“หวาน เอาจริงเหรอ” วาวาดึงมือฉันเอาไว้ตอนที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหาพี่นีน่า พี่ที่ทำงานของวาวา พอดีเจ้แกมีอาชีพเสริมค่ะแล้วก็เคยเห็นวาวาถ่ายรูปคู่ฉันลงใน facebook บ่อย ๆ เคยบอกวาวาให้มาถามฉันเมื่อเทอมที่แล้วอยู่ว่าสนใจจะหาคนเลี้ยงไหมแต่วาวาก็รีบปฏิเสธไปทันที แจ๊คพอตก็เลยไปตกอยู่ที่อีน้ำผึ้งเน่าค้างปี ที่ดันคล้ายฉันที่ตรงสเปคอีตาเสี่ยนั่นพอดี
“อืม กูคิดดีแล้ว ไหน ๆ กูต้องซวยแบบนี้กูก็ขอแย่งเสี่ยอีผีนั่นเลยแล้วกัน มึงรอข้างนอกก็ได้กูไปไม่นานหรอก” ฉันบอกวาวาที่เอาแต่ยืนทำหน้าเป็นกังวลแล้วก็เดินเข้าไปหาพี่นีน่าที่รออยู่
“สวัสดีค่ะ พี่นีน่าใช่ไหมคะ” ฉันเดินเข้าไปทักผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยเฉี่ยวที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมหนึ่งของร้านอาหาร
“จ้า น้ำหวานใช่ไหมนั่งสิ” พี่นีน่ายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรแล้วก็เชิญให้ฉันนั่งลงพร้อมกับยื่นเมนูให้ฉันสั่งอาหารทาน
“กินไรมารึยัง สั่งอาหารก่อนสิ”
“หวานเรียบร้อยมาแล้วค่ะ เอ่อคือ...เราเข้าเรื่องเลยได้ไหมคะ” ฉันบอกพี่นีน่าเบา ๆ ด้วยความเกรงใจปนอายด้ว ที่ต้องมาคุยเรื่อง เฮ้อ! นั่นแหละอย่าพูดถึงมันเยอะเลย ทำให้พี่นีน่ายิ้มออกมาเบา ๆ แล้วมองหน้าฉัน
“อยากทำงานนี้จริง ๆ เหรอ”
“ไม่อยากค่ะแต่มันจำเป็น หวานมีเรื่องต้องใช้เงินด่วนที่สุด” ฉันบอกพี่นีน่าไปตามตรง
“อื้ม แล้วพอจะบอกพี่ได้ไหมว่าทำไมถึงต้องขอพี่ว่าเป็นคนเดียวกับที่เลี้ยงน้ำผึ้ง” พี่นีน่าถามด้วยความสงสัย ฉันกลั้นใจไปพักหนึ่งไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าว่ายังไงเพราะพี่นีน่าเองก็รู้จักน้ำผึ้งมาก่อนฉัน ส่วนฉันถือเป็นคนแปลกหน้าด้วยซ้ำพูดมากไปเดี๋ยวจะไม่ดี
“หวานจำได้ว่าพี่เคยติดต่อหวานผ่านวาวาไปให้คนนี้ แต่พอไม่ตกลงน้ำผึ้งเลยได้รับแทน...หวานได้ข่าวมาไม่ผิดใช่ไหมคะ” ฉันถามพี่นีน่าไปเบา ๆ อย่างเกรงใจเพราะรู้มาว่าลูกค้าแต่ละคนจะ VIP มาก ไม่เปิดเผยชื่อเลยสักคน
“อื้ม โอเค ถ้าตกลงแล้วก็ห้ามเปลี่ยนใจนะจ้ะเพราะถ้าพี่ส่งโปรไฟล์เราไปแล้วลูกค้าคนนี้เขาโอเค นั่นหมายความว่าหวานต้องเป็นของเขา ต่อให้หวานหนีเขาก็เอาหวานกลับมาได้” พี่นีน่าพูดขึ้นเสียงจริงจังมากจนฉันรู้สึกเสียวสันหลัง พูดแบบนี้เสี่ยที่ว่าคงหนีไม่พ้นมาเฟียเฒ่าที่มีบริวารเป็นร้อยแน่เลย
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับทำให้พี่นีน่ายิ้มออกมา
“ดีมากจ้ะ งั้นก็ไปเลยดีกว่า เราไปเตรียมโปรไฟล์กัน” พี่นีน่าขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับควักแบงค์พันออกมาวางไว้ที่โต๊ะเป็นค่าน้ำกับขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พี่เขาสั่งมาทำฉันเสียดายเงินทอนมาก เงินทอนมันต้องหลายร้อยแน่เลย อีหวานขอเอาไปสมทบกับเงินที่หายไปได้ไหม T__T
ฉันเดินตามพี่นีน่าไปที่ไปรถระหว่างเดินก็ไลน์บอกวาวาให้ไปทำงานได้เลยไม่ต้องเป็นห่วงแล้วก็ขึ้นรถพี่นีน่าไปที่สตูดิโออะไรสักอย่างเพื่อถ่ายรูป นี่ต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย พี่นีน่าจับฉันเติมหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ดูดีขึ้นแล้วก็เรียกตากล้องมาถ่ายทันที ถ่ายหลายช็อตหลายมุมจนฉันเขินไปหมด แต่ที่ยิ่งกว่าเขินคืออาย ไม่รู้ว่าตากล้องเขารู้ไหมว่าฉันมาถ่ายรูปเพื่ออะไร แต่อาจจะรู้ก็ได้เพราะพี่นีน่าก็ดูจะสนิทกับตากล้องคนนี้มาก ๆ
“เซ็ทนี้เสร็จแล้วเดี๋ยวหวานไปล้างหน้าเลยนะจ๊ะจะได้มาถ่ายเซ็ทสุดท้ายต่อ” พี่นีน่ายิ้มให้ฉัน แต่อีหวานนี่สิที่เหวอแล้ว นี่จะไปเป็นเด็กเสี่ยหรือไปประกวดเดอะเฟสคะ ตั้งแต่เกิดมาฉันโชว์หน้าสดนับครั้งได้เลย แต่เอาวะ! ขึ้นหลังเสือแล้วนี่ลงได้ที่ไหนกันล่ะ
-1 ชั่วโมงต่อมา-
“เดี๋ยวพี่จะส่งโปรไฟล์หวานไปนะ แต่หวานต้องไปตรวจเลือดมาให้พี่ก่อน” พี่นีน่าบอกหลังจากที่เราขึ้นรถมากันแล้ว คำพูดของพี่นีน่าทำฉันเหวออีกรอบแล้ว ต้องตรวจเลือดอีกเหรอคือหนูต้องใช้เงินพรุ่งนี้ไง! นึกว่าแค่ไปหาเสี่ยให้ดูตัวตกลงก็จ่ายเงิน แต่ดันหลายขั้นตอนชะมัด แล้วพรุ่งนี้จะเอายังไง ตายแน่อีหวานเอ้ย~
“พี่นีน่าคะคือหวานมีความจำเป็นต้องใช้เงินพรุ่งนี้น่ะค่ะ” ฉันบอกพี่นีน่าก่อนจะชั่งใจอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจเล่าความจำเป็นให้พี่นีน่าฟัง
“วันนี้คงไม่ทันหรอกหวาน” หลังจากพี่นีน่าฟังเรื่องที่ฉันเล่าเสร็จก็บอกออกมาด้วยน้ำเสียงเห็นใจ ทำให้ฉันใจแป้วไปเลย เดดไลน์กำลังจะมาถึงแล้วจริง ๆ
“แต่ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่ลองส่งรูปไปให้เขาดูตอนนี้ ว่าแต่หวานสดแน่นะ” พี่นีน่าพยายามหาทางช่วย แต่คำถามสุดท้ายทำให้ฉันหน้าแดงเถือกไปเลย
“คะ? ค่ะ หวานไม่เคยค่ะพี่นีน่า” ฉันพยักหน้ารับ
“ชัวร์นะ บอกซิงถ้าไปถึงไม่ซิงโดนเก็บไม่รู้ด้วยนะ” พี่นีน่าถามทีเล่นทีจริง
“หวานไม่เคยมีแม้แต่แฟนเลยค่ะพี่นีน่า”
“โอเค เลิศมากจ้า” พี่นีน่ายิ้มแล้วก็ก้มหน้าลงไปกดโทรศัพท์
ติ๊ง!
เสียงข้อความจากโทรศัพท์พี่นีน่าดังขึ้นในเวลาต่อมา พี่เขาก็ก้มหน้าก้มตาคุยโดยที่ไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด แล้วก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มระรื่น
“ป้ะ!”
“ไป ไปไหนคะ” ฉันถามงง ๆ
“ไปเริ่มงานกันไง ลูกค้าตกลงแล้วหวานเข้าไปหาเขาได้เลย”
“ฮะ! จะ จริงเหรอคะ” พอฉันได้ฟังคำตอบแบบนั้นทั้งที่ตอนแรกอยากได้งานมากเพราะร้อนเงิน แต่พอได้จริง ๆ ก็ไม่พร้อมเอาซะดื้อ ๆ
“อย่าทำหน้าแบบนั้น พี่บอกแล้วใช่ไหมให้คิดดี” พี่นีน่ามองฉันเขม็งเหมือนรู้ทันความรู้สึกของฉันนั่นทำให้ฉันจำคำพูดของพี่นีน่าได้ทันที
“ถ้าตกลงแล้วก็ห้ามเปลี่ยนใจนะจ้ะเพราะถ้าพี่ส่งโปรไฟล์เราไปแล้วลูกค้าคนนี้เขาโอเค นั่นหมายความว่าหวานต้องเป็นของเขา ต่อให้หวานหนีเขาก็เอาหวานกลับมาได้”
“ค่ะ หวานพร้อมแล้ว” เอาวะ! ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดในตอนแรกแต่ตอนนี้รู้แล้วว่าคิดผิด แต่แล้วยังไงล่ะก็มันถอยไม่ได้ ลูกค้าที่พี่นีน่าบริการมีแต่ระดับ Super vip ฉันเสนอตัวไปแล้วถ้าเบี้ยวเขาคงได้หมดลมหายใจแน่นอน
-เวลาต่อมา-
“...”
ตอนนี้ฉันมาหยุดอยู่ที่สถานที่หนึ่งที่เป็นคอนโดหรูกลางกรุงเทพมหานคร ตึกที่ฉันชอบแหงนหน้ามองตลอดเวลาที่ได้นั่งรถผ่านเพราะอยากรู้ว่าข้างในมันมีอะไรทำไมถึงต้องสร้างให้ยิ่งใหญ่อลังกาลมากมายขนาดนี้ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันมีอะไรอยู่ข้างในและมันหรูหรามากแค่ไหน เพราะชั้นที่ฉันอยู่เป็นชั้นที่เป็นส่วนของที่พักอาศัย และทั้งชั้นเป็นของคนแค่คนเดียว
อ้อ! ลืมบอก ฉันอยู่ชั้น 69 นะคะ อี๋~ แค่เห็นตัวเลขชั้นก็รู้แล้วว่าเสี่ยที่จะเลี้ยงฉันต้องเป็นไอ้แก่ตัญหากลับแน่นอน!
“เชิญครับ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่หน้าประตูผายมือเชิญให้ฉันที่ตอนนี้ฉายเดี่ยวขึ้นมาคนเดียวเข้าไปภายในห้องส่วนพี่นีน่าไม่ได้ขึ้นมาเพราะตาเสี่ยอยากจะอยู่กับฉันเป็นการส่วนตัว
ฉันค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปด้วยใจสั่นระรัว ในใจคิดถึงแต่เพลง ๆ หนึ่งที่ร้องว่า...กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง ทำไมมันเหมือนชีวิตอีหวานตอนนี้ขนาดนี้วะ!
พอก้าวเข้าไปข้างในคนที่อยู่ด้านนอกก็ปิดประตูห้องให้เบา ๆ ทำให้สายตาฉันหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้ฉันอยู่ โอ๊ยไอ้เสี่ย! แค่ฉันเข้ามาเหยียบชั้น 69 ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว นี่ยังจะมานั่งหันหลังให้ฉันลุ้นอีกนะว่าหน้าตาจะเป็นยังไง!
แล้วยังไงต่อ? ฉันต้องเอ่ยทักก่อนไหมหรือต้องเดินไปยั่วมันถึงที่ สงสารอีหวานที่สุดที่เกิดมาไม่เคยมีผัว แต่ชะตาชีวิตชั่ว ๆ ผลักดันให้มาเป็นเด็กเสี่ย เพราะฉะนั้น! หันหน้ามาเดี๋ยวนี้ไอ้เสี่ยลงพุง ไอ้ตัณหากลับ ไอ้งั่งหัวล้าน!