ลวงรัก | 5

1336 Words
แล้วสุดท้ายความพยายามของเธอก็ไม่มีความหมาย อีกคนเลือกที่จะเดินผ่านหน้าของเธอไปอย่างไม่ใส่ใจ เป็นอีกครั้งที่เขาปล่อยเธอทิ้งเอาไว้ ความเป็นจริง เธอควรจะรู้สึกชินกับมันแล้วด้วยซ้ำไป ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก ว่าไม่มีครั้งไหนที่เขาใส่ใจ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น เขาก็ไม่เคยเข้าใจอะไรเธออีกเลย ร่างบอบบาง ทิ้งกายลงบนโต๊ะอาหารอีกครั้ง ปล่อยหยาดน้ำตาให้มันไหลออกมาอย่างเก่า กี่ครั้งที่เขาทำกับเธอแบบนี้ แล้วสุดท้าย เธอก็ได้แต่นั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ดี . . . @คลับ ร่างสูงดูดี ที่ใบหน้าดูเศร้า เคลื่อนกายเข้ามานั่งในกลุ่มเดียวกับเพื่อนของเขา ที่นั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว ทุกคนมีสีหน้าสดใส เฮฮากันตามปกติทั่วไป จะมีก็แต่เขาที่หน้าเศร้าเกินไป และหงุดหงิดตามสไตล์เดิม "อะไรนักหนา.. ไม่อยากมา ก็ควรอยู่บ้านปะวะ.." คนที่ปากไวพูดขึ้นมาก่อน 'ปังปอนด์' จับจ้องที่ใบหน้าของเพื่อนสนิทนิ่ง ก่อนจะทิ้งวงแขนกอดก่ายผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเอาไว้ "คนที่เพิ่งจะแต่งงาน เข้าสู่ประตูวิวาห์ใหม่ๆ ไม่ควรจะไม่ต้องทำหน้าแบบนี้ไหม.." ผู้ชายคนเดิมพูดขึ้นอีกครั้ง จริงๆช่วงหลังๆเขาเห็นสีหน้าเพื่อนเป็นแบบนี้จนนับครั้งไม่ได้ จริงๆเขาก็แทบจะทักทุกครั้งด้วยซ้ำไป แต่ทว่า เขากลับไม่ได้คำตอบใดๆออกมาอยู่ดี "ทำไมไม่ลองเปิดใจคุยกันดีๆ ถ้าคุย บางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้แย่แบบนี้ก็ได้.." ซี ผู้ชายหน้าตาดี ที่ไม่ค่อยสนใจโลกภายนอกเท่าไหร่ มองเพื่อนรักด้วยความห่วงใย จริงๆเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็อย่างว่า เรื่องของคนสองคน เขาก็ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเหมือนกัน "ไม่รู้ว่าจะคุยให้มันได้อะไรขึ้นมา สุดท้าย เขาก็เลือกที่จะเห็นแก่ตัวปะวะ.." คีรีตอบออกมาอย่างเจ็บใจ จริงๆเขาก็รู้อยู่แล้วเช่นกัน ว่าสถานะทางการเงินของบ้านนั้นเป็นแบบไหน แต่เขาก็ไม่เคยสนใจเพราะคนที่เขาเคยรักในวันนั้น เธอก็ไม่เคยให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องเงินตราแต่อย่างใด ถ้าจะถามว่าทำไมเขาเลือกที่จะปล่อยเรื่องราวเอาไว้อย่างนี้ โดยไม่คิดที่จะกลับไปแก้ไขอะไร มันก็อาจจะเป็นเพราะว่า ผลจากการกระทำของเธอ มันลามไม่ทำร้ายคนที่เขารักด้วยนั่นเอง "อื้มม.. แล้วคุณย่าเป็นไงบ้าง.." "โกรธมาก!" เขาตอบออกไปตามความเป็นจริง "แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป.. เป็นหลานรักของคุณย่าไม่ใช่หรือไง เขาโกรธไม่นานหรอก แล้วฝันล่ะ.. เป็นไงบ้าง.." ซีเลือกที่จะถามขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร "จะถามถึงยัยนั่นทำไม ผู้หญิงแบบนั้นควรได้รับความห่วงใยจากใครหรอกวะ.." "ทำไมถึงพูดแบบนั้นวะ ฉันก็ถามในฐานะที่เธอเป็นน้องปะ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าน้องมีนิสัยยังไง ทางที่ดี นายควรกลับไปคุยกับน้องให้เข้าใจ.." "วางยานอนหลับจัดฉากขนาดนั้น ยังจะมองว่าดีอีกหรอวะซี.." ครั้งนี้เป็นปังปอนด์ที่เคยขึ้นมา เขาทำท่าทางแปลกๆ และนั่นทำให้อีกคนต้องหันไปมองอย่างอดไม่ได้ กิริยาที่ถูกเอื้อนเอ่ยขึ้นมา เป็นอะไรที่น่ารังเกียจเขาเข้าใจ แต่ว่าผู้ชายที่มองโลกในแง่ดีอย่างซี ก็ยังแอบคิด ว่าน้องจะมีเหตุผลของเขาเหมือนกัน "เอาตรงๆพวกเราสามคนก็รู้จักน้องมาตั้งนาน เราคิดไปทางเดียวกันไม่ใช่หรอวะ ว่าน้องไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น.." "แล้วสิ่งที่ยัยนั่นทำลงไปล่ะมันหมายความว่ายังไง เธอยอมรับอย่างไม่อาย ว่าเธอต้องการแต่งงานกับฉัน เธอทำแบบนั้นเพราะต้องการจับฉัน เลิกมองว่ายัยนั่นเป็นคนดีสักทีซี.." "เออกูก็เห็นด้วยกับไอ้คี ถ้ากูเจอแบบนั้น กูคนหนึ่งที่รับไม่ได้เหมือนกัน.." คำพูดจากเพื่อนรักทั้งสองคนทำให้ผู้ชายที่มองโลกในแง่ดีถึงกับเงียบเสียงลงไป คีรีค่อนข้างที่จะคบกับผู้หญิงคนนั้นมานานเหมือนกัน คบตั้งแต่น้องเรียนอยู่ปี 2 จนกระทั่งก้าวเข้ามาสู่ปีที่ 4 เขารู้ดีว่าคนทั้งสองมีแพลนจะแต่งงานกันหลังจากที่เพียงฝันเรียนจบ ความจริงสาเหตุหลักๆมันก็มาจากครอบครัว แต่อยู่ๆ เหตุการณ์มันก็มาพลิกผัน เขาก็เป็นคนหนึ่งที่สนิทกับน้องเหมือนกัน บ่อยครั้ง ที่คีรี จะพาน้องไปไหนมาไหน โดยมีเขาและเพื่อนอีกคนตามไปเช่นกัน และเขาคนนึงแหละ ที่เชื่อว่าน้องจะไม่ใช่คนเลวร้ายแบบนั้น "ขนาดนายเคยบอกว่า น้องเป็นคนที่นายรักมาก นายยังมองว่าเธอเป็นคนแบบนั้น โดยไม่คิดจะทวงถามความเป็นจริงจากเธอสักคำ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดแบบไหนแล้วเหมือนกัน.." เขาเองก็ไม่คิด ว่าเรื่องราวของเพื่อนมันจะเป็นแบบนั้น ที่ผ่านมาคีรีไม่เคยยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงอื่นที่ไหนทั้งนั้น และเขาก็เชื่ออย่างสุดใจ ว่าผู้หญิงที่ชื่อเพียงฝันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เพื่อนของเขารักมาก แต่พอเอาเข้าจริง เวลาเกิดปัญหา แม้ว่าปัญหามันจะเป็นปัญหาใหญ่ เขากลับเลือกที่จะปล่อยเรื่องราวทิ้งเอาไว้ โดยไม่คิดจะหาความจริงว่าอะไรเป็นอะไร "คนรักกัน เขาไม่ทำร้ายคนที่รักแบบนี้หรอกโว้ยซี.. วางยาจัดฉาก เรียกผู้ใหญ่มาเจอ มันตั้งใจจับชัดๆ หรือว่าน้องจะอยากได้เงินมากวะ.." "กูจะหย่า.." คำพูดนั้น ทำให้ดวงตาทั้งสองคู่ตวัดหันไปหา แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินคำนี้ แต่ทว่าครั้งนี้ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้า บ่งบอกชัดเจน ว่าเพื่อนของเขากำลังจริงจัง . . . กว่าคีรีจะยอมกลับบ้านก็ปาไปตีหนึ่งเฉกเช่นทุกๆครั้ง ไฟที่หน้าบ้านยังส่องสว่าง และเขาก็พบว่า ยัยนั่น ยังนั่งคอยที่ชั้นล่างอย่างเดิม "ถ้าดื่มเหล้า ทำไมไม่กลับแท็กซี่ล่ะคะ ขับรถเองเจอด่านจะแย่เอานะ.." "นั่งเสนอหน้าอยู่ทำไมอ่ะ.. หรือนั่งรอฉัน.." "ปกติฝันก็รอพี่คีแบบนี้ทุกวัน.." "แต่ว่าฉันไม่ได้ต้องการ.. หรือจะนั่งรอคอยเพราะรอรายงานแม่ฉัน ว่าตัวเองเป็นสะใภ้ที่ดีมาก นั่งคอยผัวกลับบ้านทุกวัน.." "คุณแม่แค่โทรมาถามข่าว.. ฝันไม่เคยรายงาน.." "อ้อ.." เขาเหยียดยิ้มออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็ขยับไปให้ใกล้มากกว่าเก่า ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ในใจ "แสดงว่าเรื่องนี้ไม่เสนอหน้า แล้วเรื่องนั้นล่ะ เสนอหน้าจัดฉาก ลากผู้ใหญ่ มาจับฉันทำไม..." "...ฉันก็ลืมไป บ้านเธอกำลังจะล้มละลายนี่หว่า เงินมันก็เลยสำคัญมากเลยสินะ แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ที่ได้ไปมันพอไหม ฉันจะได้หย่า.." "ฝันบอกแล้วนี่คะ ว่าฝันไม่หย่า" "ถ้ายังหน้าด้านรั้งฉันไว้ ฉันจะไม่ยอมให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายอีกต่อไป ฉันให้เธอคิดใหม่ ว่าเธอจะหย่าหรือไม่ แล้วถ้าคำตอบของเธอคือไม่ เตรียมรับด้านมืดของฉันได้เลย" "ฝันไม่หย่า ยังไงคำตอบของฝันก็คือไม่หย่า!" "จะเอาแบบนั้นก็ได้นะ.. ถือว่าเธอท้าทายฉันเอง เพียงฝัน!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD