เรื่อง : ซ้อนกลรัก
ตอนที่ 3 #จุดเริ่มต้นของการจากลา (65%)
โดย : Kwitch (เขียนเป็นภาษาไทยว่า กวิชญ์ (อ่านว่า กะ-วิช (ออกเสียง “เฉอะ”)))
‘คี...เป็นอะไรลูก ทำไมยืนนิ่งอย่างนั้นล่ะ’
‘ค...คะ’ ระบบคำพูดติดขัดแปรปรวน
‘นี่กันต์...จะมารับหนูไปทานข้าวจ้ะ’ หญิงชราส่งยิ้มให้กับคีตาอีกครั้ง
‘สวัสดีครับคุณคี’
‘สวัสดีค่ะ’ ใบหน้างามมองไปที่ชายหนุ่มแล้วส่งยิ้มเฝื่อนให้
ร่างอรชรเดินไปนั่งใกล้กับหญิงชรา แล้วกระซิบกับหญิงชราเบา ๆ ‘ทำไมถึงเป็นตานี่ล่ะคะ’
หญิงชราเลิกคิ้วแล้วหันมามองใบหน้าใส แต่ยังคงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้น
‘ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปทานข้าวเลยดีมั้ยจ๊ะ…นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว’ หญิงชราหันไปพูดกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
‘ครับ’ ชายหนุ่มยิ้มให้กับหญิงชรา
‘ไปกันค่ะคุณย่า’ คีตาพยายามประคองหญิงชราเพื่อให้ยืนขึ้น แต่หญิงชราดึงแขนเรียวไว้ แล้วหันมาพูดกับเธอ ในสิ่งที่เธอไม่ได้อยากจะได้ยินนัก ‘ย่าไม่ได้ไปด้วยจ้ะ’
หญิงสาวเบิกตาโต ‘ทำไมไม่ไปล่ะคะ’
ย่ารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว...อยากจะพักผ่อนสักหน่อย’
‘ถ้าอย่างนั้น...เรารอให้คุณย่าหายดีแล้วค่อยไปด้วยกันดีมั้ยคะ’ หญิงสาวลนลานรีบเสนอความคิดเห็น เพื่อที่จะบ่ายเบี่ยงนัดในครั้งนี้
‘ย่าบอกกันต์ไว้แล้ว...ไม่เป็นไรหรอก’ หญิงชราหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน
คีตามองหน้าชายหนุ่มอย่างกระอักกระอ่วน เพราะเธอรู้สึกอึดอัดถ้าจะต้องไปกับเขาสองต่อสองในการพบกันครั้งแรกเช่นนี้
‘คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ...ผมจะดูแลคุณคีเป็นอย่างดีครับ’ ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้หญิงชราอีกครั้ง จากนั้นจึงหันมาส่งยิ้มให้คีตาอย่างสุภาพ
หญิงสาวพยักหน้า แล้วโค้งให้ชายหนุ่มเล็กน้อย แสดงถึงการรับทราบ
หญิงชรานั่งมองหลานสาวอันเป็นสุดที่รักและชายหนุ่มว่าที่คู่หมั้นซึ่งกำลังเดินออกจากบ้านไปด้วยกันจนลับตาไป เธอเลี้ยงดูหญิงสาวตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกจนถึงปัจจุบัน ในวัยที่ย่างเข้าสู่การใช้ชีวิตคู่ตามเวลาที่เหมาะสม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หญิงชราพยายามให้หลานสาวดำเนินชีวิตตามครรลองที่ถูกต้องดีงาม เพราะเธอต้องการเห็นคีตาเติบโตมาเป็นหญิงสาวที่งามพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ให้สมกับเป็นทายาทของตระกูลสัตยธนะวงศ์ ไม่เพียงแต่คีตาจะต้องมีความอ่อนโยนอันอบอุ่นเท่านั้น แต่เธอยังจะต้องมีความเข้มแข็งพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคบนโลกใบนี้ที่จะต้องพบเจอบนหนทางข้างหน้าให้ได้ ถ้าในวันหนึ่งหญิงชราไม่ได้อยู่ตรงนี้เพื่อคอยปกป้องใบหน้าใส...หลานที่เธอรักยิ่งกว่าดวงใจ เธอก็มั่นใจได้ว่าหลานสาวจะต้องต่อสู้และเอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้ในที่สุด แต่เมื่อหญิงชราหวนมานึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคีตาในเวลานี้ เธอกลับกังวลใจว่ามันจะเป็นจริงตามที่เธอได้กล่าวกับหลานสาวหรือ ‘เขาเป็นคนที่เหมาะสมกับคี และดูแลคีได้ ย่ามั่นใจ’ หญิงชรานึกย้อนถึงสิ่งที่เธอพูดกับหลานสาวเพียงเพื่อให้ผู้เป็นหลานสาวรู้สึกเชื่อมั่นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ คำถามและความกังวลก็ยังเกิดขึ้นในใจของหญิงชรา ‘เธอทำถูกแล้วใช่มั้ย ณปภัช’ หญิงชราทบทวนคำถามนั้นในใจ
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถสปอร์ตสีขาวคันหรูของชายหนุ่ม ความเงียบงันกลายเป็นเพื่อนของร่างสูงโปร่งและร่างอรชร จนดวงหน้าคมตัดสินใจที่จะเป็นคนทำลายบรรยากาศนั้น
‘คุณคีชอบทานอาหารแบบไหนหรือครับ’
‘ยังไงก็ได้นะคะ…ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ’ หญิงสาวตอบเสียงเรียบ
‘แล้วมีสิ่งที่ไม่ชอบทานมั้ยครับ’
‘อืม!...ไม่ทานเนื้อค่ะ’
‘ถ้าอย่างนั้น เราไปทานอาหารญี่ปุ่นกันมั้ยครับ’
‘ค่ะ’
ใบหน้างามหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างตั้งใจ เธอกำลังคิดทบทวนคำพูดที่จะพูดกับเขาในวันนี้ โดยพยายามเรียบเรียงประโยคให้สวยงามน่าฟัง เพราะมันอาจโน้มน้าวให้อีกฝ่ายทำตามความประสงค์ของเธอ เธอคิด คิด และคิด จนตัดสินใจพูดออกมา
‘คุณกันต์คงจะงานเยอะมากเลยนะคะช่วงนี้ ขอบคุณที่อุตส่าห์เสียสละเวลามานะคะ’ หญิงสาวฉีกยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ให้กับชายหนุ่ม
‘ครับ...งานเยอะครับ...แต่ผมก็ตั้งใจมาครับ’ ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานตอบให้กับเธอ
‘อืม!...คุณกันต์กำลังโด่งดังมากเลยค่ะ ทั้งงานละคร งานอีเวนต์ ฉันก็เป็นเอฟซี คุณกันต์นะคะ’ เจ้าหล่อนหมายถึงการเป็นสาวก หรือกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจและชื่นชอบบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งก็คือชายหนุ่มนั่นเอง
‘ดีใจจังครับ...ขอบคุณครับ’
‘ตอนนี้คุณกันต์กำลังเป็นซุปตาร์อันดับหนึ่งเลยนี่คะ แล้วถ้ารีบหมั้นเนี่ย เรทติ้งจะไม่ตกเหรอคะ เสียดายแย่เลยนะคะ’ หญิงสาวหมายถึงการที่ชายหนุ่มเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับหนึ่งในวงการบันเทิง ซึ่งการหมั้นในครั้งนี้อาจจะกระทบต่อกระแสความนิยมของชายหนุ่มก็เป็นได้
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จากนั้นจึงหันมามองหญิงสาวอย่างพิจารณา ก่อนที่จะตัดสินใจพูด
‘คุณไม่อยากหมั้นกับผมเหรอครับ’
‘ฉันคิดว่า คุณก็คงไม่อยากจะหมั้นคนที่ไม่เคยรู้จักกันหรอกใช่มั้ยคะ’
‘ก็ไม่เชิงนะครับ’ ชายหนุ่มเปลี่ยนมายิ้มหวานให้กับหญิงสาวอีกครั้ง
ใบหน้าสะคราญนึกหงุดหงิดอยู่ในใจ ‘นี่อีตานี่ยิ้มเป็นอย่างเดียวรึไงกันนะ’
‘นี่คุณหมายความว่ายังไงคะ’ หญิงสาวขึ้นเสียงสูงใส่ชายหนุ่ม
‘ก็หมายความตามนั้นแหละครับ’ ใบหน้าคมยิ้มที่มุมปาก
‘นี่...’ หญิงสาวกำลังจะพูดต่อ แต่ก็ต้องหยุดเพราะคิดได้ว่า เธอต้องแสดงทีท่าประนีประนอมให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะเป็นผู้ชนะในเกมครั้งนี้ เธอนั่งนิ่งเงียบ แต่ภายในใจนั้นกำลังคิดทบทวนแผนการซ้ำแล้วซ้ำอีก
‘เฮ้อ!...นี่มันอะไรกันนะ ดูแล้วก็ไม่น่าที่จะพูดยากนี่นา แต่ทำไมถึงกลับรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด แล้วอีตากันต์นี่เป็นบ้าอะไร ถึงอยากจะหมั้นกับฉัน ดูแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะพิศวาสฉันสักนิด นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ฉันงงไปหมดแล้ว’ ดวงหน้าไฉไลมองไปข้างหน้าพร้อมกับความคิดที่สับสนใจในตอนนี้
อีกครั้งที่ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้หญิงสาว ‘ถึงแล้วครับ’
‘นี่สมกับเป็นนักแสดงจริง ๆ เลยนะนาย ยิ้มเก่งจริง ๆ วัน ๆ เอาแต่ยิ้ม เฮ้อ!...บ้าไปแล้ว’ คีตานึกตำหนิชายหนุ่มในใจ แต่ก็จำต้องพยักหน้าตอบเขาอย่างสุภาพ ‘ค่ะ’
คีตาเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องในวันนี้ดี แล้วความคิดอันบรรเจิดก็ผุดขึ้นมาในหัวของเจ้าหล่อน เธอยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วแอบชื่นชมตัวเองอยู่เล็ก ๆ ‘ผู้หญิงอะไร...หน้าตาดีแล้วยังแถมฉลาดอีกต่างหาก...คริคริ’
หลังจากที่คิดไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว หญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเปิดแอพพลิเคชั่นบทสนทนา เพื่อที่จะพิมพ์บทสนทนาส่งไปหาใครคนหนึ่ง...เนื่องจากเธอมัวแต่พิมพ์บทสนทนาในโทรศัพท์มือถือโดยไม่ได้มองทางข้างหน้า จนกระทั่ง
‘ว้าย!!!’ ร่างบางสะดุดที่พื้นต่างระดับแล้วกำลังจะล้มลง แต่โชคดีที่มีแขนหนึ่งมาโอบเธอไว้ได้ทันเพื่อช่วยเธอไว้ได้ทัน เมื่อรู้ตัวอีกที เธอก็อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว