ตอนที่ 2 ความลับระหว่างเรา
“อื้ม” ผมสะลึมสะลือตื่นมาในตอนเช้าตรู่เพราะปวดฉี่ ความรู้สึกแรกคือปวดหัว ความรู้สึกที่สองที่ตามมาคือหนักตัวเหมือนมีอะไรทับอยู่ ผมใช้แรงอันน้อยนิดดันสิ่งที่ทับตัวอยู่ออกแล้วเดินไปฉี่ ก่อนจะกลับมาแล้วพบว่าเตียงของผมมีใครบางคนนอนอยู่
“ไอ้ฟะ...”
ผมกำลังจะอ้าปากด่าไอ้ไฟที่มันกล้าดีมานอนเตียงของผม แต่ผมก็ต้องหยุดชะงักลงทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
เมื่อคืนผมเมา แต่ผมก็พอจะมีสติรู้ตัวนิดหน่อยว่ามีอะไรเกิดขึ้น แค่อาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้มาก และสิ่งนึงที่ผมจำได้ดีจากเมื่อคืนก็คือไอ้ไฟมันมายุ่งกับตรงนั้นของผม ผมเลยเอาคืนด้วยการดูดจู๋มัน
เอาคืนด้วยการดูดจู๋มัน!
ผมยกมือขึ้นตีหัวตัวเองทันทีที่คิดได้ อยากย้อนกลับไปตะโกนใส่ตัวเองว่าคิดอะไรอยู่วะเนี่ย เอาคืนด้วยการดูดจู๋เนี่ยนะ มันไม่ใช่แล้ว
แต่ทำไปแล้วผมต้องทำยังไง
ผมคิดหนัก ไม่รู้ว่าไอ้ไฟจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้รึเปล่า ถ้าจำได้มันจะคิดยังไงที่ผมไปดูดจู๋มันแบบนั้น ผมจำได้ว่ามันไม่ได้ขอด้วยซ้ำ แล้วถ้ามันล้อเลียนผมล่ะ ถ้ามันเอาไปบอกเพื่อนอีก ผมจะทำยังไง
ผมเลิ่กลั่กหันซ้ายหันขวา ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเท่าไร แต่ผมภาวนาให้ไอ้ไฟมันจำอะไรไม่ได้ ผมเลยเลือกจะไปทำลายหลักฐาน ทั้งพวกทิชชู กางเกงทั้งหลายที่หล่นอยู่ เผื่อถ้าไอ้ไฟมันจำไม่ได้จริง ๆ มันจะได้ไม่สงสัยอะไร
พอเก็บของทุกอย่างเสร็จ ผมก็รีบพาตัวเองออกจากห้อง แล้วไปที่ที่ใกล้ที่สุดคือหอไอ้ฟิว ให้เหมือนว่าเมื่อคืนผมไม่ได้นอนที่นี่
ผมตื่นและกลับห้องตัวเองในตอนบ่ายโมงกว่า ๆ วันนี้เป็นวันพุธ แต่พบว่าห้องยังมีคนอยู่ สงสัยว่าไอ้ไฟมันอาจจะไม่มีเรียนตอนบ่ายวันนี้
ผมเปิดประตูแล้วค่อย ๆ ย่องเข้าห้องแบบช้า ๆ กะไม่ให้ไอ้ไฟมันรู้ตัว แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะจู่ ๆ ไอ้ไฟมันก็หันมาทักผม
“ทำไรของมึง ทำไมไม่เดินดี ๆ”
“เรื่องของกู” ผมตอบปัด ๆ แล้วรีบเดินเข้าห้องมา แล้วก็พบว่าไอ้ไฟมันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ผมเสร็จสรรพ
“โทษทีเมื่อคืนนอนผิดเตียง แต่ซักผ้าปูให้แล้ว”
“เออ” ผมไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด ถ้าจะเอาให้เนียนจริง ๆ ผมควรด่ามันสักนิด แต่ช่างเถอะ เป็นแบบนี้ดีกว่า ผมกลัวฝืนทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วด่าไปจะยิ่งโป๊ะ
“เออแล้วเมื่อคืนมึงไม่ได้นอนที่ห้องเหรอ”
ไอ้ไฟยังถามต่อ ทำให้วันนี้น่าจะเป็นวันที่เราได้คุยกันมากสุด ทุบสถิติวันแรกที่ด่ากันไปสามสี่ประโยค
“ไม่ กูไปนอนห้องไอ้ฟิว”
“มันไปเลี้ยงกับเราด้วยเหรอ มันเรียนคนละคณะนี่”
“แล้วมันเกี่ยวไร กูแค่ไปนอนกับเพื่อน เสือกไรอะ”
ผมตอบปัด ๆ ปัดแล้วปัดอีกไอ้ไฟก็ยังถาม ปกติมันก็ไม่ได้ขี้สงสัยอะไร ไม่รู้ทำไมวันนี้สงสัยเยอะแยะไปหมด
“เค แต่มึงไม่ได้นอนที่ห้องแน่นะ”
“เออดิ ถ้าเห็นกูก็คือมึงเจอผี”
“เหรอวะ โอเค ไม่อยู่ก็ไม่อยู่”
ไอ้ไฟพยักหน้าแบบงง ๆ หลังจากเจอผมพูดดักไว้ เห็นแบบนั้นผมก็อดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้
ผมกับไอ้ไฟต่างคนต่างใช้ชีวิตกันไป แต่วันนี้อาจจะแตกต่างจากทุกวันนิดหน่อยตรงที่ผมจะค่อนข้างล่กเป็นพิเศษ เผลอหันไปมองไอ้ไฟด้วยความระแวงบ่อย ๆ หรือพอมันขยับจะทำอะไรก็สะดุ้งอยู่บ่อย ๆ
“โหล เออไอ้เหี้ยตื่นมาแล้วมึนเลยดื่มเยอะจัด”
นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมสะดุ้ง เพราะได้ยินเสียงไอ้ไฟ แต่พอหันไปก็พบว่ามันแค่กำลังโทรศัพท์ ถ้าให้เดามันคงกำลังโทรคุยกับพวกไอ้แทนละมั้ง เห็นแบบนั้นผมเลยกะจะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ เพราะไม่ได้อยากจะไปยุ่งเรื่องของมัน แต่มือของผมก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของมัน
“เออแทน เมื่อคืนใครมาส่งกูวะ มึงรู้ปะ กูแม่งจำไม่ค่อยได้ ปกติไม่เมาขนาดนี้นะ เมื่อคืนเบลอจัดจนจำอะไรไม่ได้เลย”
ผมเริ่มรนนิด ๆ ไอ้ไฟมันถามหาคนมาส่งทำไมนะ ไม่ ๆ ผมต้องใจเย็นไว้ มันอาจจะแค่อยากรู้ แล้วอยากขอบคุณก็ได้น่า
“ก็เมื่อคืนกูเผลอไปนัวกับใครไม่รู้ จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่จำได้ราง ๆ ว่าโดนดูดจู๋”
ผมตาตื่นยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยิน ข้อแรกคือดีใจที่ไอ้ไฟมันจำไม่ได้ว่าเป็นผม แต่ข้อสองคือตกใจที่มันจำได้ว่าโดนดูด แบบนี้มันจะสงสัยผมรึเปล่า จะหาตัวคนทำไหมนะ ไม่ ๆ ผมต้องนิ่งไว้ มันรู้ว่าผมเกลียดมัน มันไม่น่าจะมาสงสัยผมหรอกมั้ง
“จำไม่ได้เลย กูบอกแล้วว่าเมาเละ แต่จำได้ว่าเสียวฉิบหาย คนดูดมันก็น่าจะไม่ธรรมดาแหละ อยากรู้ดิ ไม่อยากรู้จะโทรหามึงทำไมเนี่ย เออได้ เดี๋ยวลองพยายามนึก ๆ ดูแล้วกัน เจอกันตอนเย็น”
ไอ้ไฟพูดกับไอ้แทนอีกนิดหน่อยกว่าจะวางสายลง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมแอบมองมันอยู่ มันจึงหันมาสบตาผมพอดิบพอดี
“เป็นไรมึง วันนี้ดูรน ๆ นะ”
“เสือก”
“อะไรวะ ถามดี ๆ”
ผมใช้เวลาในวันนี้ทั้งวันไปแบบว่างเปล่า ไม่มีอารมณ์ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมอะไรทั้งนั้นเพราะรน ๆ เรื่องไอ้ไฟ เลยลุกมาอาบน้ำหวังจะสร่างขึ้น แล้วน้ำเย็น ๆ จะทำให้สดชื่นขึ้นได้บ้าง
ภาพเมื่อคืนยังวนเวียนอยู่ในหัว ผมยังจำของไอ้ไฟได้ดี ตรงนั้นของมันสวยงามและดูดุดันกว่าของทุกคนที่ผมเคยผ่านมา แถมหน้าตาตอนมันเสียวก็ดูเซ็กซี่มาก ๆ สารภาพตรง ๆ ว่าผมลืมภาพนี้ไม่ลง
มารู้ตัวอีกทีส่วนกลางลำตัวของผมมันก็เริ่มแข็งขึ้นมานิด ๆ แล้วละ
ผมเริ่มหายใจติดขัด มือบางปัดป่ายไปทั่วลำตัวช้า ๆ การช่วยตัวเองมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือตอนนี้กำลังนึกภาพไอ้ไฟ คนที่ผมเกลียดไปด้วย ผมพยายามจะหักห้ามใจไม่ให้คิด แต่ผมก็ทำไม่ได้เลย ภาพใบหน้าและส่วนนั้นของมันยังตามมาหลอกหลอนผม
“อื้อ”
ผมกัดปากแน่นก่อนจะเริ่มขยับมือเบา ๆ การมีภาพไอ้ไฟ แล้วก็ด่าตัวเองไปด้วยเพื่อให้ลืมภาพนนั้นมันทำให้จิตใจผมยิ่งกระวนกระวาย สุดท้ายผมจึงยอมฝืนใจ ยกความเกลียดในใจออกไปก่อน เพื่อจะได้จัดการตัวเองให้เสร็จ
“อ๊ะ”
ผมบีบยอดอกของตนเองเบา ๆ ขณะที่มืออีกข้างก็ขยับไปด้วย
หลังจากที่ผมอนุญาตตัวเองให้นึกถึงร่างกายของไอ้ไฟได้ สมองไม่รักดีของผมก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น มันดันเผลอจินตนาการว่ามือที่ขยับอยู่นี่เป็นมือของไอ้ไฟด้วย
ภาพมือใหญ่ ๆ ที่ลูบไปทั่วร่างกายผมเมื่อคืนย้อนกลับมาอีกครั้ง ทุกส่วนโค้งเว้าของผม ไอ้ไฟลูบมันหมดแล้ว ยกเว้นก็แต่บั้นท้าย ผมควรจะดีใจที่มันยังไม่ได้ลูบ แต่ในความเป็นจริงผมกลับรู้สึกเสียดาย ไม่อย่างนั้นตอนนี้ผมคงได้นึกภาพนั้นเพิ่มอีก
“อื้อ”
ยิ่งนึกถึง มือของผมยิ่งขยับเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปกติแล้วเวลาผมจะช่วยตัวเอง ผมทำช่องทางข้างหลังด้วย เพราะผมชอบข้างหลังมากกว่าข้างหน้า แต่ครั้งนี้ที่นึกหน้าไอ้ไฟไปด้วย มันดันเสียวจนไม่ต้องทำข้างหลังเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งทำผมยิ่งมีอารมณ์จนแทบทนไม่ไหว มือบางจับอ่างล้างหน้าไว้แน่นเพื่อช่วยพยุงกาย ก่อนจะขยับมือรัว ๆ ในโค้งสุดท้าย ก่อนจะปลดปล่อยออกมาในที่สุด
“อื้อ ฟะ...” จังหวะที่เสร็จ ผมก็เกือบจะหลุดครางชื่อไอ้ไฟออกมา แต่ดีที่ดึงสติไว้ได้ แล้วหยุดปากทัน
ผมยืนมองพื้นที่เละไปด้วยน้ำสีขาว แล้วก็มองหน้าตัวเองในกระจก ก่อนจะต้องส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง นี่ผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้วเผลอทำอะไรบ้า ๆ ในห้องน้ำไป ผมก็รีบสลัดเอาความรู้สึกบ้า ๆ นั้นออกไปแล้วพยายามกลับมาใช้ชีวิตปกติ ผมหาเกมเล่น ทำตัวชิล ๆ เพื่อให้ตัวเองเลิกคิดเรื่องเมื่อคืน แล้วก็อยากดูเป็นปกติที่สุดในสายตาไอ้ไฟด้วย
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
ขณะที่ผมกำลังนอนเล่นชิล ๆ เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมคว้าโทรศัพท์มารับ ก่อนจะพบว่ามันไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้เจมส์เพื่อนซี้ผมเอง
“โหล กูกินข้าวเย็นแล้ว” ผมบอกออกไปทันทีที่กดรับ เพราะถ้าปกติไอ้เจมส์มันโทรมาตอนเย็น ๆ แบบนี้ คือมันจะชวนผมไปกินข้าวแน่ ๆ แต่วันนี้ผมกินเรียบร้อยแล้ว
‘กินข้าวหรือกินค.วยครับเพื่อนรัก’
“ไรมึง โทรมากวนตีนอะไรเนี่ย”
‘ทำมาเป็นเฉไฉ เมื่อคืนกูได้ยินน้า’
ไอ้เจมส์ทำเสียงล้อเลียนนิด ๆ นั่นทำให้ผมตาตื่นขึ้นทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน แล้วก็ต้องรีบลุกออกไปคุยที่ระเบียงทันที เพราะกลัวเหลือเกินว่าไอ้ไฟมันจะสงสัยเอา มันยิ่งอยากหาความจริงเรื่องเมื่อคืนอยู่
“มะ...เมื่อคืนอะไร”
‘ก็เรื่องที่มึงอ่อก ๆ เมื่อคืนไง ไปกับหนุ่มที่ไหนวะ กูมัวแต่เมาไม่ได้ดูเลย แล้วเมื่อคืนตอนกูลุกมาฉี่กูก็เป็นห่วงว่าใครไปส่งมึง แม่ง พอโทรไปหาดันอ่อก ๆ โชว์กูเฉย ร้ายไปแล้วนะไอ้ตั้ง’
“มึงได้ยินเหรอวะ”
ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน มันมีจังหวะนึงที่มีคนโทรมาจริง ๆ แล้วไอ้ไฟก็ดันมือไวกดรับสายอีก แล้วผมก็รีบคว้าโทรศัพท์ออกจากมือไอ้ไฟ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าไอ้เจมส์มันจะได้ยินเสียงผมด้วย ตอนนั้นไม่น่าตะกละเลย ถ้าถอนปากออกก่อนก็จบแล้ว
‘ได้ยินดิ ตกลงไปหิ้วหนุ่มที่ไหนมา บอกกูมาเลย’
“ก็เจอ ๆ กันที่ร้านแหละ แล้วก็แยกย้าย ไม่มีอะไรมาก”
‘เอ้า ขนาดนั้นแล้วไม่ต่อเหรอวะ’
“ไม่อะ”
‘โถ่ นึกว่าเปิดเทอมอาทิตย์เดียวเพื่อนก็เสียตัวซะแล้ว’
ไอ้เจมส์ว่าขำ ๆ แล้วจากนั้นมันก็ชวนผมคุยอะไรเพิ่มอีกนิดหน่อย ก่อนจะวางสายไป
หลังจากได้คุยกับไอ้เจมส์ แล้วพบว่าไอ้เจมส์มันรู้เรื่องเมื่อคืนที่ผมแอบไปใช้ปากให้ใครสักคนมา ผมก็คิดได้ว่าผมควรต้องทำอะไรบางอย่าง ผมเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะหันไปหาไอ้ไฟที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของมัน
“ไอ้ไฟ”
“มีไร”
“มึงได้บอกเพื่อนมึงรึยัง ว่ามีรูมเมตเป็นกู”
“ยัง ลืมบอก”
“ดี งั้นไม่ต้องบอกเพื่อนมึงนะว่าเราเป็นรูมเมตกัน กูอยากอยู่แบบสงบสุข ไม่อยากมีปัญหา มึงก็รู้ใช่ปะถ้าเจมส์มันรู้มันคงอยากมาที่นี่ มาหาเรื่องมึง”
ผมร่ายยาวถึงเหตุผลต่าง ๆ นานาทั้ง ๆ ที่ไอ้ไฟมันยังไม่ถาม ความตั้งใจตอนนี้มีอย่างเดียวคือต้องทำให้ไอ้ไฟมันไม่ไปบอกคนอื่นว่าเราอยู่ด้วยกัน เพราะถ้าเจมส์มันรู้ว่าผมอยู่กับไอ้ไฟ แล้วไอ้ไฟเผลอไปถามหาตัวต้นเรื่องเมื่อคืน พวกมันอาจจะปะติดปะต่อได้ว่าคนที่ทำเรื่องนั้นคือผมเอง
ซึ่งแบบนั้นมันต้องไม่ดีแน่ ๆ
“รู้ เพื่อนมึงแม่งเป็นหมาบ้า ชอบหาเรื่อง”
“อย่ามาว่าเพื่อนกู เอาเป็นว่าตกลงตามนี้”
“ก็ได้ กูก็ไม่อยากบอกใครว่าอยู่กับมึงหรอก”
“เออ”
ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้ไฟ ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ไปนอนบนเตียงของตนเอง
อย่างน้อยเมื่อคืนมันพลาดไปแล้ว แต่ต่อจากนี้มันจะต้องไม่มีการพลาดอีก ผมสัญญา