รุ่งเช้า
บ่าวรับใช้ในบ้านต่างยินดีปรีดาเป็นยิ่งนักที่เห็นท่านหญิงหลันฮวาของพวกเขา ลุกขึ้นมาเดินเหินได้ปกติ ราวกับไม่ได้ป่วยไข้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ออกจะแข็งแรงกระฉับกระเฉงกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
มีคนผู้เดียวที่หน้าเสียในคราวแรกที่เห็นหน้าท่านหญิงที่โต๊ะอาหาร นั่นก็คืออิงเยี่ย ชายาคนใหม่ของท่านอ๋องนั่นเอง แต่นางก็รีบดึงหน้าให้แย้มยิ้มสอพลอ
“ ท่านหญิง แข็งแรงดีแล้วหรือเพคะ ”
“ ใช่ ข้าแข็งแรงดีแล้ว อิงเยี่ย ” สรรพนามที่ใช้และน้ำเสียงแข็งกร้าว ไม่เคารพนบนอบนั้น ทำให้นางไม่พอใจ
มันเหมือนกับครั้งก่อนที่นางเป็นบ่าวไม่มีผิด !
ไม่สิ มากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำไป
แต่นางก็ฉลาดพอที่จะไม่หาเรื่องอันใด
“ เดี๋ยวข้าขอตัวไปดูแลท่านอ๋องก่อนนะเพคะ ”
“ ไม่ต้องหรอก ข้าจัดให้สาวใช้เข้าไปดูแลจัดการท่านพ่อแล้ว อีกอย่าง เจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรสักคำเลยไม่ใช่หรือ ” ท่านหญิงว่าพลางคีบอาหารใส่จานให้นาง
“ กินเสียสิ นึกถึงเมื่อก่อนเวลาที่เจ้าไม่มีกิน แม้กระทั่งขยะเจ้าก็คุ้ยเขี่ยมาแล้ว พอเวลามีกินแล้วก็กินให้มาก ๆ เพราะคนเราน่ะมีขึ้นก็มีลง วันนี้มีกิน วันพรุ่งอาจจะไม่มี ตกอับกว่าเดิมที่เคยตกก็เป็นได้ ” คำพูดและสายตาของท่านหญิงที่จ้องมองมานั้นมันทำให้อิงเยี่ย ผู้มีฐานะเป็นแม่เลี้ยงของนางเสียวสันหลังวาบ
เกิดอะไรขึ้นกับท่านหญิงผู้หัวอ่อน มีจิตใจเมตตา และอ่อนแอกันนะ
หรือว่าท่านนักพรตโหวกู้ให้ยามาผิดห่อ ?
ไม่ได้การละ นางจะต้องรีบกลับไปโดยด่วน ถ้าหากนางไม่ยอมตายแถมยังปีกกล้าขาแข็งขึ้นเช่นนี้ คงมิเป็นการดีแน่
“ ท่านหญิง ข้ารู้สึกยังไม่ค่อยหิว เชิญท่านหญิงตามสบาย ข้าขอตัว ”
นางว่าสั้น ๆ ก่อนลุกออกจากโต๊ะอาหาร ท่านหญิงแสร้งนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู แล้วรีบผุดลุกพรวดทันทีที่นาง ลับสายตา ทำให้สาวใช้ทั้งอาซินและสาวใช้ประจำบ้านสองคนที่ยืนคอยรับใช้อยู่ตรงนั้นตกใจไปตาม ๆ กัน
“ ท่านหญิง เป็นอะไรหรือเพคะ ”
“ ไป อาซิน เดี๋ยวเราจะคอยตามแม่เลี้ยงใจร้ายกัน ว่ามันจะทำการเลวร้ายอันใดอีก ” นางว่าพลางคอยลอบมองแม่เลี้ยงตลอดเวลา ทั้งยังสั่งการให้บ่าวรับใช้คอยเป็นหูเป็นตาด้วย
“ นางกำลังออกไปข้างนอกเพคะ ” หนึ่งในบ่าวรับใช้มารายงาน ลี่จือหันไปพยักหน้ากับอาซินสาวใช้
“ ไปเตรียมรถม้า เราจะสะกดรอยตามนางกัน ” รถม้าของลี่จือตามอิงเยี่ยอยู่ห่าง ๆ และแล้วมันก็จอดลงริมทาง นางลงจากรถม้ามองซ้ายขวาทำทีลุกลี้ลุกลนก่อนจะเดินเข้าไปในตรอกหนึ่ง
“ ทำอย่างไรกันดีเล่าเพคะ ท่านหญิง ” อาซินถามอย่างร้อนใจ
“ เจ้าอยู่ข้าอยู่นี่ ไม่ต้องตาม เดี๋ยวข้ากลับมา ” ลี่จือว่าก่อนกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งเข้าตรอกตามแม่เลี้ยงใจร้ายไปเงียบ ๆ ท่ามกลางความแปลกใจของทั้งคนขับรถม้าและอาซินสาวใช้ประจำตัว
ฟื้นคืนจากป่วยไข้คราวนี้ ท่านหญิงดูผิดแปลกไปมากราวกับคนละคน แต่ก็ดีแล้วที่เข้มแข็งขึ้น อะไร ๆ ในจวนท่านอ๋องจะได้คืนสู่ความสงบเสียที
ลี่จือตามนางแม่เลี้ยงใจร้ายไปติด ๆ ก่อนจะเห็นว่านางผลุบหายเข้าไปในบ้านหลังเล็กท้ายตรอก หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้ก่อนใช้ใบหูแนบผนังจากทางด้านนอก
“ ยาพิษอะไรของเจ้า นักพรตโหวกู้ เหตุใดนังท่านหญิงสมองหมูนั่นมันยังสะเออะฟื้นคืนชีพมาได้ ไหนว่ามันจะค่อย ๆ กัดกินทำลายให้มันกลายตายทั้งเป็นเช่นพ่อของมันเล่า ”
“ มันต้องมีอะไรผิดปกติ ยาพิษดับราตรีมิเคยผิดพลาด เจ้าใส่ยานั่นให้ท่านหญิงดื่มเองหรือไม่ เห็นกับตาหรือไม่เล่า ”
“ ข้าทำมันกับมือ ใส่ในถ้วยชา เห็นมันกับตา ถึงแม้ว่ามันจะดื่มไม่หมดจอกก็เถอะ ”
“ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นความผิดของเจ้าเอง นางโลมข้างถนน เจ้าเองนั่นแหละที่ไม่ทำให้มันดื่มทั้งหมด ”
“ อะไรกัน มันยิ่งหาโอกาสยากเหลือเกินที่ข้าจะใส่ยา ถ้าเช่นนั้น เจ้าพอมียาอะไรที่ฤทธิ์แรงกว่านั้นหรือไม่ เอาแบบที่ว่าใส่นิดเดียวแล้วมันตายไปเลย ” นักพรตเฒ่าหัวเราะร่วน
“ แหม เจ้านี่มันช่างใจดำอำมหิตยิ่งนัก นางโลม ”
“ หยุดเรียกข้าว่านางโลมเสียที ข้าไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว อย่าลืมสิว่าข้าคือชายาของท่านอ๋อง ! ” นางตวาดกร้าว แต่นักพรตก็ยังหัวเราะเบาๆ อยู่ดี
“ ถ้าทำสำเร็จ เจ้าเองก็จะได้โงหัวจากบ้านซอมซ่อของเจ้าหลังนี้ ข้าสาบานแล้วอย่างไรเล่า ” นางย้ำ
“ ก็ได้ ๆ เดี๋ยวข้าจะจัดให้ เจ้าก็จ่ายค่ายามาสิ ตามที่เคยตกลงกันเอาไว้ แต่ยาน่ะ ข้าต้องขอเวลาเข้าไปเก็บสมุนไพรก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเอา ”
“ แล้วยาเสน่ห์พันบุรุษของข้าเล่า ”
“ มันหมดพอดี ข้าจะเตรียมไว้ให้เจ้าในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน ก็เจ้ามาก่อนเวลานัดเองนี่ ”
“ มันมีเรื่องฉุกละหุกน่ะสิ ก็นางท่านหญิงนั่นดันตื่นขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคน ข้างงไปหมด ”
“ เอาละ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะจัดการให้ ขอเพียงเจ้าจ่ายค่าตอบแทนให้ข้าพอใจ ”
“ ได้สิ นักพรตเฒ่าบ้ากาม ” จากนั้น ลี่จือก็ได้ยินเสียงตั้บ ๆๆๆ แน่นอนว่ามันคือเสียงอันเคยคุ้นที่นางได้ยินมานับไม่ถ้วน นางผละออกจากผนังตรงนั้นทันที แม่เลี้ยงใจร้ายจ่ายค่ายาพิษดับราตรีและยาเสน่ห์พันบุรุษอะไรนั่นกับนักพรตด้วยตัวหรือนี่
ลี่จือยืนใคร่ครวญอยู่สักพักถึงวิธีการแก้ปัญหา กระทั่งเสียงเสพสมเงียบลง นางรีบเร้นกายหลบหลีก กระทั่งร่างของแม่เลี้ยงใจร้ายเดินออกมาแล้วเดินลับ สายตาไป
หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้านของนักพรตเฒ่าทันที
ชายชราที่นอนทอดกายอย่างหมดเรี่ยวแรงบนเตียงนอนดีดตัวผึงขึ้นมาทันทีที่เห็นผู้มาเยือน
นางเป็นสาวงาม งามที่สุดเท่าที่เขาเคยพานพบ !
“ เจ้าเป็นใคร ประสงค์สิ่งใดจึงเข้ามาในบ้านข้า ” เขารีบสวมอาภรณ์ให้เรียบร้อย แต่นางแย้มยิ้มแล้วเอื้อนเอ่ยอย่างยวนยั่ว
“ ข้าน่ะหรือ ข้าก็เป็นสตรีที่ทั้งรูปงาม ทั้งสาวทั้งสด มากกว่านางโลมชั่วที่พึ่งจากไปน่ะสิ ”
“ เจ้าเป็นใคร บอกข้ามาตรง ๆ ”
“ ข้าน่ะเหรอ ก็ท่านหญิงหลันฮวา ธิดาของท่านอ๋องที่นางโลมชั่วนั่นใช้ยาพิษของเจ้าทำร้ายข้าน่ะสิ ” ทำให้นักพรตเฒ่าสะดุ้ง
“ ทะ... ท่านหญิง ”
“ แต่มิต้องกลัวไป ข้ามาที่นี่เพื่อเจรจา ”
“ เจรจา อย่างไรหรือ ”