คุณคชากับคุณภรินทร

1219 Words
“ชมพูลูกรัก เรียกคุณน้อยก็ได้ เอ... เรียกแม่น้อยสินะ” “ค่ะ ต้องเรียกแม่น้อย” เธอส่งสายตายินดีออกมาอย่างแท้จริง “ฝากไปหอมแก้มแม่น้อยด้วยนะคะ ขอบคุณที่มีความคิดดี ๆ” ฟอด... ชมพูหอมแก้มของพ่อยกใหญ่ “รักพ่อจัง รักแม่น้อยด้วย” “เรานี่มันช่างประจบจริง ๆ พ่อบอกคุณน้อยแล้ว ว่ามาเจอลูก เธอต้องรักลูก” “มันแน่อยู่แล้วค่ะคุณพ่อ ไม่มีใครน่ารักเท่ากับชมพูอีกแล้วค่ะ” “จ้ะ” คุณพ่อต้องตอบคำถามของลูกสาวช่างซักไปเสียทุกเรื่อง กว่าจะได้ออกจากห้องนอนของพิมพ์เพชร คุณคชาก็เล่าเรื่องราวของภรินทรเท่าที่รู้มาอย่างหมดเปลือก   สี่เดือนต่อมา “อะไรกันนี่ ยายน้อย แกยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่อีกเหรอ” คุณม่านฟ้าต่อว่า เมื่อได้ยินเรื่องราวของลูกสาวจากปากของเธอเอง (“ก็เพราะว่าหนูเห็นว่าแม่เป็นแม่ไงคะ หนูถึงได้บอก”) “ใช่ ฉันเป็นแม่ของแก แกจะแต่งงานใหม่ โดยที่แกไม่คิดจะพาผัวแกมาพบมาเจอหน้าแม่กับลูกชายของแกก่อน ถ้าตาเล็กรู้จะเสียใจแค่ไหน” (“แม่คะ ชีวิตเป็นของหนูนะคะ”) “ก็เพราะแกเห็นแก่ตัวไง แกเลยหาแต่ความสุขของตัวเอง” (“แม่คะ ทำไมพูดแบบนี้ น้อยเสียใจนะคะ”) “ยายน้อยลองทบทวนใหม่” (“แม่คะ นี่เป็นวิธีเดียวที่น้อยจะได้หยุดงาน แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ และจะได้อยู่กับตาเล็ก”) “เหรอ...ฉันนึกว่าที่แกจะแต่งงานใหม่ เพราะต้องการสนองความต้องการของแกเสียอีก” (“แม่...”) ภรินทรเอ่ยออกมาอย่างน้อยอกน้อยใจ น้ำตาของเธอไหลพราก ๆ “คิดว่าดีแล้ว ก็สุดแต่แกจะทำไป ฉันก็ขออวยพรให้แกโชคดี” (“แม่คะ พูดเหมือนกับว่าจะ...”) “ฉันจะขัดอะไรแกได้ ถ้าฉันขัดใจแกได้ตั้งแต่แรก แกคงไม่ทิ้งตาเล็กไป   ตะลอน ๆ ทำงานต่างประเทศ แล้วทิ้งลูกไว้ให้ฉันเลี้ยงตั้งแต่ตัวแดง ๆ” (“หนูรักแม่ แล้วหนูก็รักตาเล็กมาก”) “ย่ะ ฉันจะพยายามเชื่อนะ” (“แม่...”) “แค่นี่แหละ ฉันคงได้เห็นหน้าผัวแก ก่อนที่แกจะจัดงานแต่งงานก็แล้วกัน” ดวงตาของคุณม่านฟ้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางน้ำตาคลอ ตืด....... แล้วสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป (“แม่คะ น้อยรักแม่มากที่สุดในโลก และน้อยก็รักลูกน้อยที่สุดในโลกเหมือนกัน”) ----------------- คชาพบรักกับภรินทรตอนที่ไปติดต่องานที่เมืองฉงชิ่งในประเทศจีน ตอนนั้น ภรินทรตามนายฝรั่งของเธอมาจากฝรั่งเศส เพื่อดูทำเลทองสำหรับการสร้างโรงแรมห้าดาวในมหานครนี้ ส่วนคุณคชาที่กำลังมองหาสินค้าที่จะนำจากจีนส่งไปยังเวียดนาม ซึ่งเป็นธุรกิจที่เขาทำมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว เขาประทับใจเธอตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อได้เจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาได้ยินเธอบ่นเป็นภาษาไทยตอนที่พนักงานเสิร์ฟมารับออร์เดอร์แต่ไม่ได้ดังใจ คชาได้แต่หัวเราะ เลยเดินเข้าไปช่วยสื่อสารให้กับภรินทร นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ตอนนี้ทั้งสองอยู่ด้วยกันที่เวียดนาม คุณภรินทรตัดสินใจลาพักร้อน แต่ไม่กลับเมืองไทย ตัดสินใจเดินทางมาหาคชาก่อน เพื่อวางแผนอนาคตร่วมกัน ทั้งสองตกลงปลงใจกันว่าจะแต่งงานด้วยกัน “เป็นอะไรน่ะคุณ หน้าเครียดจัง” คชานั่งลงใกล้ ๆ พร้อมกับโอบไหล่คนรัก “คุณแม่น่ะค่ะ โกรธน้อยใหญ่เลย ไม่พอใจเรื่องที่น้อยจะแต่งงานกับคุณ” คชามองสบตาแล้วจับมือของภรินทรเอาไว้แน่น “จองตั๋วกลับเมืองไทย พรุ่งนี้เลยไหม จะได้พาผมไปรู้จักกับครอบครัวของคุณด้วย” “โธ่...คุณคชาคะ คุณงานยุ่งจะตาย แค่น้อยมาเบียดเวลาทำงานของคุณเนี่ย น้อยก็รู้สึกแย่ที่สุดแล้ว” “ใครบอกว่าคุณมาเบียดเวลาทำงานของผม ฮึ...” “ก็น้อยบอกคุณอยู่นี่ไงคะ” เธอหัวเราะนิด ๆ คชาโอบกอด แล้วจุมพิตไปที่หน้าผากมน “ผมมีความสุขมากเลยรู้ไหม ผมดีใจมากแค่ไหนที่คุณรับปากที่จะแต่งงานกับผม ผมสัญญานะว่าจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด รวมถึงลูกชายและก็คุณแม่ของคุณด้วย” เขายิ้มหวานจากใจ “น้อยก็เหนื่อยเหลือเกินค่ะ อยากพักผ่อนบ้างแล้ว เบื่อที่ต้องจากบ้าน ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักคุ้นเคยสักคน แต่จะทำยังไงได้คะ นั่นคืองาน น้อยแค่อยากให้แม่กับลูกของน้อยสบาย” “คุณดูเครียด ๆ นะ” เขาลูบผมปลอบอกปลอบใจ “เฮ้อ...” ภรินทรถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย จุ๊บ... คชาจุมพิตที่ข้างแก้มนวล ตอนนี้มีหยาดน้ำตาไหลริน “ร้องไห้ออกมาสิ เผื่อมันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น” ภรินทรผละออกจากอ้อมแขนของเขา และเงยหน้าสบตากับเขา ยิ้มทั้งน้ำตา “ขอโทษนะคะ” “อ้าว... มาขอโทษผมทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” เธอยิ้มแหย ๆ “ก็ทำให้คุณเสียบรรยากาศโรแมนติกหมดนะสิคะ” คชาหัวเราะเสียงดัง “คุณเนี่ยดูข้างนอกแข็งแกร่งนะ แต่พอสัมผัสเข้าจริง ๆ อ่อนไหวง่ายเหมือนกัน” “ค่ะ มันกดดันมากนะคะ ที่จะครองตัวอยู่คนเดียวจนป่านนี้” “คุณรอผมใช่ไหม” เขาหยอกล้อ พลางยกนิ้วเช็ดน้ำตาให้ “มั้งคะ” เธอหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ คชาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะดึงร่างบางของภรินทรเข้าหาตัวเอง กอดกระชับกันแนบแน่น “เอาเป็นว่า ผมจะจัดการขายหุ้น ขายทุกอย่าง แล้วรีบเคลียร์ทุกอย่างที่นี่ให้จบภายในสี่ห้าเดือน นะจ๊ะ...” ฟอด... “ค่ะ ฉันก็เหมือนกัน จะรีบจัดการทุกเรื่องให้เสร็จ ดีนะคะ ที่คุณฟรองชัวเขาเห็นใจน้อย” “คุณให้เหตุผลว่าไง” เขาหัวเราะร่วน “น้อยก็บอกว่า... กลับบ้าน แต่งงาน และจะทำหน้าที่เป็นแม่บ้านของคุณน่ะสิคะ” “คุณฟรองชัวเนี่ยน่ารักจริง ๆ” “เขาอวยพรให้ฉันมีความสุข” “แล้วคุณจะมีความสุขมาก” คชาให้คำมั่น สองคนตระกองกอดกันด้วยความรักและเข้าใจ พร้อมจะเดินหน้าสร้างความสุขในบั้นปลายให้กับชีวิตของตัวเอง   “สรุปจะกลับไปเรียนให้ได้ใช่ไหม” คุณยายทำสีหน้างอน ๆ “ครับ” ภารันย์สวมกอดคุณยายด้วยความรัก “เฮ้อ...ยายเป็นห่วงเล็กนะ” “ผมรู้ครับ” “อย่าไปทำอะไรโลดโผนเข้าใจไหม” “เข็ดเลยครับคุณยาย” พอได้ยินประโยคนี้ นางก็หัวเราะขึ้นมาทันใด “สมน้ำหน้า...” “แน่ะ...คุณยายอะ..พูดแบบนี้ก็ได้เหรอ...” เขาสัพยอกท่าน “แม่เราโทรบอกเรื่องนั้นแล้วใช่ไหม” คำถามของคุณยายทำให้ภารันย์สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “ครับ” “แล้วเล็กคิดยังไง” “ผมมีสิทธิ์ออกความคิดเห็นด้วยเหรอครับ” ภารันย์ย้อนถามคุณยายกลับไป “เล็ก...” คุณยายเรียกชื่อของเขา “แม่น้อยรักเล็กมากนะ” “ครับ แม่รักผมในสไตล์ของแม่ ซึ่งก็ไม่เหมือนแม่ของคนอื่น ๆ” คำพูดเต็มไปด้วยความน้อยใจ “ยายผิดเองที่...เลี้ยงเล็กให้คิดแบบนี้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD