ต่อให้เมื่อคืนเดือนอ้ายไม่ได้มา ก็ถือว่ามันเคยมาละวะ ในเมื่อตบแม่มันไม่ได้ ก็ขอลงกับผลผลิตของไอ้ผัวเฮงซวยของหล่อนแล้วกัน!
เดือนอ้ายเห็นท่าไม่ดี รีบลุกจะหนีกลับบ้าน แต่นงนุชมือไวคว้าผมแกละของสาวน้อยไว้ทัน หล่อนกระชากจนเดือนอ้ายหน้าหงาย
“โอ๊ย”
“จะหนีไปไหน อีตัวดี!”
“พอๆ พอได้แล้วน่า เด็กมันเจ็บนะแม่นุช”
เสียงทุ้มในแบบผู้ชายที่ดังขึ้นด้านหลังราวกับเสียงสวรรค์ที่สว่างวาบในใจเดือนอ้าย...พ่อ...สาวน้อยเหลือบตามองชายวัยกลางคนผมสีดำปนดอกเลา เขาแก่เหี่ยวอย่างคนทำงานหนัก ไม่มีเค้าความหล่อในวัยหนุ่มเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
“อย่ามาเสือก ไอ้แก่!” นงนุชหันไปตวาด “หรือแกอยากโดนด้วย ไปขายของ โน่น ลูกค้ามารอแล้ว”
สมศักดิ์เหลือบตามองลูกชู้ของเขาด้วยความสงสารจับใจ แต่ใครๆ ก็ต้องเอาตัวรอดกันทั้งนั้น ชายเจ้าของเขียงหมูจึงปล่อยมือจากแขนอวบๆ ของเมียแต่ง เดินไปหาลูกค้าที่ดูอึ้งกันไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีใครซื้อหมู มีแต่เดินหนีไปเพราะไม่อยากเอาตัวเองไปใกล้ปัญหาของคนอื่น
“พ่อ”
เดือนอ้ายครางในคอ ไม่คิดว่านงนุชจะหูดีได้ยิน
“มึงเรียกใครพ่อ อีเด็กวอนตีน!!!”
นงนุชโกรธจนลมออกหู หล่อนผลักเดือนอ้ายออกห่างแล้วยกเท้าขึ้นมาหวังจะถีบให้เต็มฝ่าเท้า! ทว่าใครบางคนดึงตัวเดือนอ้ายหลบไปทัน นงนุชจึงถลาล้มหน้าคว่ำดังโครม!
แม่ค้าหลายคนที่ไม่ชอบหน้านงนุชเพราะหล่อนปากจัด แอบพากันหัวเราะคิกคัก แต่เมื่อนงนุชเงยหน้ามองก็รีบหันไปทางอื่น
ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับอีนงนุชปากตลาด ถ้ามันฆ่าเด็กตาย ก็แค่แจ้งความจับมันให้จบๆ ไป แต่ถ้าเด็กไม่ตาย ก็ถือซะว่าเกิดมาซวยก็แล้วกัน
“ใคร! ใครเสือกมาช่วยมัน!”
นงนุชโวยวาย ร่างกายอวบอ้วนพยายามลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากจนสมศักดิ์ต้องถลามาช่วยเมีย อย่างน้อยเผื่อว่าจะล้างความผิดตัวเองได้บ้าง เมื่อนงนุชยืนได้ด้วยตัวเอง หล่อนก็หันไปปัดมือผัวออก แล้วมองสองหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างเดือนอ้ายตาขวาง
นวลลออ อีผู้ดีแปดสาแหรกที่อยู่หมู่บ้านคนรวยแถวๆ นี้ ใครๆ ก็รู้จักเธอ เพราะนวลลออเคยเป็นดาราละครหลังข่าว ก่อนล้างมือจากวงการมาแต่งงานกับอิทธิ ผัวสุดหล่อของเธอที่ยืนอยู่ข้างกัน
“พวกมึงมาเสือกอะไร”
นงนุชยังขู่ฟอด ทว่าเสียงอ่อนลง ก็จะไม่อ่อนได้อย่างไร อิทธิรู้จักมักจี่สนิทสนมกันดีกับตำรวจยศใหญ่โตในโรงพัก เรื่องนี้คนทั้งตลาดรู้ นงนุชเองก็เหมือนกัน
ที่เดือนอ้ายไม่คาดคิด คือนวลลออดึงตัวเธอไปกอดไว้อย่างไม่รังเกียจ มืออบอุ่นลูบผมเดือนอ้าย ดวงตากลมสวยมองนงนุชอย่างดุดัน ริมฝีปากนุ่มๆ เม้มแน่น ก่อนเอ่ย
“พี่อิทโทรเรียกตำรวจแล้วใช่ไหมคะ”
นงนุชสะดุ้ง ส่วนอิทธิยืนขนาบอีกฝั่งของเดือนอ้าย เขากล่าวเสียงเรียบ
“ใช่”
“พะ พวกมึง อย่ามาเสือกกับเรื่องนี้” เสียงของนงนุชสั่นเทาด้วยความกลัวคุกกลัวตะราง ทั้งที่ตอนทำ ไม่กลัว! “อีนี่มันลูกชู้ของผัวกู กูมีสิทธิ์จะตบมันเท่าไรก็ได้ ให้สมกับความแรดของแม่มัน!”
“คุณถูกสามีนอกใจ เรื่องนี้ฉันเห็นใจคุณนะ” นวลลออพูด โดยไม่รู้เลยว่าเดือนอ้ายกับอิทธิแอบสะดุ้งวาบในใจด้วยมีชนักติดหลัง “แต่ถ้าคุณโกรธ อยากจะตบตีใคร ควรเป็นชู้ของสามีคุณมากกว่าไหม เด็กเขาเลือกเกิดไม่ได้ เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับเรื่องของพ่อแม่เขา รังแกเด็กไม่มีทางสู้นี่มันน่าสมเพช!”
“กรี๊ด!” นงนุชหวีดร้องสุดเสียง ถลาไปหยิบมีดหั่นหมูขึ้นมา ใบหน้าแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยว “ปากดีนัก กูจะเฉือนปากมึงมาขายแทนหมู อีผู้ดีตีนแดง!”
เสียงกรี๊ดกร๊าดดังไปทั่วตลาด ในขณะที่นงนุชพุ่งเข้าใส่นวลลอออย่างหน้ามืดตามัว แต่อิทธิกระชากแขนอวบอ้วนของหล่อนไปอีกทางบิดจนนงนุชร้องครวญครางด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย โอ๊ย...”
เคร้ง!
มีดหล่นลงพื้น พร้อมกับที่ตำรวจสองนายขับมอเตอร์ไซค์มาถึง พวกเขารีบจับกุมนงนุชทันที ท่ามกลางเสียงสะอื้นด้วยความโล่งใจของเดือนอ้าย... ลูกชู้ที่แม้แต่พ่อยังไม่ปกป้องเธอ
ทว่าคนที่เอาตัวมาขวางมีดแทนเธอ กลับเป็นนวลลออ ผู้หญิงที่ถูกเธอแทงข้างหลังอย่างเลือดเย็น!
“ไม่เป็นไรแล้วนะ เจ๊นุชคงไม่มายุ่งกับอ้ายสักพัก”
นวลลออลูบผมปลอบโยนสาวน้อยน่าสงสารอย่างเห็นอกเห็นใจ กว่าจะจบเรื่องที่สถานีตำรวจก็กินเวลากว่าสองชั่วโมง เห็นว่าทางนงนุชประกันตัวออกมาได้ แต่ทางเธอเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ไม่ว่าอย่างไรที่นงนุชทำคือพยายามฆ่า เธอจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เดือนอ้ายยังสะอื้นในอก ดวงตาแดงก่ำ สาวน้อยเหลือบมองอิทธินิดหนึ่ง เห็นเขามองเธออยู่เหมือนกันด้วยดวงตาที่แสดงถึงความเห็นใจ ราวกับว่าเมื่อวันก่อนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ราวกับว่าที่เขากอดเธออย่างดุเดือด มันคือฝันร้อนแรงของเธอเอง
“ขอบคุณนะจ๊ะ คุณนวล” เดือนอ้ายยกมือไหว้ ไม่เหลือบตามอง ‘ของต้องห้าม’ คือสามีของผู้มีพระคุณของเธออีก “ถ้าคุณนวลมีอะไรให้อ้ายรับใช้เป็นการตอบแทน บอกอ้ายได้ทุกอย่างเลยนะจ๊ะ”
บรรยากาศในห้องรับแขกของบ้านข้างๆ วันนี้ช่างอบอุ่นปนปวดแปลบในใจเดือนอ้าย ผิดกับวันก่อนที่ร้อนเป็นไฟ... นวลลออดึงตัวเดือนอ้ายไปกอดอย่างไม่รังเกียจกว่าเธอเป็นลูกคนใช้ และไม่รังเกียจกลิ่นคาวเลือดบนตัวเดือนอ้ายด้วย
แม้ว่าจะอาบน้ำและได้เสื้อผ้าของนวลลออสวมใส่แล้ว แต่กลิ่นคาวก็ยังติดตามตัวมากมายอยู่ดี
“ไม่เป็นไร อ้ายเป็นเด็กดี พี่เองก็เห็นอ้ายมาตั้งหลายปีแล้วตั้งแต่ตัวเล็กๆ ถือซะว่าพี่เป็นพี่สาวของอ้ายคนหนึ่งแล้วกันนะจ๊ะ”
เดือนอ้ายเอื้อมมือสั่นๆ กอดนวลลออ น้ำตาไหลพราก ร่างกาย สั่นสะท้าน เธอกระซิบกับไหล่บอบบางของนวลลออแผ่วเบา เบาเสียจนเดือนอ้ายเองได้ยินแค่คนเดียว
“อ้ายขอโทษ...”