เช้าที่แสนเงียบเหงาของลูกจันทร์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เช้านี้เงียบกว่าทุกวันเพราะพ่อของเธอไม่ได้ออกไปทำงานจึงทำให้เธอยังไม่เห็นเขาเลยทั้งที่เวลานี้เธอเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านแบบนี้ควรจะเห็นเขาเตรียมตัวขึ้นรถออกไปทำงานกับพ่อของเธอแล้ว
หญิงสาวที่ใบหน้าปนเศร้าต่างจากทุกวันนั่งลงตรงที่ประจำบนโต๊ะอาหาร เธอนั่งข้างมอร์แกนเพราะพ่อตามใจเธอเรื่องกินนั่งตรงนี้จะได้กินของโปรดทุกอย่างแบบจุใจถ้าวันไหนมาช้าต้องนั่งข้างแม่แคทเธอจะต้องโดนดุเรื่องกินตลอด ใครๆก็อยากให้ลูกสาวหุ่นดียกเว้นพ่อของเธอแต่วันนี้ดูของบนโต๊ะไม่ค่อยน่ากินเท่าไร
"ลูกจันทร์"
แคทเรียกลูกสาวที่กำลังไม่มีสมาธิกินข้าว ลูกจันทร์เอาแต่ชะเง้อคอมองทางจนไม่สนใจอาหารตรงหน้าทั้งที่วันนี้มีแต่ของชอบเต็มโต๊ะ เธอไม่เคยเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ปกติลูกจันทร์จะมีความสุขมากเมื่อนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
"พี่ลูกจันทร์ แม่แคทเรียก"
ลินดานั่งข้างพี่สาวรีบสะกิดเรียกเพราะกลัวพี่สาวโดนดุ และก้มหน้ากินต่อวันนี้เธอมีสอบตั้งแต่เช้าต้องรีบทำเวลาเลยไม่ได้สนใจว่าคนที่โดยสะกิดไม่ได้สนใจเธอเลย
"ป๊ะป๊าค่ะ พี่เอไปไหน"
ลูกจันทร์ที่สังเกตจนแน่ใจแล้วว่าเขาไม่อยู่เพราะต่ำแหน่งที่เขายืนประจำมีคนใหม่มายืนแทนที่ และมันจะไม่เป็นแบบนั่นถ้าเขายังอยู่ ไม่เคยมีใครยืนแทนที่เขาถึงวันนั้นเขาจะติดงานต้องออกไปก่อนพ่อของเธอก็ตาม
"ลูกจันทร์กินข้าวก่อน อย่าเสียมารยาท"
แคทธารีนดุลูกสาวเบาๆ เธอถูกสามีห้ามพูดถึงเรื่องของเอดานเอาไว้และเธอก็เห็นด้วยเพราะลูกจันทร์คงรับเรื่องนี้ไม่ได้ เธอเลี้ยงลูกมากับมือเธอรู้ดี ลูกสาวของเธอคงถามหาบอดี้การ์ดคนสนิทอีกสองสามวันอีกประเดี๋ยวคงลืมไปเอง เดี๋ยวนี้มีอะไรน่าสนใจมากมาย
"ป๊ะป๊า พี่เอไปไหน"
ลูกจันทร์ร้อนใจจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ทุกคนดูแปลกไปทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอถามหาก็จะมีคนตอบไม่ต้องถามซ้ำ แต่นี้ทุกคนทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเธอ
อาการคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึงของลูกจันทร์ทำเอาคนเป็นพ่อเอามือทุบโต๊ะอาหารเต็มแรง ก่อนจะถอนหานใจเฮือกใหญ่เพื่อระงับอารมณ์ร้อนของตัวเอง ลูกเขาอายุแค่สิบห้าทำไมถึงได้ติดผู้ชายแบบนี้ นี่ถ้าไปตามหามันได้ก็คงไปแล้ว ดูท่าทางลูกสาวของเขาสิน่าตีจริงๆ
"คุณหนูทานข้าวเช้าก่อนค่ะ"
ป้ามาลีเข้ามาประคองให้เด็กสาวนั่งลงกับที่ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ เจ้านายของเธอกำลังโมโหลูกสาวของตัวเองและถ้าเกิดคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ขึ้นมาเมื่อไรไม่มีใครห้ามมอร์แกนได้แน่แม้แต่แคทธารีน
"ใครเห็นพี่เอบ้าง"
เมื่อไม่ได้คำตอบจากปากของพ่อเธอก็หันไปถามบรรดาแม่บ้านและลูกน้องของพ่อที่ยืนอยู่รอบๆโต๊ะอาหาร ทำไมวันนี้ทุกอย่างมันดูเหงาๆเหมือนมีใครหายไปนั่นยิ่งทำให้ใจเธอสั่นกลัวว่าเขาจะไม่อยู่
"เอดานไปทำงานให้ป๊ะป๊าที่ต่างประเทศ อีกเป็นเดือนกว่าเขาจะกลับมา นั่งลงแล้วกินข้าว"
มอร์แกนโกหกออกไป เขากำชับให้ทุกคนในบ้านพูดแบบนั้น ลูกจันทร์ผูกพันธ์กับเอดานมากเขาไม่อยากให้ลูกเสียใจแต่เขาต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้ความผูกพันธ์บานปลายเป็นความรัก เขายอมรับว่าเขาเป็นพ่อที่เห็นแก่ตัว
"แต่พ่อส่งอาทอยไปแล้ว ทำไมต้องส่งพี่เอไปอีกคนด้วย"
ลูกจันทร์เสียงดังใส่พ่อของเธอ เธอต้องการรู้คำตอบ ต้องการเจอเขาแม้เพียงเสี้ยววินาทีเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเธอแต่นี้มีเพียงคำตอบที่ฟังไม่ขึ้น พ่อกับแม่ของเธอไม่มีวันส่งเอดานไปทำงานที่อื่นอีกคนแล้วให้ลูกน้องหน้าใหม่ขึ้นมาทำงานแทนคนมีฝีมืออย่างนั่นแน่นอน อีกอย่างลุงนิกไม่มีทางยอมให้คนที่คอยดูแลน้องสาวของเขาต้องไปห่างแบบนั้น
"รีบกินข้าว เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย"
มอร์แกนรวมช้อนวางข้างจานอาหาร แล้วลุกออกจากโต๊ะอาหารไปด้วยความไม่พอใจแต่ไม่ได้แสดงอาการไปมากกว่านั้น ครอบครัวคือทุกอย่างและเขาก็ไม่เคยร้ายใส่ลูกถึงตอนนี้จะหวงลูกสาวจนแทบจับเธอขังเอาไว้
ลูกจันทร์เองก็แรงไม่ต่างจากพ่อของเธอ เธอไม่แตะต้องอาหารบนโต๊ะแม้แต่น้อยรีบวิ่งไปขึ้นรถรอไปโรงเรียนเลย ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนกำลังปิดบังอะไรเธออยู่ด้วย แท้จริงแล้วเขาไปไหนทำไมไม่มีใครบอกเธอ
"พี่เอ"
เด็กสาวที่เคยสดใสร่างเริงมีความสุขกับการกินในทุกๆวันกำลังร้องไห้อยู่เพียงลำพังที่เบาะด้านหลังของรถหรูสีดำที่มาส่งเธอที่โรงเรียน
เธอมองออกไปด้านนอกรถที่มีผู้คนเดินไปมาอยู่ริมถนนเสียงสะอื้นก็ดังกว่าเดิม ไม่มีเขาเดินปะปนอยู่ตรงนั้นเลย แล้วเขาไปไหนทำไมไม่บอกเธอ
"คุณหนูเช็ดน้ำตานะคะ จะถึงโรงเรียนแล้ว"
มาลีสงสารเด็กสาวแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เธอไม่มีสิทธิ์พูดความจริง เพียงแต่ปลอบใจให้เด็กสาวดีขึ้นเท่านั้น
"ปิดเครื่อง"
เหมือนใจแตกสลาย เสียงเล็กสั่นเครือจนฟังแทบไม่ออก มือที่ถือโทรศัพท์อยู่เหมือนไร้เรี่ยวแรง เธอเคยโทรหาเขาถึงเขาจะไม่รับเพราะทำงานอยู่แต่ไม่เคยปิดเครื่องจนติดต่อไม่ได้แบบนี้ ทุกคนกำลังโกหกเธอ เขาไปแล้ว
สาวน้อยที่ดูซูบลงถนัดตากำลังนั่งวางแผนการให้กับวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้กับเพื่อนสนิทอย่างเจด้าที่มีนิสัยต่างจากเธอสุดขั้วแถมแต่ละแผนที่ลูกจันทร์พูดออกมาก็ถูกเจด้าสกัดเอาไว้หมดเพราะเธอขี้กลัวโดยเฉพาะมาเฟียอย่างพ่อของเธอ
"ทัศนศึกษา"
แผนสุดท้าย ที่ลูกจันทร์บังคับให้เจด้าเชื่อเธอเพราะโรงเรียนมีโครงการไปทัศนศึกษาจริงเพียงแต่เป็นคนละห้องกับที่สองสาวนี้เรียนอยู่เท่านั้นเอง
"ใช่"
ลูกจันทร์กำลังมองไปยังกลุ่มเพื่อนที่เธอจะพอไปขอยืมโปรแกรมทัศนศึกษาไปหลอกครอบครัวได้และกลับมาจ้องเพื่อนให้ทำตามเธอ หลายวันที่เอดานหายไปเธอก็ได้เจด้าคอยปลอบจนคลายความเสียใจลงได้บ้างแต่มันไม่ได้ดีขึ้นทั้งหมดเธอต้องการเจอเขา
"ลูกจันทร์จะโกหกพ่อกับแม่แบบนั้นเหรอ"
เจด้าตาโตขึ้นมาอีกรอบไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะเอาจริง เพื่อนที่ลูกจันทร์จะไปขอร้องให้ช่วยก็ไม่ใช่เด็กดีอะไรพวกนั่นไม่มีทางช่วยแน่นอนและพ่อกับแม่ของลูกจันทร์ยิ่งไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้เข้าไปใหญ่ แผนนี้ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน
"ถ้าเจด้ากลัวก็ไม่ต้องไป ลูกจันทร์ไปคนเดียวได้"
เธอไม่กลัวอะไรถึงจะไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียว แต่เพื่อจะไปตามเขากลับมาเธอต้องทำได้ ไม่มีใครมาขวางทางเธอหรอกงานนี้ต้องสำเร็จ
"ไปแล้วจะเจอเขาไหม"
จากที่ลูกจันทร์บอกเธอ สถานทีที่ต้องไปหาเอดานอยู่ไกลออกไปเป็นร้อยกิโลและก็ดูจะห่างไกลชุมชนเพราะแถวนั้นเป็นสถานที่ทำการเกษตรมีแต่ไร่และสวนไม่ค่อยมีคนอยู่อาศัยแถมอันตรายรอบด้าน เธอเริ่มไม่มั่นใจว่าจะสำเร็จตามที่ปากของเพื่อนพูดไหม
"ไม่รู้"
ลูกจันทร์สายหน้าจนผมของเธอปลิ้วไปตามแรง พร้อมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเองอย่างไม่ตั้งใจ เธอห้ามความคิดถึงไม่ได้ เวลามีเขาอยู่เขาก็หลบหน้าแต่ยังไม่เสียใจเท่าเขาหายไปโดยไม่บอกสักคำ
"เราไปไกลขนาดนั้น แต่ลูกจันทร์ไม่มั่นใจว่าจะเจอ เราหาที่อยู่ของพี่เอให้แน่ใจกว่านี้ก่อนดีไหม"
เจด้าพยายามทำให้เพื่อนมีสติคิดให้รอบคอบ เพราะการต้องโกหกพ่อแม่ก็เรื่องใหญ่เกินตัวอยู่แล้วและถ้าไปแล้วไม่เจองานนี้จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
"ลูกจันทร์มีข้อมูลแค่นี้"
เธอควักประวัติของเอดานตั้งแต่เขามาสมัครงานเมื่อตอนเด็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กระดาษกับรูปที่ถูกติดอยู่บนกระดาษเก่าจนมองแทบไม่ออกว่าเป็นของใคร
"เธอไปขโมยเอกสารของพ่อเธอมาเหรอลูกจันทร์"
เอกสารพวกนี้ไม่มีใครเอาออกมาดูกันหรอก ใครก็รู้ว่าลูกน้องของพวกมาเฟียมีประวัติที่เป็นความลับขั้นสุดยอดแต่เพื่อนของเธอกลับมีมันอยู่ในมือ ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุกจะตายเอาตอนไหนยังไม่รู้เลยเพื่อนของเธอจะกล้าไปถึงไหนกันเนี้ย
"แค่ขอมาดู"
ลูกจันทร์แอบเข้าห้องทำงานของพ่อเธอและควานหาเอกสารใบนี้อยู่หลายวันตั้งแต่เอดานหายไปกว่าจะเจอเธอก็เกือบถอดใจเหมือนกันและกว่าจะรู้ว่าเขามีบ้านอยู่ที่ไหนเธอก็ต้องเพ่งตัวหนังสือจางๆพวกนี้เป็นร้อยรอบพันรอบเพื่อจะอ่านมันให้ออก
"แล้วอาทอยล่ะ ที่เคยทำงานกับพ่อของลูกจันทร์ เขาไม่รู้เรื่องเหรอ"
เธอสนิทกับลูกจันทร์เด็กอ้วนที่ไม่ค่อยมีใครคบคนนี้มาก เธอรู้จักทุกคนในบ้านของลูกจันทร์เพราะเคยไปที่บ้านนั้นมาและลูกจันทร์ก็เล่าถึงคนในบ้านแทบจะทุกคนให้เธอฟังโดยเฉพาะเอดาน
"ทุกคนตอบเหมือนกันหมดอย่างที่เล่าให้ฟัง"
เสียงที่เคยสดใสกลับแปรเปลี่ยนมีแต่ความเศร้าสร้อยปะปนอยู่ในนั่น สาวน้อยที่เหมือนจะดีขึ้นจากวันนั้นที่รับรู้ว่าเขาไม่อยู่แล้วแต่เธอกลับพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเท่านั้นในใจของเธอยังคงปวดร้าวระบมเหมือนวันแรกไม่มีผิด เธอยังคงเฝ้ารอและหาทุกหนทางเพื่อไปตามเขากลับมาให้ได้