“พ่อคะได้โปรด... หนูไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นใคร… อ๊ะ!” อันรดา ปรเมศเมฆาพูดยังไม่ทันจบก็โดนพ่อผู้เป็นที่รักตบหน้าฉาดใหญ่ ชายผู้ให้กำเนิดซึ่งเคยรักและปฏิบัติต่อเธอเหมือนเจ้าหญิง ได้ลงมือทำร้ายเธอเป็นครั้งแรกในชีวิต!
“ตานันต์หยุดนะ! รดาเป็นลูกสาวของแกนะ!” คุณหญิงเดือนอุษา ย่าของอันรดากอดปกป้องหลานสาวไว้ในอ้อมแขน
ศักดิ์อนันต์ ปรเมศเมฆา เป็นพ่อของอันรดา เขาเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจมากคนหนึ่ง ทว่าความน่ากลัวและความเย็นชาก็นับว่าไม่น้อยหน้าเช่นกัน ตอนนี้เขากำลังโกรธมาก ถึงได้ทำร้ายลูกสาวอย่างเลือดเย็น
“แกเป็นผู้หญิงแบบไหนรดา ฉันเลี้ยงแกมาไม่ดีหรือไง ฮะ!” ศักดิ์อนันต์ตะคอกถามพร้อมปรี่เข้าไปประชิด บีบที่ขากรรไกรของเธออย่างไม่ปรานี ก่อนผละมือและใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของอันรดาซึ่งกำลังใช้มือข้างหนึ่งกุมแก้มพร้อมร้องไห้อย่างหนัก “ฉันได้ส่งคนไปตรวจสอบบริเวณโรงแรมและบริเวณใกล้เคียงแล้ว แต่พวกเขาไม่เจอผู้ชายคนนั้น และฉันขอย้ำ! ไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นพ่อของลูกในท้องแก!”
เขากำลังจะตบอันรดาอีกครั้ง แต่เดือนอุษาเข้ามาขวางไว้พลางอ้อนวอนให้เขาหยุด “หยุดนะตานันต์! พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว”
“คุณพ่อคะ หนูขอโทษ! นี่เป็นความผิดของหนูเองค่ะ! ถ้าหนูรู้ว่ารดาต้องการมีอะไรกับคนแปลกหน้า หนูจะอยู่ข้างเธอในงานปาร์ตี้! อย่าโทษรดาเลยนะคะพ่อ! นี่เป็นความผิดของหนูพอ ๆ กับรดาค่ะ” ทิยากรหรือป่าน พี่สาวลูกติดแม่เลี้ยงของอันรดาเดินเข้ามา พร้อมกับพูดขอร้อง แต่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทำลายอันรดาด้วยคำพูดซึ่งเหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟมากกว่าจะช่วยเหลือ
สายตาของอันรดาพุ่งไปที่ทิยากรด้วยความขุ่นเคือง เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่สาวต่างมารดา ทิยากรเป็นคนเอาคีย์การ์ดของห้องพักในโรงแรมนั้นมาให้ในคืนที่เธอไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่งแถวชานเมือง
อันรดาตั้งใจจะมีอะไรกับแฟนที่คบหากันมาสามปีอย่างเจนภพ ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของร้านทองและห้างใหญ่ในเขตลาดพร้าว
เพียงแต่คืนนั้น หญิงสาวดื่มจนมึนเมาและอันรดาไม่รู้ว่าเธอตกหลุมพรางของพี่สาวได้อย่างไร รู้แค่ยามลืมตาตื่นในตอนเช้าวันถัดมา เธอกลับนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง
อันรดาตั้งใจจะลืมเรื่องค่ำคืนอันน่าอดสูนั้น ทว่าตอนนี้เธอท้องเสียแล้ว! เพราะฉะนั้นต่อให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงกระนั้นหลักฐานก็ปรากฏคาตาอยู่ดี
“ถอยออกไปยายป่าน! ลูกไม่ผิด! มันเป็นการตัดสินใจของรดาเองที่จะนอนกับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น!” เสียงของศักดิ์อนันต์ดังขึ้นอีก “ทำไมแกทำตัวแบบนี้ ทำไม!?” ศักดิ์อนันต์พูดอย่างเสียใจเมื่อลูกสาวที่เขาเฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอมทำให้เขาผิดหวัง
“พ่อคะ ได้โปรด! หนูคิดว่าเขาเป็นพี่ภพค่ะ!!” อันรดาให้เหตุผล เธอตั้งใจจะพูดมากกว่านี้ทว่าก็ได้แต่กลืนคำพูดทั้งหมดกลับลงไปเมื่อศักดิ์อนันต์ยกกำปั้นขึ้น ท่าทางของผู้เป็นพ่อทำให้เธอต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องตัวเอง ถึงเด็กในท้องจะเกิดมาเพราะความผิดพลาดของเธอ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำผิด! นอกจากนั้นใช่ว่าครอบครัวของเธอจะไม่มีกำลังความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กสักคนหนึ่งให้เติบโต อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าอันรดาจะเข้าใจผิดไปอย่างหนึ่ง นั่นเพราะพ่อของหญิงสาวไม่ชอบความพลาดพลั้งในคราวนี้มากทีเดียว
“ไม่ว่าจะเป็นเจนภพหรือใคร! ฉันไม่เคยต้องการให้แกนอนกับผู้ชายคนไหน แกยังเรียนไม่จบ และแกยังไม่ได้แต่งงานนะรดา แกทำลายชื่อเสียงของฉัน เจนภพคือผู้ชายที่คู่ควรกับแก งามหน้าไหม มีลูกไม่รักดีแบบนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” ศักดิ์อนันต์ยังคงด่าทออันรดาด้วยความโกรธ
“ตอนนี้เราจะทำอย่างไรดีรดา เราจะหาผู้ชายคนนั้นที่เราไม่รู้จักได้อย่างไร แกไม่สามารถจำแม้กระทั่งห้องในโรงแรมที่แกเข้าไปพักได้ แกทำตัวเลินเล่อและตอนนี้แกตั้งท้อง ท้องไม่มีพ่อ!” ศักดิ์อนันต์หยุดหายใจชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นตะคอกถามขึ้นมาอีกครั้ง “ผู้ชายคนที่แกนอนด้วยเป็นใคร? บอกฉันมานะ!!”
“คุณนันต์ ได้โปรดหยุดตามหาผู้ชายคนนี้เถอะค่ะ เราไม่มีทางรู้ว่าผู้ชายที่รดานอนด้วยเป็นใคร เขาอาจจะแต่งงานแล้ว หรือถ้าแย่กว่านั้นเขาอาจจะค้ายาหรือเป็นแมงดา!” ทิพาแม่เลี้ยงของอันรดาพูดขึ้นมา ยิ่งเป็นการสุมไฟให้ศักดิ์อนันต์เกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม
ทิพาแสดงสีหน้ารังเกียจและยังคงพูดต่อ “เราไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้องรดา”
“หุบปากทิพา! ผมไม่ได้ถามความคิดเห็นของคุณ!” ศักดิ์อนันต์หันไปตวาดใส่หญิงสาวผู้เป็นภรรยา “คุณและป่าน ขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อหันกลับมาหาอันรดา อนันต์ถามเป็นครั้งสุดท้ายว่า “รดาบอกฉันมา ใครเป็นพ่อเด็กในท้องของแก?” อันรดายังอยู่ในอ้อมแขนของคุณย่า หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พ่อคะ หนูขอโทษ! หนูไม่รู้จริง ๆ หนูรีบออกจากห้องทันทีที่รู้ว่าเขาไม่ใช่พี่ภพค่ะ” ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เธอได้แต่พร่ำพรรณนาอ้อนวอน “พ่อคะ ได้โปรดยกโทษให้หนูด้วย!”
“ออกไป! ออกไปและอย่ากลับมาที่บ้านหลังนี้อีก!” ศักดิ์อนันต์ตะโกนไล่อันรดา และชี้ไปที่ประตู
“ตานันต์! ข้างนอกฝนกำลังตกหนัก! ลูกสาวของแกกำลังท้อง แกเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม!?” เดือนอุษาร้องไห้ออกมา
“ผมไม่สนใจหรอกแม่! รดาต้องได้รับบทเรียน! เธอน่าจะไปเอาเด็กออกเมื่อมีโอกาส! ตอนนี้ทุกคนรู้เรื่องนี้หมดแล้ว!” ศักดิ์อนันต์โต้กลับอย่างโหดร้าย โดยไม่คิดแยแสจิตใจของลูกสาว
“เธอทำให้ชื่อเสียงของตระกูลปรเมศเมฆาเสียหาย และตอนนี้ก็มีแต่คนนินทาว่าผมเลี้ยงลูกไม่ดี ทั่วทั้งบริษัทเขาลือกันไปหมดแล้ว” เขาพูดกับเดือนอุษา ก่อนตวัดสายตากลับไปย้ำเตือนให้อันรดารับรู้ถึงความอัปยศที่เขาต้องเผชิญอีกคำรบ
“แกทำให้ฉันถูกคนนินทารดา!” นั่นเป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวเห็นพ่อของเธอหลั่งน้ำตาออกมา
“แกทำลายความไว้วางใจของฉันที่มีต่อแก ฉันรักแกมาก ดูแลแกอย่างดีมาโดยตลอด ทำไมแกถึงทำให้ฉันเสียใจแบบนี้ ฉันเลี้ยงแกไม่ดีตรงไหน วันนี้แกได้ทำลายหัวใจของพ่ออย่างไม่มีชิ้นดี ฉันไม่สามารถให้แกอยู่ที่นี่ต่อไปได้ ไปเรียนรู้ความผิดพลาดของแก แล้วแกจะรู้ว่าแกทำผิดกับฉัน!” เขายังตะคอกใส่อันรดา “ออกไป!!”
ศักดิ์อนันต์คว้าแขนของอันรดาพลางลากเธอออกไปนอกคฤหาสน์ ก่อนทิ้งเธอไว้กลางสายฝนที่หน้าประตูบานใหญ่
พ่อที่รักทอดทิ้งเธอเพราะความผิดพลาดของเธอ คุณย่าก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะหยุดยั้งลูกชายของตัวเองได้ อันรดานั่งอยู่หน้าประตูเช่นนั้นเพื่อรอให้พ่อของเธอเปิดประตู ยอมให้เธอกลับเข้าไปด้านใน ทว่าจวบจวนผ่านไปสองชั่วโมงก็แล้ว สิ่งที่เธอวาดหวังกลับไม่เคยเกิดขึ้น คุณพ่อไม่คิดจะแง้มประตูออกมาดูเธอเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นท่ามกลางสายฝนซึ่งโปรยปรายลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมพร่ำพูดขอร้องให้ศักดิ์อนันต์ให้อภัย
เมื่อมองขึ้นไปที่ห้อง เธอเห็นว่าแม่เลี้ยงและพี่สาวต่างดูมีความสุขในความทุกข์ของเธอมากแค่ไหน เธอผิดที่เชื่อใจพวกเขา โดยเฉพาะทิยากร
จากนั้นคนขับรถเก่าแก่ของครอบครัวก็เข้ามาหาอันรดา
ลุงมั่นได้รับคำสั่งจากคุณย่าให้พาเธอไปส่งที่โรงแรม ก่อนจะไปส่งที่สนามบินเพื่อขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ในตอนเช้าวันต่อมา ลุงมั่นมอบเงินที่เดือนอุษาใส่ซองมาให้พร้อมกับเสื้อผ้าของเธอบางส่วน ในที่สุดหญิงสาวก็เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอ…