3
“ใช่ ฉันลืม” ฟรานเซสโก้ยอมรับตามตรง “เธอมีใครแนะนำไหม”
“มีค่ะ แต่ฉันคิดว่าเธอคงไม่รับงานนี้ เพราะเคยมาหาฉันและเห็นฤทธิ์อัลบาโรหลายครั้ง เพื่อนฉันขยาดที่จะเลี้ยงลูกชายของคุณค่ะ” ลิซ่าบอกตามตรง ฟรานเซสโก้อึ้งไปอีกรอบ เรื่องนิสัยของบุตรชาย เขารู้ดีแต่ไม่ใส่ใจ
“อืม ไม่เป็นไร ฉันหาเองได้” เขาคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาพี่เลี้ยงคนใหม่ มีเงินซะอย่างสบายไปร้อยแปดอย่าง
“ฉันเคยบอกคุณแล้วว่า ให้หาก่อนที่ฉันจะออกสักครึ่งเดือนหรือไม่ก็หนึ่งอาทิตย์ อัลบาโรจะได้ปรับตัวกับพี่เลี้ยงคนใหม่ แล้พี่เลี้ยงก็จะได้เรียนรู้นิสัยใจคอของอัลบาโรไปในทีด้วย คุณหามาวันที่ฉันไม่อยู่ แล้วใครจะสอนงานล่ะคะ”
“ฉันคิดว่า ฉันจัดการได้ แค่พี่เลี้ยงเด็ก หาไม่ยากหรอก”
“ใช่ค่ะ หาไม่ยาก แต่หาที่มีน้ำอดน้ำทนและเลี้ยงลูกคุณได้น่ะสิคะที่ยากกว่า ยากมากด้วย”
ไม่มีใครรู้ข้อนี้ดีเท่าลิซ่า เนื่องด้วยเธอผ่านอะไรมามากมายกับการเลี้ยงเด็กคนนี้ เธอจึงคิดว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพี่เลี้ยงคนใหม่ที่ต้องรับมือเด็กเอาแต่ใจและฤทธิ์เดชสูงอย่างอัลบาโรได้
“ก็หาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่ทนลูกฉันได้ มีเงินซะอย่าง...สบาย”
เขาทำปากดี ทว่าในใจมีความกังวลสูง ลิซ่าหยุดพูดเรื่องนี้เมื่อเห็นความมั่นใจอันสูงส่งของเจ้านาย เธอเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยไปอีกเรื่องหนึ่ง
“ที่ฉันมาวันนี้ไม่ได้มาพูดแค่เรื่องนี้ค่ะ ฉันหาโอกาสคุยกับคุณหลายวันแล้ว แต่คุณทำตัวไม่ว่างเลย”
“ว่ามาสิ”
“ฉันพูดตรงๆ ในฐานะพี่เลี้ยงอัลบาโร เลี้ยงแกมาตั้งแต่สามเดือนจนถึงตอนนี้ห้าปี ฉันรู้นิสัยอัลบาโรดีทุกอย่างและทนแกได้ ที่แกมีนิสัยแบบนี้ส่วนหนึ่งมาจากคุณ คุณเป็นพ่อ แต่ไม่เคยทำหน้าที่พ่อ ที่คุณเลี้ยงดูแกเพราะคือหน้าที่เท่านั้น คุณไม่เคยให้ความรัก ความอบอุ่นหรือแม้แต่หน้าที่ที่แท้จริงของพ่อ ไม่แปลกค่ะที่ลูกคุณนิสัยแบบนี้ ฉันแนะนำว่าถ้าคุณไม่อยากมีปัญหาเรื่องหาพี่เลี้ยงบ่อยๆ ซึ่งมันเกิดขึ้นแน่ หากคุณไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่คุณทำอยู่ คุณสนใจแกบ้าง ให้ความอบอุ่นกับแกอีกสักนิด แล้วคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องหาพี่เลี้ยงลูกมากวนใจ”
ลิซ่ารู้ดีว่า ไม่มีใครหรือสิ่งใดเปลี่ยนแปลงฟรานเซสโก้ได้ เขารักอิสระ ไม่ชอบผูกมัด ยิ่งมีลูกแบบไม่ทันตั้งตัว ลูกที่ไม่ได้เกิดมาจากความตั้งใจหรือความรัก ยิ่งทำให้ความรักความผูกพันไม่มี กลายเป็นคนคุ้นเคยที่แปลกหน้า
ข้อนี้ฟรานเซสโก้รู้ตัวดี เขารู้ว่าตนไม่ใช่พ่อที่ดี หรืออาจพูดได้ว่า เป็นพ่อใครไม่ได้ แล้วไม่รู้ว่า คนเป็นพ่อต้องทำอย่างไร นั่นไม่เท่ากับว่า เขาไม่ใส่ใจทำหน้าที่พ่อ ฟรานเซสโก้สะอึกไปคำโต แย้งลิซ่าไม่ได้เพราะมันคือเรื่องจริง
“วันนี้ฉันไปส่งอัลบาโรที่โรงเรียน แกมองเพื่อนๆ ที่มีพ่อแม่มาส่ง แกมองเห็นเพื่อนอยู่ในอ้อมกอดของพ่อกับแม่ แกอยากซึมซับความรู้สึกแบบนั้นบ้าง ถ้าคุณคิดว่าแกเป็นลูกและไม่ต้องการให้ระยะห่างความสัมพันธ์มีมากขึ้นกว่านี้ ฉันแนะนำให้คุณทำหน้าที่นั้นบ้าง อาทิตย์ละหนึ่งครั้งก็ยังดีค่ะ ให้แกมีความสุขเล็กๆ ในใจบ้าง ฉันสงสารอัลบาโรค่ะ แกไม่ใช่เด็กเลวร้ายอะไร แค่ขาดความรักความอบอุ่นเท่านั้นค่ะ” ลิซ่ายิ่งพูด เอยิ่งสงสารอัลบาโร “คุณย้อนมองดูตัวคุณเองสิคะ ตอนเด็กคุณมีทั้งพ่อและแม่ ได้รับความรักความอบอุ่นจากท่าน คุณมีความสุขหรือเปล่า หากถามตัวเองแล้วได้คำตอบว่ามี อัลบาโรก็ต้องการมันเช่นกันค่ะ แกขาดแม่ไปคนหนึ่งแล้ว อย่าให้แกรู้สึกขาดพ่อ ทั้งที่พ่อไม่ได้จากแกไปไหน อยู่บ้านเดียวกันด้วยซ้ำไป”
ลิซ่าพูดในเรื่องที่ตนอยากพูด เมื่อพูดจบก็สุดแต่ใจฟรานเซสโก้ว่า จะทำอย่างไร เพราะเธอไปข่มขู่หรือเขี่ยวเข็ญอีกฝ่ายไม่ได้ แล้วเรื่องนี้ต้องทำมาจากใจด้วยถึงจะได้ผล
“ขอบใจนะ สำหรับคำแนะนำ”
“เด็กเหมือนผ้าขาวนะคะ อัลบาโรตอนนี้เหมือนผ้าสีหม่นที่ทำให้เป็นสีขาวได้ แต่ถ้าคุณทิ้งขว้างแกแบบนี้ รับรองว่าแกจะเติบโตมาเป็นผ้าสีดำสนิท พอถึงตอนนั้นคนที่จะเสียใจที่สุดก็คือคุณค่ะ” ลิซ่ายังมีคำทิ้งท้ายที่ทำให้ฟรานเซสโก้ถึงกับพูดไม่ออก “แต่คุณอาจไม่เสียใจก็ได้ค่ะ เพราะคุณไม่ใส่ใจ ไม่สนใจผ้าผืนนั้นว่าจะเป็นสีอะไร คุณทำให้แกเกิดมา แล้วเป็นคนขยี้แกให้ต่ำตม ฉันมีเรื่องพูดกับคุณแค่นี้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่สละเวลาให้ฉันได้พูด ฉันขอตัวนะคะ”
ลิซ่าออกจากห้องฟรานเซสโก้สักพักหนึ่งแล้ว ทว่าเจ้าของห้องยังคงจมอยู่กับความคิดของตนเอง เขารู้ตัวดีว่าเป็นพ่อที่ไม่ดี แต่ไม่เคยรู้สึกแย่มาก่อน วันนี้เป็นวันแรกที่เขารู้สึกเช่นนี้ เขาให้ทุกอย่างกับอัลบาโร ไม่ว่าจะเป็นเงิน ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง ทุกอย่างที่ลูกร้องขอ แต่ไม่เคยให้ความรัก ความเอาใจใส่ดูแลอย่างแท้จริง
ความคิด ความรู้สึกของฟรานเซสโก้ถูกระงับลงชั่วคราว เมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น อึดใจต่อมา อเล็สซานโดร บุรุษผู้มีศักดิ์เป็นอาเดินเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับคุณอา ไหนบอกว่าจะมาตอนค่ำไงครับ” ฟรานเซสโก้ลุกขึ้นมาต้อนรับขับสู้คุณอา