาดวลเหล้ากันอีกสักรอบนะ” “ได้สิคะ ฮ่าฮ่าฮ่า” สองสาวต่างมองหน้ากันอย่างเข้าใจในสิ่งที่พูด ก่อนที่เรเชลจะขอตัวเดินออกไป ปล่อยให้เพชรภีระได้แต่มองอย่างมึนงง “อะไรกัน...” เขาถามขึ้น “ก็งานแต่งของฝันไง ฉันกับพี่สาวคุณน่ะดวลเหล้ากัน แต่ไม่มีคนชนะ เมากันก่อน” “อ้อออ” และเขาก็เข้าใจ เมื่อวันนั้นเธอเมามากจนจำอะไรไม่ได้ ขนาดนอนกับเขาเธอยังจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นเพชรภีระก็ควงตะวันไปทักทายคนในงาน ที่เขาบอกว่าแค่แปปเดียวนั้นแค่เรื่องโกหก เมื่อกว่าจะเสร็จก็ค่อนคืน ดีที่พรุ่งนี้วันหยุดของเธอ “จะรีบกลับไปไหนคะภีร์ ยังไม่ทักทายอลิซเลย” ขณะที่กำลังจะพาตะวันกลับออกจากงาน อลิซที่รอเวลามานานก็รีบเดินเข้ามาหาทำเอาเพชรภีระได้แต่ถอนหายใจ “ผมกำลังจะกลับ มีอะไรรึเปล่า” เขาหันไปหาอลิซแล้วถามขึ้น “อลิซแค่คิดถึง ไม่ได้...เอ่อ กันนานแล้ว...ตอนไหนจะไปหาอลิซอีกคะ?” อลิซพูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้สนใจอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยเลยสักนิด ซึ่งตะวันเองก็กำลังกำหมัดแน่น เมื่อไม่นึกว่าจะถูกมองข้ามเหมือนเป็นแค่ลมก็ไม่ปาน “ช่วงนี้ผมไม่ว่าง คงต้องของตัว” “แต่อลิซว่าง...คืนนี้ก็ว่าง...” อลิซยังคงตื๊อไม่เลิกเมื่อเธอนั้นแทบนั่งไม่ติดตั้งแต่เกรย์เอาเรื่องของเพชรภีระกับตะวันมาเล่าให้ฟังแล้วแต่เธอแค่ไม่มีหนทางที่จะมาหาหรือเข้าหาเขาเท่านั้นเอง “ผมพูดชัดแล้ว...ไปกันเถอะ” เพชรภีระบอกขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับเดินมาโอบเอวตะวันแล้วพาเดินออกจากงานไป ปล่อยให้ อลิซได้แต่มองตามอย่างเจ็บใจระคนแค้นใจ “ปล่อยได้แล้ว” พอเดินมาถึงรถ ตะวันก็รีบสะบัดตัวออกจากแขนของเพชรภีระแล้วเดินขึ้นรถไป ทำเอาเพชรภีระได้แต่มองตามอย่างหนักใจ แล้วเดินตามเธอขึ้นไป “กลับไปเถอะ วันนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว” พอมาถึงบ้านพัก ตะวันก็รีบบอกแล้วเดินหนีเข้าบ้านไปทันที “เอ่อ จะให้กลับเลยไหมครับ” เดวิดที่เป็นคนขับรถอดถามเจ้านายไม่ได้ “แบบนั้นคือหึงเหรอ?” เพชรภีระถามออกมา ทำเอาเดวิดถึงกับส่ายหัว เมื่อเจ้านายผู้มีคู่ควงนับร้อยแต่กลับไม่เข้าใจผู้หญิง “หึงมากด้วย” เดวิดบอกออกมา ทำเอาเพชรภีระถึงกับมองตามหลังของตะวันเข้าไป แล้วเขาควรทำยังไงละทีนี้ “คิดถึง...ไม่ได้ เอ่อ กันนาน...ชิส์!!! เอ่อ อ่อ อะไรล่ะ เอากันก็พูดว่าเอากันสิ! บ้าเอ้ย!” พอเข้ามาในบ้าน อารมณ์คุกกรุ่นก็ถูกระบายออกมาทันที ตะวันรีบถอดชุดที่เขาให้เธอใส่ไปงานออกด้วยความกระฟัดกระเฟียดจนมันขาดผิดรูป เธอโกรธ เธอโมโหจนไม่รู้จะระบายกับใครเลยได้แต่เดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำระงับความโกรธ “เฮ้ออออ ค่อยยังชั่วหน่อย” พออาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมาอย่างเริ่มอารมณ์ดีขึ้น “เลิกหงุดหงิดแล้วเหรอ?” “เฮ้ย! คุณ! ทำไมไม่กลับล่ะ แล้วเข้ามาทำไม แล้วเข้ามาได้ยังไงกัน?” ตะวันถึงกับตกใจเมื่อคนที่นึกว่ากลับไปแล้วกลับยืนกอดอกนิ่งอยู่หน้าห้องนอนของเธอ “ทีละคำถามสิ ผมบอกตอนไหนว่าจะกลับ แล้วนี่บ้านของผม ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้” “คุณ...” อีตาบ้า!... ตะวันได้แต่คิดโมโหในใจเมื่อทำอะไรเขาไม่ได้ คุณหมอสาวเดินไปค้นหาชุดนอนที่เธอคิดว่ามิดชิดที่สุดมาใส่โดยไม่สนใจอีกคนที่ยังยืนมองอยู่ จนกระทั่งแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินมาล้มตัวลงนอนเขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิม “หึงรึเปล่า?” “................” เพชรภีระถามออกมาทำเอาคนที่กำลังจะหลับตาถึงกับเบิกตากว้าง “หึหึ คุณหึงผมกับอลิซเหรอ?” “พูดบ้าอะไรของคุณ ฉันจะนอนอย่ากวน” เพชรภีระอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อแค่ดูจากท่าทางของเธอในตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังหึงเขาอย่างแน่นอน “ผมกับเธอเราจบกันไปแล้ว ตอนนี้ผมมีแค่คุณ” เขาบอกพร้อมกับเดินเข้ามาหา “ฉันไม่อยากรู้ อีกแค่สองอาทิตย์ฉันก็กลับแล้ว คุณจะไปทำอะไร มีใครอีกกี่คนก็เรื่องของคุณสิ” “อืมมม ก็จริง เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ผมจะมีผู้หญิงบนเตียงอีกสักร้อยคนคุณก็คงไม่เดือดร้อน...ก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องกังวล” เขาแกล้งพูดออกมาและมันก็ทำให้ตะวันหัวเสียจนอารมณ์โกรธที่พึ่งถูกบรรเทาได้กลับมาอีกครั้งเพราะคำพูดของเขา “หุบปากแล้วออกไป! ไปหาผู้หญิงพวกนั้นของคุณไป!” เธอเผลอตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับซุกหน้าหันหนีเขาเมื่อโกรธที่เขาพูดแบบนั้น ตอนนี้เธอทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งหึงหวง อยู่กับเธอแท้ๆยังจะมาบอกว่าจะไปมีผู้หญิงอื่นเพิ่มอีก “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ผมแค่ล้อเล่น” พรึ่บ! หมับ! “อ๊ายยยย! ออกไปนะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน อีตาบ้า! ออกไปนะๆๆๆ!” เพชรภีระกอดกระชับร่างบางที่เอาแต่ดิ้นหนีเอาไว้แน่นเมื่อพอเขาล้มตัวลงนอนเธอก็เล่นขัดขืนไม่ยอมให้เขาได้แตะต้องเธอได้ง่ายๆ “โธ่ ผมแค่ล้อเล่น โอ๊ย หยุดดิ้นได้แล้ว อื้อ บอกให้หยุดดิ้น!” เพชรภีระที่เริ่มเจ็บกับการดิ้นรนของตะวันเลยจับร่างบางกดแน่นเอาไว้กับเตียงจนตะวันต้องนอนนิ่งเพราะยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งเจ็บ เขาจับจ้องมองหน้าสวยที่ไร้การตกแต่งนิ่ง ส่วนตะวันก็ไม่ต่างกัน เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง “ผมแค่พูดเล่น อยากลองใจว่าคุณจะหึงผมรึเปล่าก็แค่นั้น ไม่ได้จะทำจริงๆ” “ไม่เชื่อ” “เชื่อสิ...” “ไม่...” “งั้นเดี๋ยวผมทำให้คุณเชื่อเอง” “อ๊ายยย” พูดจบเพชรภีระก็กดจูบลงไปบนแก้มเนียนที่หอมหวนไปด้วยกลิ่นดอกไม้จากครีมอาบน้ำของเธอ ตะวันรีบหันหน้าหลบแต่ก็ได้เพียงไม่นาน เมื่อยังไงเธอก็พ่ายแพ้แก่เขาอยู่วันยังค่ำ “อึ๊! อื้อออ” ตุ๊บๆๆๆ เสียงกำปั้นทุบลงไปบนไหล่กว้างเมื่อถูกลุกล้ำปากบาง เพชรภีระตวัดลิ้นสอดใส่เข้าไปเชยชิมเธออย่างกระหายอยาก เมื่อกินเท่าไหร่เขาก็ไม่รู้สึกว่าอิ่มเอมเลยสักครั้ง “จุ๊บๆๆๆ อื้มมม จ๊วบๆๆๆ” เสียงจูบอันพึ่งพอใจของเพชรภีระดังขึ้น มือใหญ่ล้วงเข้าไปในชุดนอนขายาวแขนยาวของเธอก่อนจะรู้สึกขัดใจกับมัน เมื่อรู้ว่าเขาต้องใช้เวลามากกว่าปกติในการที่จะได้เชยชิมเธอ “ฮึ่ม!!!” แคว๊ก!!! เมื่อเริ่มหงุดหงิดกับชุดนอนของเธอ สุดท้ายเขาก็ดึงชุดนอนของตะวันด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนมันขาดติดมือออกมา “โรคจิต...อื้อออ” ตะวันอดที่จะเอ่ยว่าไม่ได้ แต่พอพูดจบเธอก็ต้องเปลี่ยนเป็นครางแทนเมื่อปากร้อนจาบจ้วงลงมาหากลางกายสาวก่อนจะกลืนกินมันอย่างหนักหน่วง ตะวันบิดเร้าร่างกายไปมาอย่างเสียวซ่านและทรมานเมื่อจุดกระสันถูกเขากลืนกินไม่หยุด “อ๊าๆๆๆ คะ...คุณอื้อออ ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ! อ๊าาา” เสียงตะวันบอกขึ้นก่อนจะถูกส่งไปเยือนสวรรค์ด้วยปากร้อนของเพชรภีระ “เชื่อรึยัง ว่าผมมีแค่คุณ...” เพชรภีระยกตัวมองหน้าหวานที่หลับพริ้มหลังจากพึ่งปลดปล่อยแล้วกระซิบถามขึ้น แต่ตะวันไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะไร้เรี่ยวแรง สวบบบบบ!! “อ๊ะ! อ๊า...อื้อออ” และยังไม่ทันได้พัก ตะวันก็ต้องปล่อยเสียงครางออกมาอีกครั้งเมื่อถูกสอดใส่เข้าไปในร่องรักสาวอย่างหนักหน่วงเพราะเพชรภีระนั้นต้องการเธอแทบทนไม่ไหว เขาจาบจ้วงหนักหน่วงพร้อมกับโอบกอดยกร่างบางของตะวันขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งตะวันเองก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ร่างบางเริ่มโยกไหวส่ายกระชั้นไปบนร่างใหญ่ที่เขากำลังเมามันอยู่กับสองเต้าอวบของเธอ เธอยกมือขึ้นกอบกำกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของเขาแล้วกดให้เขาแนบชิดจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมผ่าน ถึงแม้ทุกครั้งที่มีอะไรกับเขา เธออยากปฏิเสธแต่ทั้งร่างกายและหัวใจกลับยอมศิโรราบเขาทุกครั้งอย่างไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ จากนั้นบทรักอันยาวนานก็เริ่มต้นขึ้นเหมือนทุกๆคืนที่ผ่านมา เมื่อความต้องการอันไม่มีที่สิ้นสุดของทั้งสองถูกปลุกขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD