วิวาห์ร้อนอ้อน(ให้)รัก EP.1 ลิขิตสวรรค์
..เฮ้อ...
บัวชมพูถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก หลังจากจัดการส่งเพื่อนสนิทที่แอบบิดามารดาบินกลับมาเมืองไทย หลังจากไปเรียนต่อที่อังกฤษได้ไม่ถึงครึ่งปี
ดวงตาคู่หวานก้มมองนาฬิกาบนข้อมือแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง เพราะความเอาแต่ใจของอรนภาคนเดียวถึงทำให้เธอต้องกลับบ้านดึกดื่น
“ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย”
ถูกลากออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าบ่นงึมงำกับตัวเอง กว่าเพื่อนตัวแสบคนนี้บินกลับอังกฤษก็อีกหลายวัน แค่คิดก็ชวนให้ปวดหัวแล้ว
“รีบกลับบ้านดีกว่าเรา ป่านนี้พ่อชิตกับแม่ดาคงเป็นห่วงเราแล้ว ว่าแต่ทำไมน้ายมถึงไม่โทร. มาสักที”
เธอนัดน้าชายข้างบ้านคนนี้เอาไว้ตอนสองทุ่มครึ่ง แต่ยังไม่เห็นเขาโทร. มาเสียที ทั้งที่มันก็ใกล้เวลานัดเต็มที บัวชมพูยังพึมพำออกมาเบาๆ กับการมาสายของน้ายม คนขับแท็กซี่ที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน
สองหนุ่มในชุดสูทสีดำรีบเร่งฝีเท้าเมื่อเห็นหญิงสาวที่พวกเขาตามหามาตั้งแต่ช่วงเที่ยงด้วยท่าทีร้อนรน พวกเขาตามหามาตั้งแต่รู้ว่าเธอหายไปจากห้องพักในโรงแรม
บัวชมพูเดินมานั่งหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างหงุดหงิดเล็กน้อยที่น้ายมยังไม่มารับตามนัดเสียที โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย
“มาอยู่นี่เองหรือครับคุณพลอย ทุกคนเป็นห่วงอยู่นะครับ”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มในชุดสูทเดินเข้ามาหยุดอยู่ด้านหลังทำให้บัวชมพูเอียงหน้าหันมามองเจ้าของเสียงอย่างประหลาดใจ
“พวกคุณเป็นใครหรือค่ะ”
“อย่ามาล้อเล่นนะครับคุณพลอย”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำเอ่ยขึ้น ส่งสายตาตำหนิเจ้าสาวของเจ้านายหนุ่ม สร้างแต่ปัญหาไม่หยุดหย่อน ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดคุณท่านทั้งสองถึงเลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้
“คุณทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับคุณพลอย”
ถ้าไม่อยากแต่งงานกับเจ้านายของเขา ก็ควรปฏิเสธตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ใช่ทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้ โชคดีที่หาเจอ ถ้าอย่างนั้นทั้งเจ้านายหนุ่มและตระกูลเลิศภาณิชย์คงเสียชื่อไม่น้อย
“พวกคุณเป็นใคร แล้วคุณพลอยนี่ใครเหรอ?” เธอไปรู้จักผู้หญิงชื่อ ‘พลอย’ เมื่อไรกัน บัวชมพูมองสองหนุ่มสลับกันอย่างสงสัย
“ก็คุณไงครับคุณพลอย” ชายหนุ่มตำหนิเสียงเยียบเย็น
“ฉันไม่ใช่ชื่อพลอยนะ พวกคุณทักคนผิดแล้ว” บัวชมพูตอบเสียงเขียวตวัดสายตามองสองหนุ่มอย่างไม่พอใจ
“ไม่ผิดหรอกครับ อย่ามาเล่นตลกกับพวกผมเลยครับคุณพลอย เชิญครับ เจ้านายกับคุณท่านทั้งสองรอคุณพลอยอยู่”
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่ได้ชื่อพลอย ฉันชื่อ บัวชมพู บวรนันท์ ชื่อเล่น เหมียว” บัวชมพูลุกขึ้นโวยวายใส่สองหนุ่ม
“อย่าให้พวกผมต้องจับตัวคุณ แล้วลากไปพบคุณท่านทั้งสองและเจ้านายผมเลยครับคุณพลอย”
ชายหนุ่มร่างกำยำเอ่ยเสียงเรียบ มองว่าที่เจ้าสาวของเจ้านายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ เขากับเพื่อนไม่อยากทำอะไรรุนแรงนัก หากไม่ยอมไป ก็อย่าหาว่าเขารังแกผู้หญิงก็แล้วกัน
บัวชมพูขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดของชายหนุ่มทั้งสอง ทั้งที่เธอบอกว่าไม่รู้จักและตัวเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่พวกเขาตามหา แล้วทำไมถึงยังยืนยันว่าเธอคือผู้หญิงที่ชื่อ ‘พลอย’ กันอีก
“ฉันว่าพวกเราจับคุณพลอยไปเลยดีกว่า พูดไปก็ไร้ประโยชน์”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ฉันก็หมดอารมณ์ที่จะพูดกับคุณพลอยแล้ว”
“อะไรของพวกคุณเนี่ย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” บัวชมพูเริ่มโวยวายอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มทั้งสองดึงแขนเธอลุกจากเก้าอี้
“ขอโทษด้วยครับคุณพลอย นี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย ถ้าคุณพลอยขัดขืนก็ให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับคุณพลอย”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!”
คนถูกลากโวยวายเสียงดังลั่น พยายามขัดขืนอย่างสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถต้านทานเรี่ยวแรงของผู้ชายสองคนนี้ได้
*******
สิบนาทีต่อมา...
เสียงเอะอะโวยวายที่ดังอยู่หน้าห้องก่อนประตูถูกเปิดออก ตามด้วยหญิงสาวเพรียวร่างระหงถูกดันเข้ามาในห้องพร้อมกับชายหนุ่มในชุดสูทสองคนเดินปิดท้ายเข้ามาแล้วดึงประตูห้องปิด
“ตกลงนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน พวกคุณเป็นใครกันแน่”
บัวชมพูยังโวยวายไม่หยุด ใบหน้างามบึ้งตึง ยามเหลือบมองสองหนุ่มที่ลากเธอมาทั้งที่เธอไม่รู้จักพวกเขาเสียหน่อย
“หายไปไหนมาหนูพลอย รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงหนูมากแค่ไหน”
“ใครเป็นลูกสาวของคุณไม่ทราบ” บัวชมพูหันมาถามหญิงสูงวัยที่ลุกจากโซฟาเข้ามากอดเธอ
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะยัยพลอย ผู้หญิงที่กอดแกอยู่ เป็นแม่ของแกไง”
ชายสูงวัยเอ่ยตำหนิบุตรสาวเสียงแข็ง ถ้าไม่ติดว่าท่านเกรงใจบิดามารดาของลูกเขย ท่านจะทำยิ่งกว่านี้เสียอีก
‘ฉันอุตส่าห์หาผัวดีๆ ให้ แต่ดูแกทำตัวสิยัยพลอย แย่ที่สุด!
บัวชมพูมองชายหญิงสูงวัยที่แนะนำตัวเองว่าเป็นบิดามารดาของเธอ คนพวกนี้กำลังเล่นตลกอะไรกัน ยังมีชายหญิงสูงวัยอีกคู่หนึ่งแล้วยังมีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสีขาวอีกคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนั่นอีก
“พวกคุณกำลังเล่นตลกอะไรกัน แล้วคุณสองคนเป็นใคร ทำไมถึงบอกว่าเป็นพ่อแม่ของฉัน”
เธอมีพ่อแม่หน้าตาแบบนี้ที่ไหนกัน ตอนนี้พวกท่านกำลังนอนดูทีวีอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุข หญิงสาวมองสองสามีภรรยาที่อ้างตนว่าเป็นบิดามารดาของเธออย่างไม่พอใจ
“ที่สำคัญฉันไม่ได้ชื่อ ‘พลอย’ พวกคุณคงจำคนผิดแล้ว”
“แกจะสร้างปัญหาให้ฉันกับแม่ของแกไปถึงไหนกัน รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วแต่งหน้าใหม่เสียที” ชายสูงวัยเอ่ยตำหนิบุตรสาวเสียงกร้าว
“นั่นสิหนูพลอย อย่าพูดแบบนี้อีกนะลูก แม่ไม่ชอบ”
“นั่นสิหนูพลอย”
หญิงสูงวัยอีกคนเอ่ยขึ้น มองว่าที่ลูกสะใภ้อย่างไม่ชอบใจนัก ท่านคงคิดผิดจริงๆ ที่เลือกบุตรสาวของคุณไตรภพกับคุณอริสรามาให้บุตรชาย
“เฮ้อ...” บัวชมพูถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไร คนพวกนี้กำลังพูดถึงเรื่องบ้าบออะไรกัน
‘ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...’
“ฉันชื่อ...บัวชมพู บวรนันท์...ชื่อเล่น...เหมียว...คุณพ่อกับคุณแม่ของฉันชื่อชิตพงษ์กับปนัดดา บวรนันท์ ส่วนนี่บัตรประชาชนของฉัน”
แนะนำตัวเองแล้วก็รีบหยิบบัตรประชาชนออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ยื่นให้สองสามีภรรยาที่บอกว่าเธอเป็นบุตรสาวของพวกเขา
คุณอติเทพกับคุณขวัญฤดีเลิกคิ้วทำหน้างุนงงเล็กน้อยกับคำพูดนั้น ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน หน้าตาเหมือนว่าที่ลูกสะใภ้ของพวกท่านขนาดนี้ ดันมาบอกว่าไม่ใช่แถมยังบอกอีกว่าบิดามารดาของตนเป็นใคร
“แกอย่ามาล้อเล่นกับฉันนะยัยพลอย” ชายสูงวัยตวาดเสียงดังลั่น
“ล้อเล่นของอะไรของพวกคุณ ตั้งแต่ฉันเกิดมาจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าพวกคุณสองคนเลย”
บัวชมพูตวาดใส่อย่างเหลืออด ทั้งที่เธอบอกชื่อบิดามารดาแถมยังยื่นบัตรประชาชนให้ดู แต่ทำไมสองสามีภรรยาคู่นี้ยังไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดอีก
“ทำไม! หน้าตาฉันเหมือนลูกสาวคุณนักหรือไง พวกคุณสองคนก็เหมือนกัน ทั้งที่ฉันบอกว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณตามหา แต่พวกคุณก็ไม่เชื่อ ตกลงพวกคุณอยากได้อะไรจากฉัน”
“แกจะเล่นแรงไปแล้วนะยัยพลอย ถ้าแกยังพูดจาไร้มารยาทอีก ฉันจะไม่ยกโทษให้แกแน่”
“พอเถอะค่ะคุณไตร ยังไงหนูพลอยก็เป็นลูกของเรานะคะ”
“คุณน่ะหยุดไปเลย ตามใจยัยพลอยจนเคยตัว ยัยพลอยถึงได้เสียคน ชอบสร้างแต่ปัญหาให้ผมต้องอับอาย ขายขี้หน้าชาวบ้านอยู่เรื่อย”
คุณไตรภพหันมาตวาดภรรยาอย่างหัวเสีย เพราะคอยตามใจอยู่แบบนี้ไงเล่า พรทิพาถึงทำตัวเหลวไหล สร้างแต่ปัญหาน่าปวดหัวให้ท่านตลอด
บัวชมพูก้มมองนาฬิกาบนข้อมืออีกครั้งแล้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แทนที่จะได้กลับบ้านไปนอน แต่เธอดันมาเจอเรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้
‘เกือบสามทุ่มแล้วนี่นา ทำไมน้ายมถึงไม่โทร. มาสักทีล่ะเนี่ย หรือยังขับรถไปส่งลูกค้าไม่เสร็จ’
“น้องพลอยต้องเข้าพิธีแต่งงานกับพี่ นี่ก็เลยเวลามานานแล้วนะครับ”
ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน
“นั่นสิหนูพลอย แม่ว่าหนูพลอยรีบไปแต่งตัวเถอะ งานเลี้ยงในคืนนี้ล่าช้ามานานแล้วนะ” คุณอริสราหันมาบอกบุตรสาวอย่างอ่อนโยน
“ป้าก็เห็นด้วยนะหนูพลอย”
คุณขวัญฤดีพูดเตือนสติ ถึงไม่ชอบใจกับสิ่งที่พรทิพาทำ แต่ท่านก็ไม่ต้องการให้ตระกูลเลิศภาณิชย์ต้องเสียชื่อเสียง หากต้องยกเลิกงานแต่งในคืนนี้
******