-หลายวันต่อมา-
หลังจากวันนั้นผ่านมาเกือบอาทิตย์ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยที่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยช่วย จนตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปมาก จากผมที่เคยสีดำสนิทยัยสองคนนี้เปลี่ยนฉันให้มีผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าฉันขาวผุดผ่องขึ้นมาเป็นกอง ไหนจะลองให้ฉันเปลี่ยนโทนการแต่งหน้าแล้วก็ยกเซ็ตเสื้อผ้าให้ฉันแทบทั้งหมด จนตอนนี้ฉันกลายเป็นสาวสวย เฉี่ยว เปรี้ยว เผ็ดเป็นที่เรียบร้อย
อ้อเรื่องเสื้อผ้าต้องยกให้เป็นความดีความชอบของมิลานค่ะ เพราะฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดหรอก ถึงพ่อแม่จะส่งมาให้ใช้แต่ละเดือนไม่ได้น้อยหน้าใคร แต่ฉันรู้ดีว่าครอบครัวฉันไม่ได้ร่ำรวยมากอย่างใครเขา เงินแต่ละบาทที่พ่อแม่ส่งมาให้แลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของท่านทั้งนั้น เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยอมเอาเงินพ่อแม่มาใช้จ่ายด้วยเรื่องไร้สาระเด็ดขาด
แต่เพราะมิลานมันมีแบรนด์เสื้อผ้าของมันเองแถมขายดิบขายดีซะด้วย มันยกมาให้ฉันทุกแบบเลยล่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่รับหรอกนะของซื้อของขาย มันเลยยื่นข้อเสนอที่มันเสนอฉันมาหลายรอบแล้วว่าให้เป็นนางแบบเสื้อผ้าให้แต่ไม่เคยยอมเป็นให้สักทีรอบนี้ฉันเลยยอมรับข้อเสนอแลกกับเสื้อผ้าก็แฟร์ทั้งสองฝ่ายดี
“มึง~ สวยมากค่าลูกสาว สวยปะล้ำปะเหลือ สวยจนหมาหน้าคณะมอง ฮ่า ๆๆ” เสียงอีแมนนี่กระเทยปากหมาเจ้าเดิมเอ่ยทักในเช้าวันศุกร์หรรษา อีนี่มันชอบกัดเพื่อนจัง ขอให้ไม่มีผัวทีเถอะ
“เทย มึงก็สวยนะคะ สวยแบบผี ๆ ดีจัง” ฉันตอกกลับมันบ้างแบบขำ ๆ
“อีนี่! แต่มึงสวยจริง ๆ ค่ะ แค่ชุดนักศึกษายังสวยขนาดนี้ถ้าไอ้ตินไม่มองกูยอมมีเมียเลยเอ้า”
“ระวังจะต้องมีจริง ๆ นะมึง” ฉันแซวมันกลับจนมันมองแรงใส่ไปหนึ่งที
ติ๊ง!
“พวกมึงนี่กัดกันแต่เช้าเลยนะคะ” มิลานนั่งฟังพวกฉันกัดกันมานานก็บ่นออกมา แล้วก็จับโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความที่แจ้งเตือนเมื่อกี้
“มึง กูเอือม กูเบื่อ โอ้ย!” จู่ๆ มันก็วีนขึ้นมาหลังจากที่จับโทรศัพท์จนพวกฉันตกใจต้องรีบหันไปดูมันแทบจะทันที
“เป็นไรมึง” ฉันถามด้วยเป็นห่วง มิลานกรอกตามองบนแล้วยื่นโทรศัพท์ให้พวกฉันดู พอดูเสร็จพวกฉันเลยเข้าใจอารมณ์ของมันทันที
“โอ้ย! อีผี กูอยากลาบวช” อีแมนนี้วีนขึ้นมาแล้วฟุบหน้าลงไปบนเตียง ฉันเองก็เซ็งไม่ต่างกันเพราะหัวหน้าห้องส่งข้อความเข้ามาในกรุ๊ปบอกว่าคาบเช้าและบ่ายอาจารย์ยกคลาสทั้งคู่
กูมาทำไม! T__T
“มึง อาจารย์เค้ากลัวพวกเราตื่นสายเหรอวะถึงชอบบอกตอนจะถึงเวลาขึ้นเรียนเนี่ย” ฉันบ่นอีกคน ใครเป็นนักศึกษาแล้วไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้ฉันยอมกราบเลยค่ะ
“มึงงั้นไปห้องกูเลยดีกว่า ไปหาเสื้อผ้ากันคืนนี้วันเกิดเควินอย่าลืม” มิลานชวนพวกฉันไปคอนโดมัน แล้วก็ทำหน้ากระดี้กระด้าเมื่อพูดถึงปาร์ตี้วันเกิดของเควินที่จะจัดขึ้นในคืนนี้
“เออว่ะ ตาย ๆ กูยังไม่ได้เตรียมของขวัญให้ผัววินขาของกูเลย” แมนนี่เอ่ยขึ้นเสียงดังทำท่ากระวนกระวาย
“แหมตุ๊ด ทำโอเวอร์อย่างกับวันเกิดผัวตัวเองนะยะ มึงไม่เอาตัวมึงผูกโบว์ให้เควินเลยล่ะ” ฉันกัดมันด้วยความหมั่นไส้แมนนี่เลยเบ้ปากใส่ฉันเล็กน้อย
“ได้ไหมล่ะ ถ้าได้กูผูกเลย กูอยากถวายตัวให้มันตอนนี้เลย”
“ฮ่า ๆๆ ไป ๆ แต่แวะห้างก่อนได้ไหมกูก็ยังไม่มีของขวัญให้เควินเหมือนกัน” ฉันหัวเราะท่าทางของแมนนี่แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพวกมันสองคนก็เห็นด้วย พวกเราเลยไปเดินห้างเพื่อหาของขวัญวันเกิดให้เควินกันก่อน
-The most-
“ลูกสาวมึงเลิศมาก~ แต่มิลานทำไมวันนี้มึงเบาจังวะ” แมนนี่มองหน้าฉันกับมิลานสลับกันแล้วปรบมือหนึ่งครั้งอย่างพึงพอใจในผลงานที่มันปั้นแต่งลงบนหน้าฉันอย่างจัดเต็ม แล้วหันไปถามมิลานที่วันนี้ดูจะแต่งตัวเบากว่าทุกครั้ง ปกติเซ็กซี่ตัวแม่อย่างมันไปเที่ยวผับไม่มีเบาแน่นอน
“กูอยากให้วันนี้อีมินมันเด่นสุด เอาให้เจ้าของวันเกิดตาค้าง” มิลานพูดแล้วยิ้มเย็นยะเยือกแต่กลับทำให้ฉันกับแมนนี่งง
“เกี่ยวไรกับเควินวะ โจทย์อีมินคือไอ้ตินนะอีมิ” แมนนี่ถามในคำถามที่ฉันเองก็สงสัยไม่ต่างจากมัน
“เควินมันเป็นเพื่อนรักออสติน แถมยังเจ้าชู้ตัวพ่อเสน่ห์ก็แรงไม่แพ้กัน ตอนนี้มึงแซ่บมากถ้า เควินสนใจมึงแล้วมึงก็เล่นหูเล่นตากัยยเควินพร้อมกับเมินออสติน พวกมึงคิดว่าผู้ชายแบบออสตินจะไม่หวงก้างเหรอ”
“เออว่ะ ความคิดมึงดีจัง” แมนนี่ฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยกับมิลาน
“แต่จะดีเหรอ ไปเล่นกับความรู้สึกคนอื่น อีกอย่างเควินก็ร้ายไม่เบาเลยนะ” ฉันถามมันขึ้นเพราะกังวลว่าจะเอาตัวรอดจากเควินไม่ได้น่ะสิ ถึงแม้ว่าเควินจะไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง แต่นี่ไปเล่นกับความรู้สึกเขา กิดเขารู้ความจริงขึ้นมาแล้วคิดแก้แค้นฉันด้วยวิธีรุนแรงขึ้นมาล่ะ
“มึงก็อย่าไปถึงเนื้อถึงตัวสิ เอาแค่คุยกับเควินเยอะหน่อย แล้วก็ไม่ชายตาแลออสตินเลยแบบนั้นก็คงได้แหละ ลองดูเชื่อกู” มิลานตอบมาอย่างมั่นอกมั่นใจ เอาว่ะลองดูก็ได้
“อืม กูจะลองดู” ฉันสูดหายใจขึ้นเต็มปอดเพื่อเรียกพลังแล้วตกปากรับคำมันก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปในผับที่เป็นสถานที่จัดงาน
เควินจัดงานที่ผับของเพื่อนรักของเขาเองซึ่งไม่ใช่ผับใครที่ไหนผับของออสตินไงล่ะวันนี้ผับเลยปิดเพื่อกันไม่ให้คนนอกเข้ายกเว้นคนที่ได้รับบัตรเชิญเท่านั้น พอเข้ามาในงานฉันก็เจอแต่บรรดาคนดังของมหาลัย ดารา นักร้องวัยรุ่น นางแบบนายแบบชื่อดัง แล้วก็พวกไฮโซมากมาย แขกในงานอลังการมาก ฉันนี่ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอคนดังพวกนี้ที่สุด
แต่มีอีกคนที่ทำให้ฉันตื่นเต้นมากกว่านั้นทั้งที่เข้ามายังไม่เจอเขาเลย ออสตินไงคะ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นฉันก็พยายามหลบหน้าเขามาตลอด ส่วนเขาเองก็ไม่ได้มาหาหรือติดต่อมาเลย ซึ่งมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะฉันก็แค่ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาแค่ชั่วคราวเท่านั้น
“ฮาย~ เควิน เบิร์ดเดย์ค่า” เสียงแหลมของอีแมนนี่เอ่ยทักเจ้าของวันเกิดเรียกความสนใจให้คนในบริเวณนั้นหันมามองมันได้เป็นอย่างดีก่อนที่มันจะไปคล้องแขนเควินแล้วยื่นของขวัญให้พร้อมกับถ่ายรูปคู่เจ้าของงานอย่างระริกระรี้ ฉันกับมิลานได้แต่ขำท่าทางแรด ๆ ของมัน
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะวิน มีความสุขมากๆ นะ” ฉันยื่นของขวัญให้เควินแล้วยิ้มให้เขา
“ขอบคุณมากนะมิน แมนนี่ มิลาน ไม่น่าลำบากหาของขวัญเลยแค่มาก็ดีใจแล้ว มาๆ ถ่ายรูปกัน” เควินเอ่ยกับพวกเราทุกคน แต่สายตากลับจ้องมองมาแค่ฉันแบบหวานเยิ้ม เยิ้มมาก ๆ เลยล่ะ อย่าบอกนะว่าเควินจะตกหลุมเสน่ห์ฉันแบบที่มิลานมันต้องการจริง ๆ
“ไม่ลำบากหรอก วันเกิดวินทั้งทีนี่นา” ฉันตอบเขาด้วยรอยยิ้ม เควินก็ยิ้มกลับมาให้
“มา ๆ มาถ่ายรูปกันดีกว่า” เควินยิ้มให้ฉันแล้วก็เรียกพวกเราทุกคนไปถ่ายรูปรวมกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งฉันเห็นออสตินเดินเข้ามา
การเห็นเขามันทำให้สติฉันแทบหลุดถึงแม้จะรู้ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องเจอกัน ทั้งที่เตรียมใจมาแล้วเชียว แต่ใจมันกลับสั่นแล้วก็ทำตัวไม่ถูกจนมิลานรีบสะกิดฉันแล้วส่งซิกทางสายตาเหมือนเตือนสติ ฃฉันก็เลยพยายามปั้นหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้ในใจจะสั่นแทบตายก็เถอะ
“ไงมึง กว่าจะลงมาได้” เควินเอ่ยทักออสตินที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา เขาปลายตามามองฉันแค่แป๊ปเดียวแล้วก็หันไปคุยกับเควิน
“เพิ่งเสร็จ” นายนั่นตอบด้วยใบหน้านิ่งมันทำให้ฉันสงสัยอยู่นิดหน่อยว่าเขาไปทำอะไรมา แต่พอสังเกตดี ๆ ถึงได้เห็นว่ามีผู้หญิงเดินตามหลังเขามาด้วย
“เบิร์ดเดย์นะคะพี่เควิน” ยัยผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังออสตินก้าวขึ้นมายืนข้างออสตินแล้วยื่นของขวัญให้เควินแล้วเอาแขนไปคล้องออสตินเหมือนอยากแสดงความเป็นเจ้าของ จากนั้นก็ทำเป็นจับที่คอ
โอเคเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงจับคอแล้วทำเหมือนอยากให้ฉันกับมิลานเห็น คอยัยนี่เป็นรอยแดงนี่เอง แดงมากแถมยังหลายรอยด้วย ฉันเข้าใจในทันทีว่าที่เดินมาจากชั้น 3 แล้วเพิ่งเสร็จนี่คือเสร็จจากอะไร
เจ็บฉิบหายเลย
“ขอบคุณครับ มึงนี่ทำไรไม่เห็นหัวเจ้าของงานเลยนะไอ้ห่า จัดเร็วชิบ มา ๆ ถ่ายรูปกันดีกว่าทุกคนเลย” เควินขอบคุณผู้หญิงคนนั้นแล้วเอ่ยแซวออสติน ก่อนจะชวนให้พวกเราทั้ง 6 คนถ่ายรูปด้วย
มิลานกับแมนนี่รู้งานให้ฉันยืนใกล้เควิน พวกเรา 6 คนถ่ายรวมกันแค่ 2-3 รูป แมนนี่กับมิลานก็ปลีกตัวออกจากเฟรม
“เอารูปคู่ดีกว่าเนอะ จะได้มีไว้โพสลงโซเชียลด้วย ทีละคนเลย อ่ะๆ น้องก่อนเลยค่ะ” แมนนี่บอกแล้วก็ดันยัยน้องผู้หญิงคนนั้นเข้าไปถ่ายรูป แล้วมันก็จัดแจงให้ทุกคนไปถ่ายรูปคู่กับเควินอย่างรวดเร็ว จนเหลือฉันเป็นคนสุดท้าย
“เควินขาโอบเอวมินตรานิดนึง ดีมากค่า มองตาค่ะรูปต่อไปมองตา ว๊ายดีเลิศประเสริฐศรี~” เสียงแมนนี่คอนโทลท่าทางของฉันกับเควินตลอดเวลาที่ถ่ายรูป มันจัดแจงยัดเยียดให้ฉันกับเควินถ่ายรูปกันมาก แล้วถ่ายนานกว่าคนอื่น แต่ดูเหมือนเควินจะเต็มใจและดูสนุกกับการถ่ายน่าดูทำเอาฉันสนุกไปด้วยเหมือนกัน
อ้อ มิลานก็ช่วยเสริมนะคะ แต่ไม่ได้เสริมมากตามสไตล์คนนิ่ง ๆ แบบมันนั่นแหละ ส่วนออสตินกับน้องปากแดงก็ยืนดูพวกฉันถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน (ยัยนี่ทาปากแดงมาก ขนาดอยู่ในผับมืด ๆ ยังมองเห็นสีปากชัด เหมือนไปกินเลือดใครมายังไงยังงั้นล่ะ อีปอบ)
“กอดเลยค่า มองตาค่ะ มินมินยิ้มนิด ๆ ค่ะลูกสาว ว้าย~ เลิศมากลูกสาวคุณแม่ ยังกะถ่ายพรีเวดดิ้ง” อีแมนนี่ยังชงไม่เลิกอีบ้า ชงจนฉันเริ่มเขินแล้วเนี่ย ฮ่า ๆๆ
ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าเหมือนฉันจะแอบเห็นประกายของความไม่พอใจออกมาจากตาออสตินเป็นพัก ๆ เวลาที่ฉันหันไปสบตากับเขาโดยบังเอิญเขาจะถลึงตาใส่ฉันตลอด แต่ช่างสิใครแคร์ อยากให้หึงมาก ๆ นี่แหละ หึงสิหึงเลย ฮ่า ๆๆ
“เหมือนจริงดิแมนนี่ ดีเลยเผื่อได้ใช้จริง ฮ่า ๆๆ” จู่ ๆ เควินก็ถามแมนนี่ไปแบบนั้นทำเอาฉันเขิน
“วิน! อย่าพูดแบบนี้ อายเขา” ฉันยิ้มแล้วตีเควินเบา ๆ ไปทีหนึ่งอย่างอาย ๆ เควินก็เลยยิ้มแล้วหัวเราะให้ฉันเบา ๆ ถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาแต่ต้องยอมรับเลยนะว่าเควินก็ไม่ได้มีเสน่ห์น้อยไปกว่าออสตินสักนิด ผู้ชายฮอต ๆ มาพูดแบบนี้ฉันก็ต้องเขินเป็นธรรมดาไหมล่ะ >///<
“หึ! มึงจะไม่เลือกหน่อยเหรอวะ จะจริงจังต้องเช็คตำหนิหน่อยนะ”