4 จัดหนัก 25++

3052 Words
และหลังจากวันแรกที่เริ่มศึกษาดูงาน ตะวันก็ค่อยๆปรับตัวเข้ากับคนที่นี่ จากที่คิดว่ามีคนทำงานไม่กี่คนเธอต้องคิดใหม่เพราะทุกคนส่วนมากจะรวมตัวกันอยู่ที่ห้องวิจัย มีห้องสมุดขนาดใหญ่เพื่อทำงานด้วยกันแทน และตอนนี้เธอก็ชอบงานที่นี่มาก ทุกคนเป็นมิตรและช่วยแนะนำเธอหลายๆอย่าง จนตะวันเริ่มเข้ากับทุกคนได้ “ซันครับ วันนี้เรามีมีตติ้งกันที่ อ้อ คุณน่าจะไม่รู้เดี๋ยวไปรถผมกันดีกว่า” หลังจากทำงานได้เข้าวันที่ 3 เกรย์ที่เดินเข้ามาหาตะวันเพื่อแจ้งเรื่องการสังสรรค์ประจำเดือนเมื่อทุกๆเดือนเจ้านายของพวกเขาจะจัดสรรงบให้กับพนักงานได้คลายเครียดกันอย่างเต็มที่ พอตกเย็นก็ดูเหมือนทุกๆคนจะพากันเลิกงานตรงเวลาและจุดหมายเดียวกันคือร้านอาหารกึ่งผับที่ถูกจองเอาไว้เพื่อพนักงานของที่นี่โดยเฉพาะ “ทำไมเหมือนงานยังไม่เริ่มเลยล่ะคะ หรือว่ารอใครอยู่” พอเข้ามานั่งในร้านได้สักพัก ตะวันที่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยหันไปถามเกรย์ที่นั่งอยู่ข้างเธอ “อ้อ ผมลืมบอกใช่ไหมครับ ทุกครั้งที่มีมีตติ้งเราต้องรอบอสมาเปิดงานน่ะครับ ปกติเราจะได้เจอบอสก็วันมีตติ้งนี่แหละครับ น่าจะอีก...อ้อ นั่นไงครับ บอสมาแล้ว” เกรย์อธิบายออกมา ก่อนจะมองไปทางประตูทางเข้าที่ตอนนี้ร่างใหญ่ของผู้เป็นเจ้านายกำลังเดินเข้ามา ตะวันที่มองไปตามที่เกรย์บอกถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อคนที่เธอไม่เคยลืมอย่างเพชรภีระดันเป็นคนที่ทุกคนในนี้รอคอย ส่วนเพชรภีระ เขารู้อยู่แล้วว่าวันนี้คือวันที่ต้องเผชิญหน้ากับตะวันทั้งๆที่เขาแอบมองเธอทุกวันตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่แต่แค่ไม่เคยปรากฏตัวให้เธอได้เห็นก็เท่านั้นเอง “เชิญนั่ง ตามสบายกันเลย” เขาบอกทุกคน ก่อนจะเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเธอ ทำเอาตะวันถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินว่าคุณเป็นทีมนักวิจัยที่มาดูงานที่นี่...ผมเพชรภีระ ยินดีที่ได้เจอครับ” เพชรภีระยกยิ้มแล้วยื่นมือออกไปเพื่อทักทายตะวัน ทำเอาหญิงสาวแทบไปไม่เป็นมองจ้องหน้าเขาอย่างต้องการค้นหา เมื่อแน่ใจว่าคนตรงหน้าคือเพชรภีระที่เธอรู้จักอย่างแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงทำเหมือนไม่รู้จักเธอเสียอย่างนั้น “อ่าว สงสัยตะลึงในความหล่อของบอสใช่ไหมครับเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า” เกรย์ที่เห็นว่าตะวันนั่งนิ่งเลยรีบเอ่ยขึ้น ก่อนที่ตะวันจะยื่นมือเข้าไปจับทักทายเหมือนคนพึ่งรู้จักกัน ในเมื่อเขาไม่รู้จักเธอ เธอเองก็จะทำเหมือนว่าไม่รู้จักเขาเหมือนกัน “ค่ะ ฉันตะวัน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “..................” พอเห็นว่าเธอเองก็เอ่ยทักทายเขาเหมือนคนพึ่งรู้จักกัน เพชรภีระก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบตึงทันที ส่วนตะวันพอทักทายเขาเสร็จเธอก็นั่งลงแล้วหันไปคุยกับเกรย์ทำเอาเพชรภีระยิ่งเดือดดาลเข้าไปอีก เมื่ออุตส่ามาด้วยความรู้สึกที่เป็นต่อแท้ๆแต่กลับต้องกลายเป็นเดือดดาลแทน “ดูคุณสองคนจะสนิทกันมาก...” เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อมองชายหญิงตรงหน้าที่พูดคุยหัวร่อต่อกระซิกเหมือนทั้งโต๊ะมีเพียงสองคน “อ้อ เอ่อ ครับ พอดีเราค่อนข้างเข้ากันได้...แล้วอีกอย่าง...” เกรย์ที่เห็นเจ้านายถามเลยหันมาตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและมีความสุขอย่างปิดไม่มิดเมื่อเขานั้นชอบตะวันอย่างที่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อน “หึ! อย่างนั้นเหรอ...ก็ดี เธอจะได้ไม่เหงา” เพชรภีระบอกออกมาแค่นั้นก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มด้วยความโมโหหึง เมื่อตะวันไม่ได้ปฏิเสธแถมตอนนี้ยังทำเหมือนไม่รู้จักเขาอยู่อีก สองตาคมจับจ้องมองตะวันนิ่ง เขาดูทุกการกระทำของเธอด้วยความโกรธเคือง จนกระทั่งดึกดื่นเขาก็เอ่ยลาแล้วขอตัวกลับ “เฮ้ออออ เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ทำไมอีตาบ้านั่นถึง...” พอเห็นว่าเพชรภีระกลับไป ตะวันก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับถอนหายใจระบายเอาความอัดอั้นตันใจทั้งหมดที่มีออกมา เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่เลยสักนิดทั้งๆที่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่ในประเทศนี้ก็ตามที จนกระทั่งวันนี้ที่เขามาปรากฏตัว “ทำไมเหรอ? ไม่คิดว่าจะเจอผมที่นี่รึไง” “คุณ!!” ขณะที่กำลังคิดเรื่องของเพชรภีระ อยู่ดีๆเขาก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังแล้วเดินเข้ามาหาเธอ ทำเอาตะวันถึงกับรีบหันไปมอง สองตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “หึ...ไม่กี่เดือนก็จำผมไม่ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ...สงสัยต้องเตือนความจำสักหน่อยจะได้ไม่ลืมผมอีก” เขาบอกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าหา ทำเอาตะวันรีบถอยหนีด้วยความตกใจระคนหวาดกลัวเพราะตอนนี้ท่าทีที่เขาแสดงออกนั้นมันตรงข้ามกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาอย่างสิ้นเชิง เธอมองหาคนช่วยแต่ดูท่าจะไร้หนทางเมื่อแทบไม่มีใครเดินมาทางหลังร้านเลยสักคน “ออกไปนะ อย่าเข้ามา” เสียงสั่นๆของตะวันรีบบอก “ทำไม หรือจะรีบออกไปหาผู้ชายที่โต๊ะนั่น หรือว่าคุณกับมัน...” “หยุดนะ!! หุบปากเน่าๆแล้วถอยไป ฉันไม่อยากคุยกับคุณ!” “ใครบอกผมจะมาคุย ผมอยากทำอย่างอื่นมากกว่า” เขาไม่สนใจเดินเข้าไปจนชิด ก่อนจะรวบตึงมือของเธอเอาไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะยกขึ้นผลักเขา “นี่! ปล่อยนะ!” “จะไปกับผมหรืออยากอยู่ต่อตรงนี้” เขาก้มลงมากระซิบบอกเธอพร้อมกับจับแขนของเธอเอาไว้แน่น ทำเอาตะวันถึงกับคิดหนัก เมื่อทุกอย่างในตอนนี้มันช่างดูเหมือนไม่เข้าข้างเธอเลยสักอย่าง และสุดท้ายเธอก็ต้องจำยอมเดินตามเขาออกมาซึ่งจะให้พูดง่ายๆก็คือถูกเขาลากจูงออกจากร้านโดยไม่ได้ล่ำลาใครเลยสักคนมากกว่า “ไปบ้านพักของเธอ” พอขึ้นมาบนรถกันแล้ว เพชรภีระก็สั่งออกมา ซึ่งมันทำให้ตะวันยิ่งแปลกใจเมื่อเขารู้ว่าเธอมีบ้านพักอยู่ที่นี่แสดงว่าเขาก็คงรู้ถึงการมาเยือนที่นี่ของเธออย่างแน่นอน “ทำไมยังไม่กลับมาอีก...เดี๋ยวผมไปดูซันก่อนนะ” ทางด้านเกรย์ เมื่อเห็นว่าตะวันไม่กลับมาที่โต๊ะสักทีเลยเดินออกไปตาม และพอมาถึงห้องน้ำเขาก็ไม่เจอเธอชายหนุ่มเลยเดินตามหาไปจนทั่วร้านแต่ก็ยังไม่เจออีกเขาเลยเดินกลับมาที่โต๊ะ “ของก็อยู่นี่...แล้วเธอไปไหนกัน” พอกลับมาก็เห็นว่ากระเป๋าของเธอยังอยู่แต่เจ้าตัวกลับหายไป เกรย์ที่เริ่มใจไม่ดีเลยตัดสินใจขอตัวกลับพร้อมกับเอากระเป๋าของตะวันไปด้วย “ลงมา” ทางด้านตะวันที่ถูกพามาจนถึงบ้านพักของเธอกำลังมองเขาอย่างตกตะลึง เขารู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งว่าเธอพักอยู่ที่ไหน “ทุกอย่าง...คุณรู้ทุกอย่างสินะ” เธอถามออกมา “จะลงมาเองหรือให้ผมอุ้มลง” เพชรภีระไม่สนใจคำถามของเธอ เขาเดินลงไปแล้วทำท่าจะอุ้มเธออย่างที่พูดแต่ตะวันรีบลงมาจากรถแล้วเดินนำเขาเข้าไปในบ้านพัก เมื่อเธอเองก็ต้องการรู้ความจริงทั้งหมด เพราะคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน “มันเป็นแผนของคุณใช่ไหม?” พอเดินเข้ามาในบ้าน เธอก็เริ่มต้นคำถามทันที “ก็...ประมาณนั้น” เขาบอกอย่างไม่รู้สึกว่าทำผิดอะไร “ทั้งเรื่องที่ฉันต้องมาดูงานที่นี่...ทั้งหมดเป็นแผนของคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ก็...ใช่” เขายอมรับทั้งหมดออกมาอย่างไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวต่างจากตะวันที่ตอนนี้กำลังโกรธจัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอกำลังถูกหลอก ไม่สิ เธอถูกเขาหลอกมานานแล้วต่างหาก “ทำไม คุณทำแบบนั้นทำไมห๊ะ!” เธอตะคอกถามเสียงดัง “เพราะคุณไง ผมต้องการคุณเลยทำเรื่องทุกอย่างขึ้นมา” พอได้ยินที่เขาพูด คุณหมอสาวถึงกับพูดไม่ออก “ผมขอโทษที่ไม่ได้กลับไปหา และผมก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ผมทำเรื่องทุกอย่างขึ้นมาก็เพราะคุณ...ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม?” “คุณมัน อื้อออออออ” ปากที่กำลังจะต่อว่าถูกแทนที่ด้วยปากร้อนที่กดจูบลงมาอย่างรวดเร็ว เรียวลิ้นสากตวัดลึกควานหาความหอมหวานที่เขาโหยหาอย่างบ้าคลั่งจนตะวันที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อความเร่าร้อนที่เขามอบให้ทำให้ความต้องการในกายของเธอถูกปลุกขึ้นมา “อื้อๆๆๆ” ปึก ปึก ปึก สองมือเล็กเริ่มทุบตีเขาเมื่อเพชรภีระเริ่มลูบไล้มือลามไปบนร่างกายของเธอทั้งปากร้อนที่ตักตวงหนักหน่วงจนเธอแทบหายใจไม่ทันนั่นอีก ผลัก!!! เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออก เมื่อดูท่าเขาจะไม่ได้แค่อยากจูบเธอเสียแล้ว “หยุด!! นี่คุณทำบ้าอะไรห๊ะ!!” พอผลักเขาออกได้ ตะวันก็ตะคอกถามเสียงดัง “อ่าว ก็จูบไง แล้วจากนั้นก็จะทำ...” “หยุด! หยุดพูดบ้าๆเดี๋ยวนี้นะ!” “ก็จะทำอย่างอื่นก็ไม่ให้ทำ พอจะพูดก็ห้ามอีก” ตะวันมองค้อนเขายกใหญ่ เมื่อเขาไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง ยังไม่ทันที่จะได้โต้เถียงกันมากไปกว่านั้น เสียงกดกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นเสียก่อน “ซัน...อยู่ที่นี่รึเปล่า...ซัน...” เป็นเกรย์ที่เป็นห่วงเพราะตะวันหายตัวไปเลยลองมาดูที่บ้านพัก เขาตะโกนเรียกพร้อมกับพยายามมองเข้ามาด้านใน “กะ...” “หยุด!” ตะวันที่กำลังจะตอบรับต้องหุบปากลงแทบไม่ทันด้วยเสียงขู่ของเพชรภีระ “ซัน! หรือว่ายังไม่กลับ...แล้วไปไหนกัน ของก็ไม่ได้เอาไปจะไปไหนได้...” เกรย์ที่สงสัยถึงการหายตัวไปของตะวันได้แต่เดินกลับออกไป ส่วนคนด้านในกำลังกัดฟันแน่นอย่างโกรธเคือง “เป็นบ้าอะไรของคุณ! กลับไปเลยไปฉันจะพักผ่อน” “ทำไม หรืออยากให้คนข้างนอกนั่นเข้ามาแทนอย่างนั้นเหรอ?” “คุณ!” “ผมอยากได้คำตอบ” “คำตอบ? ตอบอะไร?” “หรือต้องให้ทวนความจำก่อนจริงๆคุณถึงจะจำได้” “ไม่!...ไม่ต้อง...” ไม่พูดเปล่า แต่เขายังจะเดินเข้ามาหาเธออีก ทำเอาตะวันรีบบอกให้เขาหยุดเมื่อเธอนั้นจำได้อย่างแม่นยำถึงสิ่งที่เขาถาม “คำตอบของฉันคือ ไม่ ฉันไม่ตกลง ฉันจะไม่ยอมเป็นอะไรกับคุณทั้งนั้น” เธอบอกออกมาอย่างชัดเจน ทำเอาคนฟังถึงกับเดือดดาลเมื่อไม่เคยคิดว่าจะถูกปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนี้เลยสักนิด “อย่างนั้นเหรอ? แล้วผมต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้คุณปฏิเสธผมได้...บอกมาสิ...” “ไม่...ไม่มีทาง คุณกลับไปเถอะ” พูดจบตะวันก็ตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเข้าห้องเมื่อเธอไม่อยากคุยกับเขามากไปกว่านี้แล้ว เขาหายไปนานหลายเดือนอยู่ดีๆก็โผล่มาแล้วพบว่าเธอกำลังถูกเขาหลอกอีก หมับ! “ผมลงทุนถึงขนาดนี้แล้ว คิดว่าผมจะปล่อยคุณไปแบบนี้เหรอ” เขาเอื้อมมือไปดึงแขนของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้เดินหนี “ผมขอโอกาสอีกครั้ง 3 อาทิตย์...แค่ 3 อาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ ผมจะทำให้คุณยอมรับผมให้ได้” เขาขอร้องออกมาทำเอาตะวันถึงกับคิดหนักเมื่ออันที่จริงแล้ว ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันยังเด่นชัดจนการที่เธอได้เจอกับเขาอีกครั้งมันทำให้เธอทั้งตื่นเต้นแต่ก็โกรธเคืองเขามากจนไม่อยากเจอเขาอีก “ก็ได้ ทีนี้ก็กลับไปได้แล้ว ฉันเหนื่อย” “ใครบอกว่าผมจะกลับ ในเมื่อผมต้องการโอกาสจากคุณ เพราะฉะนั้นผมจะอยู่ที่นี่ ผมจะทำให้คุณยอมเป็นของผมให้ได้” “ห๊ะ...คุณ อ๊ะ อื้อๆๆๆๆ” ตะวันที่ทั้งตกใจทั้งโมโหแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อถูกเขาดึงกระชากเข้ามาจูบอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เต็มไปด้วยการจาบจ้วงเรียกร้องจนเธอไม่สามารถดินหนีหรือผลักเขาออกไปได้ ส่วนเพชรภีระ เขาเสียเวลามามากแล้วกับการโต้เถียงในครั้งนี้ ในเมื่อเวลาแค่ 3 อาทิตย์ที่เขามี เขาจะต้องทำให้เธอรักและยอมเป็นของเขาอย่างหมดใจให้ได้ “อึ๊...อื้อ...” เสียงครางประท้วงเริ่มอ่อนลงเมื่อถูกเขาจูบจาบจ้วงหนักหน่วงจนสุดท้ายตะวันก็ค่อยๆเคลิ้มตามจูบสนองเขากลับอย่างลืมตัว “จุ๊บๆๆๆ จ๊วบๆๆๆ จุ๊บๆ” เสียงจูบซับดังขึ้นไม่หยุด เมื่อตอนนี้ทั้งสองคนได้หลุดเข้าสู่ห้วงเสน่หาของกันและกัน เพชรภีระดันร่างบางอ่อนระทวยเข้าไปในห้องนอนของเธอ ที่เขาเป็นคนออกแบบและตกแต่งมันเองกับมือ ก่อนจะดันให้เธอลงไปนอนราบบนที่นอนซึ่งก็เป็นเขาเองที่เลือกมันเพื่อจุดประสงค์พิเศษเมื่อมันเป็นเตียงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับบทรักอันเร่าร้อนและหนักหน่วงได้เป็นอย่างดีเช่นกัน ตุ๊บ... “อยะ...อย่า...” พอจูบจนพอใจ เพชรภีระก็เปลี่ยนเป็นจูบซับลงมาตามสันกรามเล็ก ทำเอาปากที่พึ่งเป็นอิสระอดที่จะเอ่ยห้ามไม่ได้ “อย่าห้ามเลยนะ จุ๊บ ผมต้องการคุณจนจะบ้าอยู่แล้ว...” เขากระซิบบอกพร้อมกับจูบลงมาตามลำคอระหง ก่อนจะหยุดลงที่เนินเนื้อนวลที่โผล่พ้นสาบเสื้อออกมา ส่วนตะวัน พอได้ยินว่าเขาต้องการเธอ ปากเล็กก็แทบพูดไม่ออกเมื่อเธอเองก็ไม่ต่างจากเขา ร่างกายมันสั่นระริกเพียงแค่ถูกเขาสัมผัสอย่างนี้ จากนั้นไม่นานร่างบางก็เปลือยเปล่าด้วยฝีมือของเขา เพชรภีระมองร่างบางที่เขาไม่เคยลืมความหอมหวานที่เคยเชยชิมอย่างนึกชื่นชมเมื่อภายนอกเธอดูผอมแห้งแต่ภายในกลับเต็มอิ่มนวลเนียนจนเขาอดที่จะก้มลงไปดอมดมไม่ได้ “จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บ...” เขาจูบไปตามกายสาวอย่างทะนุถนอมเมื่อสิ่งที่อดทนรอมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ปากร้อนดูดเลียไปตามหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มขนที่ถูกตัดสั้นของเธอ “ไม่นะ...อื้อออ ไม่เอา...” ตะวันที่มองอยู่รีบเอื้อมมือลงมาปิดกุหลาบสาวที่ถูกเขาจับจ้องมองอยู่อย่างนึกอาย “หึหึ อายทำไม มากกว่านี้ก็เคยทำมาแล้ว” เขาปัดมือเธอออกก่อนจะจับขาเรียวยกแยกกว้างเผยให้เห็นความเบ่งบานที่ฉ่ำแฉะรอเขาอยู่ เพชรภีระมองมันด้วยสายตาวาววับ ก่อนจะกดปากจูบลงไปที่ความนุ่มหยุ่นตรงหน้า “จุ๊บ!!” “อ๊ะ! อ๊า...อื้ออออ” เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นไม่หยุดเมื่อถูกจาบจ้วงเลียระริกด้วยลิ้นสากของเขา เธอยังจำสัมผัสนี้ได้เป็นอย่างดี ตะวันค่อยๆปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ ร่างบางแอ่นไหวโยกเสียดสีกับปากร้อนที่กำลังเชยชิมเธออย่างกระหาย จนกระทั่งเธอทนไม่ไหวปลดปล่อยน้ำหวานใสออกมาเมื่อถูกส่งไปเยือนสวรรค์เรียบร้อยแล้ว “อ๊าาาา อื้อออ พะ...พอก่อน อื้อออ” เธอครางบอกเมื่อปลดปล่อยออกมาแล้ว “อื้ม...ยังเหมือนเดิม...” เพชรภีระที่ค่อยๆเอาหน้าออกมาจากกุหลาบสาวก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าของเธอที่พริ้มไหวอิ่มเอมไปด้วยความสุขสม เขาใช้ลิ้นตวัดเลียน้ำรักที่เลอะบนใบหน้าออกทำเอาตะวันถึงกับหน้าแดงกับการกระทำของเขา เพชรภีระค่อยๆยันตัวขึ้นยืน ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของเขาออกแล้วกลับลงมาบนเตียงใหญ่ที่มีร่างเปลือยนอนระทวยอยู่ “รู้ไหมผมรอมานานแค่ไหนที่จะได้อยู่กับคุณแบบนี้” เขาบอกขึ้น “คนโกหก...คุณบอกจะกลับไป...” “ขอโทษ...มีเรื่องที่นี่ ผมเลยต้องจัดการ ไม่คิดว่าคุณจะรอผมด้วย” “ใครรอ...ไม่ใช่สัก อื้อออ” ปากที่กำลังปฏิเสธข้างๆคูๆถูกปิดลง เมื่อยิ่งพูดก็เหมือนเธอยิ่งขุดหลุมฝังตัวเองเมื่อมันแสดงให้เห็นว่าเธอรอเขามาตลอด “โกหกไม่เก่งเลยนะคุณหมอ” สวบ!!! “อ๊ะ! อื้ออออ” และสุดท้าย สองร่างก็ถูกเติมเต็ม เพชรภีระสอดใส่ลำเอ็นใหญ่เข้าไปในร่องสาวรวดเดียวจนสุด ทำเอาคนที่ห่างหายเรื่องบนเตียงมานานอย่างตะวันถึงกับสะดุ้งอ้าปากค้างกับความปวดที่ได้รับก่อนจะกลายเป็นความซ่านสยิว สวบ...สวบ...สวบ... เขาค่อยๆขยับร่างเมื่อรู้ว่าการที่เธอตอดรัดเขามากขนาดนี้เพราะเธอไม่ได้แอบนอกกายไปมีอะไรกับคนอื่น ความคับแน่นที่เขาสัมผัสได้นั้นทำให้เพชรภีระอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก เขาค่อยๆบรรจงจูบลงไปที่ปากเล็กสีซีดของเธอก่อนจะเริ่มขยับหนักหน่วงเมื่อความต้องการที่มีกำลังทำให้เขาทรมาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD