บทที่ 3 แก็งค์เจ็ดดาว

1517 Words
น้ำฟ้าหน้าซีดกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากที่นั่นไปกดลิฟต์ด้วยมืออัน สั่นเทา เธอยกมือขึ้นถูแก้มทั้งสองข้างด้วยความขยะแขยง ไม่คิดเลยว่าจะถูกผู้ชายที่ตัวเองเกลียดบังคับหอมแก้ม เมื่อครู่เธอคิดจะยกมือขึ้นตบหน้าแต่เขากลับจับไว้แน่นแล้วยังดึงมือเธอไปตรงหน้า แถมยัง...ยังดูดปลายนิ้วชี้เธอเบาๆ แค่คิด...น้ำฟ้าก็นึกขยาด สีหน้าและแววตาของณัฐวุฒิเมื่อครู่น่ากลัวมาก เธอคิดว่าต่อไปจะต้องไม่เข้าใกล้เขาอีก “คุณฟ้า คุณฟ้าเป็นอะไรคะ? ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว หน้าแดงเป็นปื้นแล้วค่ะ เอามือถูทำไมคะ?” หญิงสาวพูดไม่ออก ที่กำลังจะอ้าปากพูดจำต้องหุบลงทันควัน ถ้ามีคนรู้ว่าเธอถูกณัฐวุฒิหอมแก้มไปตั้งสี่ครั้ง ธนาจะต้องรังเกียจเธอแน่ๆ “มะ ไม่ ไม่เป็นไร เมื่อกี้ฉันตกใจจิ้งจกนะ มันหล่นมาใส่แก้ม ฉันก็เลยขยะแขยง” “ล้างหน้าหรือยังคะ?” “ยังเลย จริงสิ ฉันควรจะไปล้างหน้า ล้างเอาสิ่งสกปรกกับเสนียดจัญไรออกสักหน่อย” น้ำฟ้ามือสั่น หยิบเอากระเป๋าสะพายของตนเองเดินลิ่วไปยังห้องน้ำ เธอต้องล้างหน้าและแต่งหน้าใหม่...น่าจะดีขึ้น หลังจากวันนั้น น้ำฟ้าก็หายเงียบไปหลายวัน เนตรดาวแปลกใจที่น้ำฟ้าไม่มาวุ่นวายเหมือนเคยจึงถามณัฐวุฒิ “ไม่ดีเหรอครับ? เราจะได้สบายหูกันสักหน่อย แผลที่คางผมก็ใกล้จะหายแล้ว ถ้าเธอมาอีก ผมอาจจะทนไม่ไหว บีบคอเธอจริงๆ ก็ได้” “อย่าเลยค่ะ ไม่มาก็ไม่มา เที่ยงนี้บอสมีนัดทานข้าวเที่ยงกับพวกผู้บริหารอีกกลุ่มใช่ไหมคะ? เห็นว่ามีคุณเกวลินด้วย” “ใช่ คอนเฟิร์มร้านให้เรียบร้อยนะ” “ค่ะ” ณัฐวุฒิก้มหน้าอมยิ้ม ผู้หญิงอย่างน้ำฟ้าสุดท้ายก็หน้าบาง เขารู้สึกพอใจที่ทำให้เธอรู้สึกกลัวได้บ้าง? หากว่าเขาเป็นผู้หญิงของธนาหรือธเนศ เขาก็คงไม่กล้าจะทำแบบนี้ แต่ในเมื่อบอสของเขาอนุญาตให้สั่งสอนเธอได้ เขาที่ถูกเธอย่ำยีความรู้สึกและกดขี่ให้อับอายมาหลายปีก็อยากจะแก้แค้นบ้าง ‘เป็นไงล่ะ? ไหนว่าเก่งนัก? หายเงียบไปเลย’ เย็นวันนั้น ณัฐวุฒิครึ้มอกครึ้มใจถึงกับออกไปนั่งดื่มกับเพื่อนซี้ ที่เล้าจน์หรูหราย่านทองหล่อ เขานั่งดื่มมองดูบรรยากาศครึกครื้นรอบข้าง บางครั้งก็ยิ้มออกมา “ณัฐ วันนี้มีอะไรดี? จิบไปยิ้มไป ทำเหมือนคนเพิ่งตกหลุมรัก” ไต้ฝุ่น ดาราหนุ่มที่เพิ่งเข้าวงการไม่นานเหลือบมองณัฐวุฒิแล้วอมยิ้ม ชายหนุ่มถอนสายตาจากกลุ่มผู้หญิงในชุดสวยหลายกลุ่มที่กำลังดินเข้ามาหันไปพูดคุยกับเพื่อนซี้ “ตกหลุมรักที่ไหน? กูได้แก้แค้นกูก็เลยฟิน” “แก้แค้น ความแค้นแบบไหนของมึง? ดูสายตาแวววาวขนาดนั้น” “แค้นของกูกับผู้หญิงร้ายๆ คนหนึ่ง นานหลายปีแล้วจะว่าไปนับเป็นศัตรูเก่าก็ได้” “อย่างมึงนี่นะต้องอดทน เหลือเชื่อ” “จริง กูเพิ่งได้รับอนุญาตจากบอสกูให้ลงมือ” ไต้ฝุ่นพยักหน้าหงึกๆ เขารู้จักธนา ศราวุฒิกุลเป็นอย่างดี ประธานบริษัทวินเนอร์คนนั้นเกือบตายมาสองหนเพราะมีคนวางแผนฆ่า ครอบครัวของธนาดูแลชุบเลี้ยงณัฐวุฒิอย่างดีเพราะบิดาของณัฐวุฒิตายด้วยอุบัติเหตุในขณะที่ขับรถพาคุณธนากรออกไปติดต่อธุรกิจ “เออๆ ในเมื่อมึงพอใจก็ดีแล้ว” สายตาของไต้ฝุ่นเลยไปยังกลุ่มหญิงสาวที่แต่งตัวงดงามโดดเด่น ณัฐวุฒิรู้สึกว่าเพื่อนนิ่งไปก็มองตามสายตาของเพื่อน “มึงดู แก็งค์เจ็ดดาว สวยทุกคนเลยว่าไหม?” เลขานุการหนุ่มสะดุดที่ใบหน้าผู้หญิงที่เดินอยู่ท้ายสุด “มึงรู้จักทุกคนไหมในกลุ่มนั้น?” “กูรู้จักแค่สามคนที่เป็นดารา อีกสี่คนได้ยินว่าเป็นไฮโซ เพื่อนร่วมวงการน่ะนะ กูไม่ได้สนใจสักคนหรอก” “มึงไม่สนใจเขา เขาอาจจะสนใจมึงก็ได้ มึงทั้งหล่อทั้งรวย” “กูลอกคราบแล้ว ตอนนี้กูอยู่คอนโดแถวบางกะปิ ขับรถมือสอง ทีแรกนึกว่าจะทำให้ผู้หญิงเมินได้บ้าง ที่ไหนได้มีคนมาถามเลี้ยงดูกูเยอะแยะ” ชายหนุ่มพูดแล้วก็หัวเราะออกมา “ไม่รับสักคนล่ะ สมัยนี้แล้ว ผู้หญิงรวยๆ บางคนก็ไม่อยากไปคอยเอาใจผู้ชายหรอกนะ เธออาจจะอยากได้ผู้ชายมาคอยเอาใจ” ไต้ฝุ่นเลิกคิ้ว “งั้นเหรอ? กูดูให้ดีก่อน ไม่แน่ อาจจะหาผู้หญิงเอาไว้เกาะดูสักคน อาชีพแมงดาก็น่าสนใจนะ ทำมาหลายอย่างแล้วเหลืออย่างเดียวนี่ล่ะ ฮ่าๆ” ณัฐวุฒิหัวเราะได้ด้วย “เออ กูจะคอยดูว่ามึงจะทำสำเร็จไหม?” “มึงจ้องขนาดนั้น ชอบใครวะ?” ไต้ฝุ่นพยายามสังเกตสายตาของณัฐ “ผู้หญิงกลุ่มนี้เป็นไงวะ?” “แต่ละคนก็ฐานะครอบครัวดี พวกเธอหาแฟนไฮโซ ต้องระดับมหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์จีบ คนธรรมดาอย่างเราๆ เดินใกล้ไม่ได้หรอก” “สวยทุกคนเลยนะ ไต้ มึงไม่ถูกใจสักคนเลยเหรอ?” ไต้ฝุ่นส่ายหน้า “ไม่ กูเพิ่งไปร่วมงานบวงสรวงเปิดกล้องละคร เฟิร์นกับไลลาก็เล่นเรื่องนี้ด้วย ในกองเขายังไม่ค่อยคุยกับกูเลย กูไม่อยากยุ่งกับเขาเหมือนกัน” ณัฐวุฒิมองผู้หญิงสองคนที่เดินอยู่ด้านหน้า เฟิร์น รักษ์สุดา ดาราสาวที่มีผลงานโดดเด่นในช่วงสองปีนี้ และคนที่เดินอยู่ข้างกันก็คือไลลาที่ยังไม่ขึ้นแท่นนางเอก แต่รับงานโฆษณานับสิบตัวจนเป็นที่คุ้นหน้า “คนที่กูสนใจอยู่ข้างหลังสุดนั่น” ณัฐวุฒิชี้ไปยังผู้หญิงที่สวมแซกสั้นสีดำเดินรั้งท้าย ไต้ฝุ่นเหลือบมองแล้วก็พยักหน้า “สวย เฉี่ยว ดูมั่นใจ” “ไม่ใช่แค่ดูมั่นใจ ร้ายด้วย คนนี้แหละศัตรูของกู” “หา! คนนี้เหรอที่มึงบอกว่าเพิ่งได้แก้แค้น?” “ใช่ น้ำฟ้า ขจรเกียรติกิจ หลานสาวของคุณน้ำเพชรภรรยาคุณธนากรเจ้านายของกู ผู้หญิงคนนี้ทั้งดูถูกคนและเจ้าเล่ห์” ไต้ฝุ่นหัวเราะหึๆ “คบคนเช่นใดก็กลายเป็นคนเช่นนั้น มึงดูเพื่อนร่วมก๊วนของเธอสิ เดาได้ไม่ยากหรอกว่าเธอเป็นคนยังไง?” “กูรู้ดี น้ำฟ้ากับกูรู้จักกันมานานแล้ว ฤทธิ์เดชมีเท่าไหร่ก็แสดงให้กูเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน” “ณัฐ มึงดูแค้นมากเลยนะ” คนถูกทักยักไหล่เบาๆ “ก็ไม่เชิง ถ้าเธอไม่คิดทำเรื่องเลวๆ อีก กูก็จะพยายามทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไม่คิดแค้นเรื่องเก่าๆ” “กูไม่เชื่อ คนอย่างมึงแค้นฝังหุ่น ถ้ามีคนหยิกมึง มึงต้องถีบตอบ” ไต้ฝุ่นหัวเราะร่วน ยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ มองกลุ่มเจ็ดดาวที่กำลังเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาทักทายกับหนุ่มๆ ในแวดวงเดียวกันอย่างชื่นมื่น “มึงคงเคยได้ยินข่าวของเฟิร์น แฟนเธอเป็นไฮโซหนุ่ม ส่วนไลลาก็คบกับไฮโซอีกคน ตอนนี้พวกเธอกำลังแนะนำเพื่อนของแฟนให้กับสาวๆ ในกลุ่ม” ณัฐวุฒิเลิกคิ้ว เหล่ตามองเพื่อน “รู้เยอะนะ ไหนว่าไม่สนใจไง?” “กูไม่ได้ชอบ แต่ก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้เอาไว้ ตกลงว่ามึงมีแค้นอะไรกับคนสวยคนนั้น” “เรื่องมันยาว” ณัฐวุฒิบ่ายเบี่ยง ไต้ฝุ่นหัวเราะ “ไม่เป็นไร กูว่าง เรื่องของมึงกูฟังทั้งคืนก็ยังได้” “สู่รู้” “เล่ามา” ณัฐวุฒิเหลือบมองน้ำฟ้าที่กำลังยิ้มหัวเอียงคอพูดคุยกับหนุ่มหล่อแต่งกายดีที่นั่งถัดไปจากเธอ สีหน้าระริกะรี้นั่นทำเอาเขาหัวเสีย “จ้องอยู่นั่น เล่ามาซะทีเถอะ กูรอนานแล้วนะ” เลขานุการหนุ่มใจลอยกลับไปตอนนี้ได้พบน้ำฟ้าครั้งแรก เด็กสาวถักผมเปียคู่ที่มาเยือนคฤหาสน์ศราวุฒิกุลพร้อมกับบิดามารดาในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณธนากร “ตอนแรกที่กูเห็น กูคิดว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงใสซื่อน่ารัก แต่ตอนที่กูเข้าไปเสิร์ฟน้ำแล้วชนเธอนิดเดียว เธอก็โมโห หยิบเอาแก้วน้ำมาสาดกูเฉยเลย ต่อจากนั้นเห็นกูทีไรก็หาเรื่องจิกกัด เธอไปเรียนต่างประเทศอยู่หลายปี แต่พอกลับมาช่วงปิดเทอมทีไรก็ทำตัวทรามๆ กับกูทุกที ยิ่งตอนนี้อยากเป็นเมียบอสกูจนออกนอกหน้า” “อย่าบอกนะว่าบอสมึงก็ชอบ” “ไม่ บอสกูไม่มีทางชอบผู้หญิงแบบนี้ สี่ปีก่อนน้ำฟ้าคิดวางยานอนหลับบอสกู แต่ผิดพลาด ตอนนี้บอสกูอนุญาตให้กูจัดการเธอได้เต็มที่” ******************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD