ภาม โบฟอร์ด จิรวิวัฒนกุลกับเลขานุการได้รับคำเชิญจากผู้ร่วมลงทุนให้ไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองเชียงใหม่ และเนื่องจากตอนนั้นเขาอยู่ในตัวเมือง เขาจึงตอบรับคำเชิญกลับไป
ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของใบหน้าอันหล่อเหลาโดดเด่นเดินเข้าไปภายในโรงแรม นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มกวาดมองสำรวจพื้นที่ในล็อบบีของเดอะอินน์ซึ่งเป็นโรงแรมระดับสี่ดาว ด้วยสายตาประเมินประมาณอย่างละเอียด ก่อนต้องขมวดคิ้วและเอี้ยวศีรษะกลับไปมองผู้ช่วย “ออกไปจากโรงแรมนี้เดี๋ยวนี้แฟรงค์ ที่นี่มันยังดีไม่พอสำหรับฉัน” ถึงจะได้รับคำเชิญ แต่ภามเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าโรงแรมแห่งนี้จะมีห้องอาหารชั้นเลิศจริงหรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่มีมาตรฐานสูงมากสำหรับเรื่องอาหารการกิน
แฟรงค์เบิกตากว้างหลังจากได้ยินคำพูดของภาม “แต่บอสครับ เรามาแล้วและคุณกรวินบอกว่า มันเป็นร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเชียงใหม่ ลองดูก่อนไหมครับ”
“แฟรงค์นายก้มดูพื้นสิ! มันไม่เงาพอ เห็นชัดเจนว่าผู้บริหารไม่ค่อยใส่ใจและให้ความสนใจกับการดูแลโรงแรมแห่งนี้” ภามกล่าวก่อนจะหรี่ตาลง
ชายหนุ่มอย่างภามถูกเรียกได้ว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ครอบครัวของเขารวยมาก เขาจึงคุ้นเคยแต่ความหรูหราและความมั่งคั่ง ประการสำคัญภามไม่เคยใช้บริการโรงแรมระดับสี่ดาวแบบนี้
จังหวะนั้นกรวินผู้ร่วมลงทุนของภามก็ปรากฏตัวพอดี เขารีบเดินออกมาด้านหน้าเพื่อต้อนรับกับภาม
“คุณภาม เชิญทางนี้เลยครับ” กรวินเรียกภามอย่างนอบน้อม “ผมดีใจมากที่คุณตัดสินใจมาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับพวกเรา”
กรวินโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยพลางแนะนำว่า “เชื่อผมเถอะครับอาหารที่นี่อร่อยจริง ๆ ผมเป็นผู้ถือหุ้นโรงแรมนี้ด้วย ถ้าคุณชอบจะร่วมลงทุนด้วยก็ได้นะครับ พวกผมยินดี ฮ่า ๆ!” เจ้าของประโยคส่งเสียงหัวเราะดังลั่นหลังจากเอ่ยจบ เขาหมกมุ่นอยู่กับข้อเสนอของตัวเองมากจนมองไม่เห็นสีหน้าของภามซึ่งกำลังบูดบึ้งอย่างอารมณ์เสีย
“คุณคิดว่ามันน่าขบขันมากใช่ไหมกรวิน คุณพาผมมาที่นี่เพื่อที่จะให้ผมร่วมลงทุนกับโรงแรมที่ล้าสมัยแห่งนี้” ภามถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างไม่ไว้หน้ากรวิน คู่สนทนาถึงกับชะงักพร้อมกับหนาวไปถึงสันหลัง
“ไม่ใช่ครับคุณภาม ผมแค่ล้อเล่น” กรวินรีบอธิบาย “อย่างไรก็ตาม ผมพูดความจริงที่ว่าอาหารของเราเป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุดของเชียงใหม่เลยครับ ต้องขอบคุณเชฟคนสวยของเรา คุณอันรดา อันที่จริงเธอเพิ่งได้รับรางวัลเชฟยอดเยี่ยมประจำปีนี้ครับคุณภาม”
ราวกับได้ยินเสียงกรวินเรียกหา อันรดาเดินออกมาจากอีกด้านหนึ่งของล็อบบีอย่างประจวบเหมาะ เพราะเช่นนั้นกรวินจึงยกมือขึ้นเป็นเชิงเรียกให้หญิงสาวเข้ามาหา อันรดามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ใจหนึ่งก็คิดว่า หรือเมนูอาหารวันนี้จะมีปัญหา เธอก้มศีรษะทักทายเมื่อเข้ามาในระยะพอสมควร
“คุณอันรดา นี่คุณภาม โบฟอร์ด จิรวิวัฒนกุล แขกพิเศษของเราในวันนี้ คุณภามครับ นี่คุณอันรดา หัวหน้าเชฟห้องอาหารของเรา” กรวินแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันในทันที
เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีหน้าตาคล้ายคนต่างชาติ หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปรอให้เขาจับมือทักทาย ภามใช้สายตามองสำรวจใบหน้างดงามนั้นอย่างรวดเร็วก่อนก้มลงมองมือเรียวบาง และยื่นมือออกไปจับเขย่าเบา ๆ พอเป็นมารยาท
“ขอให้มีความสุขกับมื้ออาหารนะคะ” เธอบอกกับเขาแม้จะคิดว่าชายหนุ่มหน้าตาคุ้น ๆ แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนัก จากนั้นหันไปพูดกับกรวิน “ต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีฉันยังต้องกลับไปดูรายการอาหารในครัว”
“ไม่เป็นไรคุณอันรดาไปเถอะครับ” กรวินตอบ คล้อยหลังหญิงสาวแล้ว เขาจึงหันมาผายมือเชิญภามเข้าไปด้านในห้องอาหาร ชายหนุ่มพยักหน้ารับทว่าสายตาคมยังคงจับจ้องไปที่หญิงสาวรูปร่างบอบบางซึ่งกำลังเดินไปอีกทางอย่างสนใจ
แฟรงค์ ผู้ช่วยของภามไม่คิดว่าจู่ ๆ ปฏิกิริยาของภามจะเปลี่ยนไปแบบกะทันหัน และท่าทางของภามที่มีต่อเชฟคนนี้แปลกมาก ภามไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง แม้จะเป็นการจับมือตามมารยาทก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีผู้ช่วยส่วนตัวและเลขานุการเป็นผู้ชายทั้งหมด
สายตาของแฟรงค์มองกลับไปกลับมาระหว่างภามกับอันรดา หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ยอมรับความจริงที่ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ภามจับมือกับผู้หญิง ถึงมันจะเป็นการจับมือตามมารยาทก็เถอะ สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นคืออยู่ ๆ ภามกลับเต็มใจที่จะทานอาหารเย็นที่โรงแรมแห่งนี้อีกด้วย ทั้งที่เขาพึ่งตำหนิว่าพื้นไม่เงางามมากพอ แต่ตอนนี้ภามถึงกับเดินไปด้วยความเร็วทิ้งเขาไว้ข้างหลัง มิหนำซ้ำก่อนเดินไปเมื่อครู่ยังทิ้งสายตามองตามหลังเชฟสาวคนสวยตั้งหลายวินาที
หลังไปถึงโต๊ะที่นั่ง แฟรงค์ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเพราะภามไม่บ่นหรือตำหนิอะไรอีกเลย เขาเพียงแค่เลือกเซตเมนูตามความชอบ และในสายตาของแฟรงค์เห็นได้ชัดว่า ภามกำลังมองหาเชฟที่ชื่ออันรดา
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบถ้วน พวกเขาก็ลงมือทานอาหารเช่นปกติ จากนั้นทั้งภามและแฟรงค์ต่างก็รู้สึกเหมือนตกอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน
“ว้าว! นี่คืออาหารที่ดีที่สุดใช่มั้ยครับบอส?” แฟรงค์ถามขึ้นมา
กรวินยกมือขึ้นก่อนจะพูดว่า “ผมบอกคุณแล้วว่าเชฟทำอาหารอร่อยจริง ๆ น่าทึ่งใช่ไหมครับ”
“อืม… ดี” ภามพูด “เยี่ยม!”
ขณะที่พวกเขากำลังชื่นชมอาหารจานนั้น เชฟก็ออกจากครัวเพื่อมาดูแลและสอบถามความพึงพอใจของลูกค้า มันเป็นธรรมเนียมที่อันรดาจะปรากฏตัวต่อหน้าแขกในช่วงเวลาอาหารเย็นของพวกเขา
แฟรงค์เห็นภามจับจ้องไปทางเชฟและพูดว่า “อาหารสวยมาก!”
'อาหารสวยมาก?' แฟรงค์คิดอย่างไม่เข้าใจว่าเจ้านายของเขาต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่
ทั้งกรวินและแฟรงค์ต่างก็สับสน แฟรงค์ถามย้ำเพื่อให้เข้าใจคำพูดของเจ้านายได้กระจ่างมากขึ้น “อันไหนครับบอส อาหารหรือเชฟที่สวย?”