5

1119 Words
5 ไลลาเป็นเด็กดี ช่วยเหลืองานอีเมอร์สันทุกอย่าง แต่ไม่ว่างานของคนเป็นลุงจะยุ่งเพียงใด เธอก็ไม่เคยทิ้งความฝันของตัวเอง และลุงกับป้าต่างสนับสนุนให้หญิงสาวเดินตามความฝัน แม้ว่าความฝันของไลลาไม่ใช่ความปรารถนาของสาวรายอื่นที่พากันวิ่งหนีอาชีพที่ไลลาใฝ่ฝัน...อาชีพนักมวย และวันนี้นักมวยสาวมีนัดซ้อมมวยที่ค่ายมวยตองเย่ ช่วงนี้เธอซ้อมหนักเพราะในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เธอต้องขึ้นชกแมตสำคัญ ชิงเข็มขัดจากแชมป์เก่าที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์มวยหญิงระดับภูมิภาค หากโค่นแชมป์ได้ เธอจะได้ขึ้นไปชกในสังเวียนลีกชิงแชมป์โลกที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ทุกครั้งที่เธอออกไปซ้อมมวย ไลลาจะต้องแวะมาช่วยงานมาลีน่าที่สถานรับเลี้ยงเด็กทุกครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ไม่ต้องช่วยป้าหรอก ไปซ้อมเถอะ” มาลีน่าบอกหลานสาว นางรู้ดีว่าช่วงนี้ไลลาซ้อมมวยหนักกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น ต้องตื่นแต่เช้ามาวิ่งออกกำลังกายอีกเป็นกิโล เวลาพักผ่อนน้อย อีกทั้งมาลีน่ามีลูกจ้างช่วยงานหลายคน นางจึงไม่เหนื่อยกับการทำงานเลยสักนิด กลับเพลินและมีความสุขในการเลี้ยงเด็ก “ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูไหว” ไลลาตอบคนเป็นป้า ก่อนจะเข้าไปช่วยเลี้ยงเด็กที่กำลังนั่งร้องเพลงอยู่ในห้องโถง มาลีน่าทราบดีว่า นางห้ามหลานรักไม่ได้ จึงปล่อยให้ไลลาช่วยเลี้ยงเด็กตามแต่ใจ ระหว่างนั้นรถยนต์สามคันแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับสถานรับเลี้ยงเด็ก อีเมอร์สันเจ้าของสถานที่ก้าวลงมาจากรถ ตามด้วยลูกน้องอีกหลายคน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้าไปในบ้าน “ป้าคะ คุณลุงมีเรื่องแน่ๆ ถึงได้ยกขบวนกันมาที่นี่” ไลลาที่สังเกตเห็นตั้งแต่มีรถอีกสองคันขับตามรถของคนเป็นลุง ซึ่งปกติอีเมอร์สันจะไม่ให้ลูกน้องเข้ามาวุ่นวายที่นี่ หากมานั่นหมายความว่า มีงานใหญ่ “ไปดูกัน” สองป้าหลานจึงพากันเดินไปยังบ้านที่พักอาศัย พอย่างเท้าเข้าไปภายในบ้าน ลูกน้องของอีเมอร์สันโค้งตัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย สองสาวต่างวัยยิ้มให้ แล้วก้าวเดินต่อไปยังห้องทำงาน ซึ่งเป็นห้องเก็บเสียง การสนทนาเรื่องลับจะไม่ลอดผ่านเข้าไปในหูบุคคลอื่น “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะคุณ” มาลีน่ารีบถามสามีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน มีเจนนาโรเพื่อนสนิทและคู่หูของอีเมอร์สันนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “มีเรื่องยุ่งหรือคะคุณลุง” “นิดหน่อย” เสียงอีเมอร์สันและสีหน้าไม่ได้บอกให้คนอยากรู้เรื่องรู้เลยว่า นิดหน่อย “มีเรื่องอะไรคะ หรือว่ามีเรื่องระหว่างไปส่งอาหาร” เรื่องเครียดของอีเมอร์สันมีไม่กี่เรื่อง ส่วนใหญ่จะมาจากงานประจำอีกงา งานที่เรียกว่า ‘ส่งอาหาร’ ‘ส่งอาหาร’ เป็นอีกอาชีพหนึ่งแอบแฝง เป็นอาชีพในมุมมืดที่จะรู้กันในหมู่นักฆ่าและมาเฟีย เป็นอาชีพที่ทำมาร่วมยี่สิบปีและคาดว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าวงการมาเฟียจะล้มหายตายจาก ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ มาเฟียรุ่นเก่าไป รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ หมุนเวียนเช่นนี้มาช้านาน หน้าที่ของอีเมอร์สันเมื่อมีคนโทรมาสั่งอาหารคือ ไปเก็บศพที่เหล่านักฆ่าหรือกลุ่มมาเฟียสังหาร เพื่อไม่ให้รู้ถึงหูเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก่อนจะนำศพไปทำลายทิ้งในเตาเผาหรือไม่ก็ให้จระเข้กินศพเหล่านั้น “ไม่ใช่” อีเมอร์สันตอบ “มีเรื่องอื่นที่หนักใจกว่า พี่รับงานมาแล้วด้วย” “คุณลุงรับงานดูแลใครคะ” หากไลลาเดาไม่ผิด อีกงานหนึ่งของการส่งอาหาร ที่จำแนกออกเป็นสองส่วนคือ รับเก็บศพกับรับงานอารักขาเหล่ามาเฟียที่มีทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผย “ฟรานเซสโก้ เดอมาร์ชี” อีเมอร์สันตอบ “ใครจ้างคะ” เพียงแค่อีเมอร์สันเอ่ยชื่อ ไลลารู้ได้ทันทีว่าคือใคร เพราะชื่อเสียงของเขาคนั้นดังใช่ย่อย แต่ที่สงสัยคือ ใครคือผู้ว่าจ้าง “อเล็สซานโดร เดอมาร์ชี” “เป็นอาของเขานี่คะ แล้วทำไมถึงต้องจ้างให้คุณลุงอารักขาหลานชายคนนี้คะ หรือมีใครจ้องฆ่า” “คุณซานโดรไม่ได้บอก แต่ลุงคิดว่า คนที่มาฆ่าต้องฝีมือใช่ย่อย แล้วคนที่สั่งก็ต้องแค้นหนักมากด้วย” อีเมอร์สันวิเคราะห์ “นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ลุงกลุ้ม ที่ลุงกลุ้มเพราะไม่รู้ว่าจะให้คนของลุงเข้าไปอารักขาฟรานเซสโก้ยังไง รู้ๆ กันอยู่ว่ารายนั้นไม่ชอบบอดี้การ์ด” ฟรานเซสโก้มีนิสัยไม่เหมือนมาเฟียทั่วไปที่เวลาไปไหนมาไหนต้องมีลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลัง ฟรานเซสโก้ชอบฉายเดี่ยว เขาไม่กลัวตาย บอกใครต่อใครว่า มนุษย์ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ต้องตายทุกคน ถึงจะมีลูกน้องคุ้มกันเป็นพันก็ไม่มีอะไรขวางความตายได้ แล้วรู้ว่าถนนสายมาเฟียมีแต่อันตราย ทว่าเขากลับไม่กลัว เดินบนถนนสายนี้ด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เอาจริงเอาจัง โหดมาโหดกลับ ดีมาดีด้วยและสง่างาม มิแปลกที่เขาจะมีทั้งมิตรและศัตรู “เราถึงต้องหาทางอื่นเข้าใกล้ตัวเซสโก้ไงล่ะ” เจนนาโรพูดขึ้น “คุณซานโดรก็รู้นะว่าหลานตัวเองไม่ชอบมีบอดี้การ์ดมากวนใจ เขาเลยคิดแผนที่จะหาวิธเข้าใกล้ฟรานเซสโก้ แต่วิธีนี้แหละที่ทำให้ลุงกลุ้ม” ยิ่งพูดถึง อีเมอร์สันยิ่งกลุ้ม เพราะมันเป็นความเหมาะเจาะที่หาคนทำไม่ได้ “วิธีอะไรคะคุณ” มาลีน่าถามสามี “คุณซานโดรเสนอวิธีนี้มา มันพอดีว่าคุณเซสโก้กำลังหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ คุณซานโดรเลยให้เราหาคนที่มีฝีมือไปเป็นบอดี้การ์ดให้หลานชาย แต่คนที่เราส่งไปต้องเลี้ยงเด็กเป็นด้วย ที่สำคัญที่สุดคือต้องเป็นผู้หญิงเพื่อไม่ให้คุณเซสโก้สงสัย ซึ่งนั่นคือปัญหาของเรา เราไม่มีบอดี้การ์ดเป็นผู้หญิง แต่ถึงจะมีก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงเด็กได้หรือเปล่า” อีเมอร์สันบอกความหนักใจของตนให้ภรรยาและหลานสาวรับรู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD